นักวิจัยสามารถ”ขโมย”ข้อมูลโดยการติดตามความสว่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้

0
https://o.aolcdn.com/images/dims?quality=85&image_uri=https%3A%2F%2Fo.aolcdn.com%2Fimages%2Fdims%3Fcrop%3D960%252C527%252C0%252C0%26quality%3D85%26format%3Djpg%26resize%3D1600%252C878%26image_uri%3Dhttps%253A%252F%252Fs.yimg.com%252Fos%252Fcreatr-uploaded-images%252F2020-02%252Fb140e500-485d-11ea-bdf3-a927a6397bc1%26client%3Da1acac3e1b3290917d92%26signature%3D8e835b51af3578c96646e7308941e30adcff38e3&client=amp-blogside-v2&signature=591a403ed021a4c527809a896e7c1aba38f518f1

มีแนวทางมากมายที่จะลักขโมยข้อมูลจากคอมพิวเตอร์โดยที่ไม่ต้องมีการเชื่อมต่อกับเน็ตเวิร์ก หรืออาจจะเป็นการจารกรรมทางกายภาพในรูปแบบเก่าๆ อย่างวิ่งราวฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น หากแต่สิ่งนี้จะเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ฉลาดกว่าเดิม โดยนักวิจัยได้ค้นพบแนวทางที่จะขโมยข้อมูลจาก “ช่องว่างในอากาศ” กับคอมพิวเตอร์ โดยใช้ความสว่างของหน้าจอ LCD ได้

วิธีการคือเป็นการจัดการกับหน้าจอคอมพิวเตอร์โดยค่อยๆ จับความเปลี่ยนแปลงของค่าสี RGB บนจอ LCD ทีละเล็กทีละน้อยผ่านกล้องวงจรปิดที่สามารถตรวจจับหน้าจอได้ โดยทางทฤษฎีนั้นคือคุณอาจจะหลอกล่อให้ใครบางคนไปโหลดตัวมัลแวร์ (malware) บนระบบเป้าหมายผ่านไดร์ฟ USB แล้วใช้กล้องรักษาความปลอดภัยที่เข้ายึดครองแล้วเพื่อส่งข้อมูลเหล่านั้นไปได้

อย่างไรก็ดี ก็ยังไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครบางคนกำลังอ่านรายละเอียดข้อมูลการล็อกอินผ่านหน้าจอคุณในเร็วๆ นี้ เพราะจากวิธีการข้างต้น โจรที่จะปล้นข้อมูลนั้นจะต้องเจาะเข้าไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเหยื่อและต้องมีกล้องที่พวกเขาควบคุมได้ภายในระยะสายตา ซึ่งสิ่งนี้อาจจะมีประโยชน์สำหรับหน่วยงานข่าวกรองที่โจมตีแบบสไตล์ Stuxnet หากแต่ผู้โจมตีคงจะไม่สามารถนั่งอยู่นอกบ้านแล้วอ่านข้อมูลจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณได้ แต่ถึงกระนั้น สิ่งนี้ก็ทำให้มีเรื่องที่คงจะต้องคิดถึงในการก่อสร้างสถานที่ที่จะต้องมีความปลอดภัยระดับสูงมาก ซึ่งคงจะต้องไม่วางกล้องไว้ข้างหลังคอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันใครมาจารกรรมข้อมูลไปเหมือนกับในภาพยนตร์ Mission Impossible

Source : https://www.engadget.com/2020/02/05/stealing-data-by-tracking-lcd-brightness/