ในช่วงที่โรงเรียนต้องหยุดเนื่องจากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 แพร่ระบาดอีกระลอก ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนการสอน โดยเฉพาะเด็กที่กำลังหัดอ่านออกเสียง ซึ่งต้องมีครูคอยนั่งประกบเพื่อสอนกันแบบตัวต่อตัว และถึงแม้ว่าจะมีการใช้งาน Teams หรือ Zoom ชดเชยการไปเรียนที่สถานศึกษาได้ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้สะดวกกับทั้งผู้เรียนและผู้สอนสักเท่าไร Microsoft จึงออกฟีเจอร์ใหม่ช่วยแก้ปัญหาในด้านการเรียนการสอนอ่านออกเสียง
Microsoft ได้เพิ่มฟีเจอร์ Reading Progress ลงบน Microsoft Teams ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนักเรียนพัฒนาทักษะการอ่าน โดยให้นักเรียนบันทึกเสียงขณะอ่านข้อความ และให้ครูผู้สอนประเมินอัตราความถูกต้อง คำที่อ่านออกเสียงผิด และอื่น ๆ อีกมาก
งานวิจัยล่าสุดจาก Stanford University พบว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 กระทบต่อความสามารถในการอ่านของนักเรียน ซึ่งความสามารถในการอ่านคล่องในกลุ่มเด็กนักเรียนได้ลดลงไปราว 30 เปอร์เซ็นต์ ทีมนักวิจัยจึงทำงานร่วมกับ Microsoft Education เพื่อเร่งพัฒนาความสามารถในการอ่านของเด็ก
ทาง Microsoft ได้พัฒนา Reading Progress เวอร์ชันอัลฟา และทดลองกับครูมากกว่า 350 คน ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว และพร้อมปล่อยฟีเจอร์ดังกล่าวออกมาให้ใช้งานฟรีก่อนปีการศึกษาหน้า ผู้สอนจะเห็นหน้า dashboard แสดงอัตราความแม่นยำ จำนวนคำต่อนาที และสามารถข้ามไปที่คำเฉพาะเจาะจงเพื่อฟังว่านักเรียนออกเสียงอย่างไร ผู้สอนยังสามารถปิด auto detection ได้ และประเมินนักเรียนอ่านออกเสียงผ่านวิดีโอด้วยตัวเอง
เทคโนโลยีนี้ใช้ Azure เป็น backend ที่ช่วยให้ครูผู้สอนปรับความไวต่อการประเมินนักเรียนที่มีความบกพร่องด้านการพูดหรือความบกพร่องในการอ่านและการเขียน (dyslexia) ได้ นอกจากนี้ยังรองรับสำเนียงและภาษาถิ่นต่าง ๆ ได้ แต่เบื้องต้นยังรองรับเฉพาะการใช้งานภาษาอังกฤษแบบอเมริกันเท่านั้น
Microsoft คาดว่าเทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้กับกลุ่มอื่นนอกเหนือจากนักเรียนในชั้นประถมด้วย เช่น กลุ่มการศึกษาพิเศษเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน กลุ่มการสอนรู้หนังสือสำหรับผู้ใหญ่ เป็นต้น ซึ่งการใช้เทคโนโลยีนี้ช่วยลดความกดดันและความอึดอัดของผู้เรียนกับการนั่งอ่านต่อหน้าครู อีกทั้งยังช่วยให้ครูไม่ต้องเสียเวลามากเกินไปไปกับการช่วยฝึกทักษะการอ่านคล่องของผู้เรียน