JD.com อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากจีน เริ่มจ่ายเงินหยวนดิจิทัลแก่พนักงาน

0
YICHANG, CHINA - FEBRUARY 22, 2021 - Digital Chinese currency is displayed on a mobile phone in Yichang, Hubei province, China, Feb 22, 2021. A spokesman for e-commerce bank said that as one of the participating institutions in the research and development of digital RMB, e-commerce bank will steadily promote the pilot test in accordance with the overall arrangement of the Central Bank of China.- PHOTOGRAPH BY Costfoto / Barcroft Studios / Future Publishing (Photo credit should read Costfoto/Barcroft Media via Getty Images)

แผนของประเทศจีนที่จะใช้สกุลเงินดิจิทัลนั้นได้รับความช่วยเหลืออย่างยิ่งจากหลายบริษัท หนึ่งในนั้นก็คือ JD.com บริษัทผู้ค้าปลีกออนไลน์คู่แข่ง Alibaba ซึ่งได้เริ่มจ่ายเงินพนักงานเป็นสกุลเงินหยวนดิจิทัลแล้ว

จีนกำลังทดลองใช้สกุลเงินดิจิทัลในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เมื่อเดือนตุลาคมปี 2563 เมืองเซินเจิ้นก็ได้บริจาคเงินสกุลหยวนดิจิทัล 10 ล้านหยวนแก่ประชาชน 500,000 ราย เพื่อนำไปซื้อสินค้าในร้านค้าปลีกออนไลน์และออฟไลน์ เมืองใหญ่หลาย ๆ เมืองก็เริ่มตามรอยเมืองเซินเจิ้นเช่นกัน โดยประชาชนในพื้นที่นั้นต้องสมัครผ่านธนาคารที่กำหนดเพื่อรับและจ่ายเงินสกุลหยวนดิจิทัล

แนวคิดสกุลเงินหยวนดิจิทัลเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลของจีน ธนาคารพาณิชย์ และผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยี โดยโครงการนี้ก็เลียนแบบการหมุนเวียนของเงินหยวนในขณะนี้ที่อยู่ภายใต้การกำหนดทิศทางของธนาคารกลาง ธนาคารพาณิชย์ 6 แห่ง รวมถึง ICBC ด้วย ในการแจกจำหน่ายเงินหยวนแก่ธนาคารขนาดย่อมและเครือข่ายผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดการใช้งานเงินอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้น

Image credit: TechCrunch

ดังเช่นกรณีของ JD.com ที่ร่วมกับ The Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) ในการรับฝากรายได้รูปแบบดิจิทัล ตอนนี้กลายเป็นว่า JD.com เป็นหนึ่งในองค์กรแรกของจีนที่จ่ายค่าแรงเป็นเงินหยวนดิจิทัล

นอกจาก JD.com แล้ว ก็ยังมีแพลตฟอร์มอื่นเช่นกันที่เริ่มยอมรับเงินหยวนดิจิทัลเพื่อการทำธุรกรรม เช่น Bilibili แพลตฟอร์มสตรีมวิดีโอ, Meituan ผู้ให้บริการแบบออนดีมานด์, Didi แอปเรียกรถ เป็นต้น

บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในจีนต่างก็มีส่วนร่วมในการสร้างระบบนิเวศน์สกุลเงินหยวนดิจิทัล ที่จะช่วยให้รัฐบาลกลางติดตามกระแสเงินได้ดียิ่งขึ้น