ฟีเจอร์ Find My Mobile จาก Samsung เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือช่วยหามือถือหาย และด้วยอัปเดตใหม่ล่าสุดนี้ Find My Mobile จะใช้ตามหาอุปกรณ์ Galaxy ที่ไม่ได้เชื่อมต่อ Wi-Fi หรือเครือข่ายได้แล้ว
แอป Find My Mobile ได้รับการออกแบบมาให้ตามหาอุปกรณ์ได้จากทางไกล backup ข้อมูลไปยัง Samsung Cloud ลบข้อมูลบนเครื่อง และบล็อกการเข้าใช้งาน Samsung Pay ได้หากเกิดกรณีสูญหายหรือถูกขโมย แต่แอปต้องอาศัยการเชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อให้ทำงานตามฟีเจอร์เหล่านั้นได้ ซึ่งหมายความว่า หากอุปกรณ์ไม่ได้เชื่อมต่อเครือข่าย ก็จะตามหาอุปกรณ์ด้วยแอปไม่ได้ Samsung จึงออกอัปเดตใหม่เพื่อแก้ปัญหานี้
อัปเดตล่าสุดสำหรับแอป Find My Mobile เวอร์ชัน 7.2.05.44 เพิ่มฟีเจอร์ “Offline finding” ที่ช่วยหาอุปกรณ์ของคุณได้โดยอาศัยอุปกรณ์ Galaxy เครื่องอื่น แม้ว่าอุปกรณ์ที่หายไปจะไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายก็ตาม ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานคนอื่นสแกนหาอุปกรณ์ Galaxy ที่หายไปซึ่งอาจจะอยู่ใกล้ ๆ
หากเปิดใช้งาน offline finding อยู่ ก็สามารถใช้มือถือของคุณเองสแกนหาอุปกรณ์เครื่องอื่นได้ด้วย ซึ่งหมายความว่า คุณเองก็สามารถช่วยคนอื่นหามือถือได้ถ้าคุณอยู่ในระยะใกล้กับอุปกรณ์นั้น นอกจากนี้ ยังสามารถหา Galaxy Watch และหูฟังได้หากเชื่อมต่อกับมือถืออยู่
Looks like Samsung just added offline finding to Samsung's Find My Mobile.
Let's you track your phone even if it doesn't have WiFi or cellular by using other Galaxy users. pic.twitter.com/psLl1rcb4X
— Max Weinbach (@MaxWinebach) August 22, 2020
ฟีเจอร์นี้ไม่ได้เปิดใช้งานเป็นแบบตั้งค่าเริ่มต้น จึงต้องเข้าไปทำการตั้งค่าหรือจะปิดใช้งานก็ได้หากกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว
นับว่าเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไปยังต่างประเทศในที่ที่ไม่มีเครือข่าย หรือ Wi-Fi ซึ่งก็เป็นเหตุการณ์ที่คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเป็นแน่เมื่อมือถือหายตอนกำลังเที่ยวอยู่