
ระบบผู้ช่วยเสมือนที่อยู่บนเครื่องโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนนั้นมีประโยชน์อย่างมาก หากแต่มันก็คงจะไม่ได้ผ่านการทดสอบของทัวริง (Turing Test) ในเร็วๆ นี้แน่นอน ซึ่งพวกมันถูกออกแบบมาเพื่อเข้าใจคำสั่งที่เฉพาะเจาะจงและดำเนินการตามคำสั่งอย่างตรวจสอบการจองร้านอาหารหรือให้อัพเดทสภาพอากาศ ซึ่งจะยังไม่สามารถจัดการกับบทสนทนาเชิงลึกได้เหมือนกับมนุษย์ แต่แชทบอทก็อาจจะไปได้ไกลกว่าเดิมแล้วด้วย Facebook ที่เพิ่งจะปล่อยแชทบอทที่คุยได้เหมือนคนจริงชื่อ Blender ให้เป็นโครงการ opensource สำหรับงานวิจัย AI
Facebook ได้ลงเงินและทรัพยากรไปในเทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) มาในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ และความพยายามเหล่านั้นก็ดูเหมือนจะเริ่มผลิดอกออกผลแล้ว ซึงบริษัทเคลมว่า Blender เป็นแชทบอท opensource ที่ใหญ่ที่สุดตัวเดียว ณ วันนี้ ซึ่งได้เทรนบนตัวแปรที่มากกว่า 9.4 พันล้านพารามิเตอร์ หรือมากกว่า 4 เท่าจาก Meena ของ Google หรือมากกว่า 10 เท่าจากแชทบอท OS ที่ใหญ่ที่สุดก่อนหน้านี้ที่มีบนโลกอินเตอร์เน็ต
“หนึ่งในงานวิจัยล่าสุดในด้าน NLP และ AI ทั่วๆ ไปนั้นได้เติบโตขึ้น ซึ่งโมเดล Neural Network เหล่านี้ได้ใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะทำงานได้ดีขึ้น” คุณ Stephen Roller วิศวกรนักวิจัยที่ AI Lab ของ Facebook (FAIR) กล่าว “พวกเราได้มีปัญหามากมายเมื่อพวกเราจะต้องพยายามเทรนสิ่งนี้ และเมื่อคุณเริ่มต้นใหญ่ขนาดนั้น สิ่งเหล่านี้ก็จะไม่สามารถทำงานได้บนเพียงแค่ GPU เดียวอีกต่อไป”
Blender นั้นมีความฉลาดทางอารมณ์ที่เพียงพอที่จะรู้จักการยินดีด้วยกับคุณเมื่อคุณบอกไปว่าเพิ่งจะได้เลื่อนขั้นงาน หรือแสดงความเสียใจถ้าหากคุณบอกว่าสุนัขอันเป็นที่รักได้เสียชีวิตลง ซึ่ง FAIR นั้นยังได้สอนมันมากกว่าแค่การตอบสนองตามที่ท่องจำเมื่อมีการถามถึงเรื่องต่างๆ ไป ตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณถาม Google Assistant เกี่ยวกับ Led Zeppelin มันก็มักจะตอบโดยอ่านจากบรรทัดแรกๆ ของวงในหน้าเว็บ Wikipedia “ดังนั้น พวกเราออกแบบข้อมูลที่มุ่งหวังจะก้าวไปอีกขั้นที่เหมือนกับการชิทแชทและเข้าไปในเชิงลึกในแต่ละหัวข้อ และสอนข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโลกใบนี้ให้มากขึ้นลงไปในโมเดล”คุณ Emily Dinan หนึ่งในวิศวกรนักวิจัยที่ FAIR กล่าว
Source : https://www.engadget.com/facebook-chatbot-ai-open-source-blender-150001320.html