เมื่อต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่อระบบดิจิทัลที่ไร้ประสิทธิภาพแบบซ้ำ ๆ ทำให้ลูกค้าในเมืองไทยจำนวนมากต่างหันมาใช้โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ของออราเคิล Oracle Cloud Infrastructure (OCI) เพราะมอบประสิทธิภาพสูง พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยแบบบิลต์อิน และผลตอบแทนการลงทุนที่คุ้มค่ากว่า โดยลูกค้าเริ่มตระหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า มิใช่แค่ประโยชน์ที่จะได้ทันทีจากการใช้งานเท่านั้น แต่คลาวด์ยังช่วยยกระดับธุรกิจให้มีความได้เปรียบทางการแข่งขันระยะยาว จากการลดภาระด้านการดูแลรักษาระบบ และช่วยให้องค์กรสามารถใช้เวลาไปเพื่อการคิดค้นพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ได้มากขึ้น
Oracle Cloud Infrastructure (OCI)
ออราเคิลยังได้ขยายฐานการดำเนินงานด้วยการเปิด Oracle Cloud Singapore Region เพื่อตอบสนองความต้องการบริการระบบคลาวด์ในปัจจุบัน ส่วนในเมืองไทย พบว่ามีลูกค้าจำนวนมากขึ้นที่เลือกใช้ OCI เป็นแหล่งจัดเก็บและทำงานด้านข้อมูล รวมถึงองค์กรขนาดใหญ่อย่างบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)
โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ของออราเคิล Oracle Cloud Infrastructure (OCI) ช่วยให้ลูกค้าสามารถย้ายปริมาณงานและแพลตฟอร์มข้อมูลที่มีความซับซ้อนและสำคัญต่อธุรกิจเข้าไปไว้ในคลาวด์ สร้างแอพพลิเคชั่นสำหรับการทำงานในคลาวด์รูปแบบใหม่ ทั้งยังได้ประโยชน์อย่างมากจากประสิทธิภาพขั้นสูงของระบบ รวมถึงการลดต้นทุน และระบบรักษาความปลอดภัยแบบบิลต์อินอันเปี่ยมด้วยขีดความสามารถ ลูกค้ายังจะได้เข้าถึงบริการทั้งหมดใน Oracle Fusion Cloud Applications รวมถึง Oracle Autonomous Database, Oracle Container Engine for Kubernetes, และโซลูชัน Oracle Cloud VMware ซึ่งมอบทางเลือกใหม่แก่ลูกค้าในการสร้างสถาปัตยกรรมรองรับการทำงานที่เหมาะสมกับความจำเป็นทางธุรกิจมากที่สุด
นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย กล่าวว่า “เราได้เห็นถึงการเติบโตทางธุรกิจอย่างมากในปีที่ผ่านมา เมื่อลูกค้าได้พัฒนาและปรับโครงสร้างการทำงานใหม่ให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีคลาวด์ของออราเคิล พวกเขาจึงตระหนักว่าระบบคลาวด์ของแต่ละบริษัทไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด และยอมรับว่าออราเคิลมอบทางเลือกในการย้ายแอปพลิเคชั่นทางธุรกิจของพวกเขาสู่ระบบการทำงานใหม่ที่ง่ายดายและรวดเร็วกว่าจริง ๆ ”
บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ ถือเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย มีบทบาทสำคัญในด้านการบริหารจัดการหนี้และช่วยให้สถาบันการเงินของประเทศสามารถบริหารทรัพย์สินที่ไม่ก่อรายได้ “ด้วยการสนับสนุนจากทีม Oracle Cloud Lift Services และพันธมิตรของเรา iCE Consulting ทำให้เราสามารถใช้แพลตฟอร์มการบริหารจัดการข้อมูลแบบบูรณาการแนวใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่มีทั้ง Oracle Autonomous Data Warehouse การบูรณาการระบบ เครื่องมือ ETL พื้นที่เก็บข้อมูลกลาง หรือ Data Lake และบริการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ” ดร.ธนกร หวังพิพัฒน์วงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าว “ทีมงานออราเคิลช่วยสนับสนุนให้เราสามารถย้ายปริมาณงานเข้าสู่แบบแผนการทำงานบนคลาวด์ ทำให้บริหารจัดการข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและได้ข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นในการตัดสินใจทางธุรกิจที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งได้ร่วมกับ iCE Consulting ที่เข้ามาช่วยเสริมความมั่นใจให้ชุดเทคโนโลยีของบริษัทผสานการทำงานกับคลาวด์ของออราเคิล ได้อย่างไร้รอยต่อ”
ทางด้าน นายพอล ฮาวเว่ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เรามีผู้ใช้งานนับพัน ทั้งภายในบริษัทและจากซัพพลายเออร์ของเรา ที่ต้องเข้าถึงระบบงานพร้อมกันได้ไม่ว่าเวลาใด เราจึงต้องการระบบที่แข็งแกร่งที่สามารถรับมือภาระงานอันซับซ้อนและตอบสนองผู้ใช้งานได้อย่างฉับไว โดยยังต้องมีความปลอดภัยทางข้อมูล ซึ่ง Oracle Autonomous Data Warehouse (ADW) บน OCI ช่วยให้เราสามารถปรับเปลี่ยนขนาดการดำเนินงาน ลดเวลาดาวน์ไทม์ บริหารภาระงานที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น และพัฒนาโซลูชันใหม่ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องสูญเสียความปลอดภัยของข้อมูล”
การพัฒนา OCI ล่าสุด
ในขณะที่อุปสงค์ต่อระบบคลาวด์ของออราเคิลเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ของออราเคิล Oracle Cloud Infrastructure (OCI) ก็มีการเติบโตขึ้นอย่างมากเช่นกัน โดยมีการนำเสนอบริการและฟีเจอร์การทำงานนับร้อยรูปแบบในปีที่ผ่านมา สำหรับไตรมาสล่าสุด OCI สามารถรองรับการเชื่อมต่อแบบมัลติคลาวด์ จึงช่วยปลดภาระเรื่องค่าธรรมเนียมการถ่ายโอนข้อมูลผ่านการผนึกกำลังกับ Cloudflare และตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการเปิดตลาดฐานข้อมูลแบบ Open-source ผ่านการเสริม HeatWave with MySQL Autopilot เข้าไปใน OCI รวมถึงทำให้เหล่านักพัฒนาสามารถประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ากับแอพพลิเคชั่นของพวกเขาได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลผ่านการเสริมบริการปัญญาประดิษฐ์ชุดใหม่ให้กับ OCI
การใช้งาน Dedicated Region และ Exadata Cloud@Customer เพิ่มมากขึ้น
ออราเคิลยังพัฒนากลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ให้ลูกค้าสามารถทำงานได้ในสถานที่ทำงานของพวกเขา ช่วยให้ลูกค้าสามารถเก็บข้อมูลและบริการต่าง ๆ ไว้ใช้งานในยามที่จำเป็นได้ผ่านความสามารถของระบบคลาวด์ออราเคิลจากศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเองอย่างสมบูรณ์แบบด้วย Dedicated Region และ Exadata Cloud@Customer
องค์การชั้นนำของเมืองไทยอย่างกรุงเทพประกันภัยและธนาคารทิสโก้ ไว้วางใจ Oracle Exadata Cloud@Customer เพื่อการดำเนินงานและการปรับตัวให้ทันต่อสภาวะทางธุรกิจที่ไม่อาจคาดเดาได้ พวกเขาเลือก Exadata ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มฐานข้อมูลที่เร็วที่สุดในโลกเพื่อรับมือกับภาระงานที่สำคัญต่อธุรกิจ ซึ่งรวมถึงระบบงานธนาคารหลักและโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ลูกค้าสร้างมูลค่าจากข้อมูลที่มีอยู่ได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันยังมีมาตรฐานสอดคล้องตามข้อกำหนดทั้งในเรื่องอธิปไตยและความมั่นคงปลอดภัยทางข้อมูลที่เข้มงวดอย่างสมบูรณ์แบบ
นายคริส มอร์ริส รองประธานกรรมการ IDC’s Asia Pacific Cloud Services and Technology Group กล่าวว่า “ประโยชน์หลัก ๆ ของการเปลี่ยนแปลงการทำงานเป็นระบบดิจิทัลก็คือ ความสามารถในการเพิ่มมูลค่าของข้อมูลธุรกิจได้สูงสุด แต่ในบริษัทต่าง ๆ ยังคงเก็บข้อมูลอยู่ในหลายแหล่งและในรูปแบบแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้ยากต่อการเข้าถึงอย่างปลอดภัยและยังเป็นการลดมูลค่าทางธุรกิจอีกด้วย ซึ่งในการโอนย้ายข้อมูลเหล่านี้ บริษัทต้องตระหนักว่าระบบคลาวด์ในปัจจุบันได้กลายเป็นสภาพแวดล้อมที่มีคลาวด์หลากหลาย ซึ่งแต่ละแบบก็ถูกปรับแต่งไว้สำหรับรองรับภาระงานอย่างหนึ่ง และสภาพแวดล้อมที่มีคลาวด์หลากหลายนี้เองที่จะถูกใช้เพื่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องแสวงหาแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับภาระงานของบริษัทมากที่สุดในการปรับปรุงบริการของตนเองให้ทันสมัย ยกระดับประสิทธิภาพการใช้ต้นทุน และสอดคล้องตามข้อกำหนดจากการใช้โมเดลงานที่ถูกต้อง ดังนั้น เกณฑ์การคัดเลือกคลาวด์ไม่ใช่แค่ว่าจะเลือกใช้คลาวด์แบบสาธารณะ แบบส่วนตัว หรือแบบผสม แต่ต้องพิจารณาจากปริมาณงานที่ต้องการระบบแบบเฉพาะหรือแบบใช้ร่วมกัน เพื่อให้ระบบคลาวด์ของบริษัทสอดคล้องตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวและอธิปไตยข้อมูลของแต่ละประเทศที่มีความเข้มงวดมาก”