ระบบยานยนต์ไฮบริดรุ่นปรับปรุงจาก Nissan ลดการเผา CO2 ลงไปได้

0
https://s.yimg.com/uu/api/res/1.2/9O4Cbrw7kITkbAgOWJVkoQ--~B/Zmk9ZmlsbDtoPTQ3MTt3PTY3NTthcHBpZD15dGFjaHlvbg--/https://s.yimg.com/os/creatr-uploaded-images/2021-02/3aa939c0-78fd-11eb-bf57-663caf6a8858.cf.webp

Nissan ได้ประกาศว่าสามารถดำเนินการปรับปรุงเทคโนโลยีไฮบริด e-Power ในรุ่นถัดไปให้มีประสิทธิภาพเชิงความร้อน (thermal efficiency) ที่ 50% ซึ่งดำเนินการได้ดีกว่าเครื่องยนต์รุ่นใหม่ๆ โดยส่วนใหญ่ไปกว่า 10%

โดยตามที่ RoadShow อธิบาย เครื่องยนต์แก๊สโซลีนรุ่นใหม่ๆ เกือบทั้งหมดนั้นจะมีประสิทธิภาพเชิงความร้อนอยู่ที่ 40% หรือพูดในอีกทางคือ จะสามารถแปลงพลังงานจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงให้กลายเป็นการเคลื่อนที่ได้เพียง 40% เท่านั้น ซึ่งที่เหลือจะกลายเป็นขยะ อย่างเช่น ความร้อน หรือการปล่อยมลพิษออกมา นั่นหมายความว่า เทคโนโลยีดังกล่าวนี้มีศักยภาพที่จะนำไปสู่การปล่อยมลพิษที่ลดลงไปได้

ผู้ผลิตยานยนต์นั้นเคยสามารถดำเนินการให้มี thermal efficiency ได้สูงขึ้นไปแล้ว แต่ระบบ e-Power นั้นไม่สามารถทำงานได้เหมือนกับเครื่องยนต์แก๊สแบบดั้งเดิม คือไม่สามารถให้พลังงานกับตัวรถได้เอง และยังกลายเป็นตัวผลิตไฟฟ้าแยกออกมาสำหรับ e-powertrain โดยเฉพาะอีก นั่นหมายความว่าเครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะสามารถวิ่งได้ด้วยประสิทธิภาพดีที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ที่จะทำให้ประสิทธิภาพทีจะเผาผลาญเชื้อเพลิงให้ได้ผลดีที่สุดได้

คุณ Toshihiro Hirai รองประธานอาวุโสของแผนก powertrain และวิศวกรรม EV ของ Nissan กล่าวกับนักข่าวว่า

“มันใช้เวลาถึง 50 ปีในการเพิ่ม thermal efficiency (ของเครื่องยนต์แบบดั้งเดิม) จาก 30% ให้เป็น 40% แต่ e-Power นั้น พวกเราสามารถเพิ่มให้กลายเป็น 50% ได้ภายในเวลาไม่กี่ปี นั่นได้เป็นเป้าหมายสำหรับกลุ่มชุมชนวิศวกรรมมานานแล้ว” เขากล่าว และอธิบายว่าระดับนั้นเป็น “เป้าหมายที่สุดยอดและท้าทายมาก”

Source : https://www.engadget.com/nissan-improved-e-power-engine-172022135.html