Amazon ไม่หยุดเพียงแค่การส่งสินค้าที่สั่งซื้อเฉพาะผ่านเว็บไซต์ของ Amazon เท่านั้น เพราะตอนนี้บริษัทได้เร่งขยายธุรกิจจัดส่งสินค้า พร้อมขยายการให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มอื่นที่ไม่ใช่ผู้ใช้บริการ Amazon เพื่อแข่งกับ FedEx และ UPS
Amazon เผยในรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกว่า รายจ่ายฝ่ายทุนเพิ่มขึ้นถึง 80% จากปีก่อนหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเครือข่ายโลจิสติกส์ภายในองค์กรได้ถึง 50% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามข้อมูลของ SJ Consulting Group นั้น Amazon จัดส่งพัสดุของตนเองได้ถึง 72% เพิ่มขึ้นจาก 46.6% ในปี 2019
ในปี 2014 Amazon เริ่มสร้างเครือข่ายขนส่งทั่วโลกตั้งแต่เริ่มต้น และจนถึงตอนนี้บริษัทก็มีพนักงานขับรถส่งสินค้า 400,000 รายทั่วโลก รถบรรทุก 40,000 คัน รถตู้ 30,000 คัน และเครื่องบินอีกมากกว่า 70 ลำ ล่าสุด Amazon ได้ลงทุนครั้งใหญ่มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์กับ Amazon Air Hub ที่พึ่งเปิดในรัฐเคนตักกี้เมื่อเดือนสิงหาคม
Amazon มีบริการส่งสินค้าหลากหลายรูปแบบอยู่แล้วสำหรับผู้ค้าภายนอก อย่างโปรแกรม Logistics as a Service ในสหราชอาณาจักร ซึ่งคาดว่าจะให้บริการในอเมริกาในอีก 18 เดือนข้างหน้าหรืออย่างเร็วคือภายในปีนี้ อีกทั้งยังมีบริการ FBA หรือ Fulfilled by Amazon ที่ให้บริการส่งสินค้าที่สั่งจาก eBay, Walmart และบริษัทอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน โดยการลงทุนเหล่านี้จะช่วยให้ Amazon ตีตลาดแข่งกับ FedEx และ UPS ได้