
Uber กำลังจะออกข้อตกลงใหม่สำหรับโลกความเป็นจริงที่ถูกบังคับจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 โดยกำลังใช้เทคโนโลยีเพื่อทำให้มั่นใจว่าทุกคนได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว ซึ่งบริษัทได้ยืนยันกับทาง CNN Business ว่ากำลังจะกำหนดให้ทุกคนทั้งคนขับรถหรือผู้โดยสารจะต้องใส่หน้ากากตลอด ในประเทศต่างๆ อย่างสหรัฐอเมริกา อีกทั้งกำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยตรวจจับว่าคนขับรถนั้นได้ปฏิบัติตามกฏระเบียบเหล่านั้นอยู่
Uber ไม่ได้บอกมาอย่างละเอียดว่าเทคโนโลยีดังกล่าวทำงานอย่างไร แต่ Uber ก็ได้มีฟีเจอร์ Real Time ID-check ที่จะมีการตรวจสอบให้คนขับรถถ่ายรูปเซลฟีส่งมาเป็นระยะๆ แล้ว นอกจากนี้ ผู้ให้ข่าวกับ CNN ยังเสริมว่า Uber กำลังหาแนวทางที่จะทำให้มั่นใจว่าคนขับรถจะใส่หน้ากากอยู่แม้ว่าจะมีประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวนั้นจะทำให้ยากขึ้นกว่าเดิมก็ตาม
Uber ได้จัดหาหน้ากากและน้ำยาฆ่าเชื้อส่งให้กับคนขับรถไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งนโยบายใหม่นี้จะจำเป็นอย่างมากหากบริษัทหวังที่จะฟื้นฟูธุรกิจกลับขึ้นมาหลังจากที่รัฐบาลเริ่มยกเลิกข้อจำกัดการล็อคดาวน์บางอย่างไป เพราะบริการ ridesharing นั้นได้รับผลกระทบแบบเต็มๆ ทั้งคำสั่งให้อยู่บ้าน ปิดร้านค้าต่างๆ รวมทั้งผู้คนก็เกิดความกลัวกังวลที่จะไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆ ซึ่งจากสถานการณ์นั้นจะทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่ค่อยอยากไปที่ไหนเท่าไหร่โดยเฉพาะการที่จะต้องเข้าไปอยู่ในรถยนต์คนอื่น
แม้ว่าหน้ากากนั้นเพียงแค่ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อได้เท่านั้น แต่ก็ช่วยเพิ่มความเชื่อใจทั้งคนขับและคนโดยสารได้ดีกว่าที่ไม่ได้ใส่หน้ากากเลย
Source : https://www.engadget.com/uber-face-mask-detection-technology-184137514.html