จับตา 5 เทคโนโลยีเขย่าโลก จาก Gartner Emerging Technologies and Trends Impact Radar ปี 2022

0
Photo by Markus Spiske on Unsplash

เรียกได้ว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ทุกวันและจะเกิดเร็วขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย ซึ่ง Gartner ก็ได้มีการทำวิจัย Emerging Technologies and Trends Impact Radar ที่ไฮไลต์เทคโนโลยีหรือเทรนด์อันมีศักยภาพที่จะ Disrupt วงการอุตสาหกรรมต่าง ๆ ขึ้นมาให้เห็นกันทุกปี และในบทความนี้ คือ 5 เทคโนโลยีเกิดใหม่ที่อาจจะ Disrupt อีกหลาย ๆ อุตสาหกรรม

ภาพรวมของงานวิจัยทาง Gartner นี้ สามารถดูได้จากภาพเรดาร์โดยที่ระยะของวงแหวนจะแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาที่คาดว่าเทคโนโลยีหรือเทรนด์ดังกล่าวน่าจะกลายมาเป็นกระแสหลักได้ พร้อมกับขนาดและสีของวงกลมที่แสดงให้เห็นว่าสิ่งนั้นเริ่ม Mass เป็นรูปธรรมที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหรือผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วได้ขนาดไหน ซึ่งสำหรับผู้ที่สนใจงานวิจัย Emerging Technologies and Trends Impact Radar ฉบับเต็มของ Gartner สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่ 

จากภาพจะพอเห็นคำที่เริ่มเป็นกระแสบ้างแล้ว เช่น Self-Supervised Learning, Synthetic Data หรือ 6G แต่นี่คือ 5 เทคโนโลยีที่ Gartner คิดว่าน่าสนใจที่สุดที่น่าจะเกิดขึ้นได้ภายใน 3 – 8 ปีข้างหน้านี้เลย ดังต่อไปนี้

1. Smart Spaces (Time to market : 3 – 6 ปี)

คำว่า Smart Spaces ที่ Gartner หมายความนั้นคือทั้งบนโลกจริงและโลกเสมือน ไม่ว่าจะเป็น Smart City, Digital Workspace, Smart Venue หรือว่า Ambient Intelligence ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนวิธีการที่ผู้คนจะปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ไปโดยสิ้นเชิง รวมไปถึงการตัดสินใจใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างเช่น อาคาร โรงงาน สถานที่จัดงาน ที่จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนไปให้เข้ากับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เพื่อความปลอดภัยของคนทำงานและรักษาระยะห่าง 

Gartner มองว่า Smart Spaces จะส่งผลกระทบกับผลิตภัณฑ์หรือตลาดเป็นอย่างมากภายใน 3 – 6 ปีหลังจากนี้ และเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วจะส่งผลกระทบต่อหลาย ๆ ธุรกิจและอุตสาหกรรมอย่างแน่นอน เช่น การบำรุงรักษาอาคารที่ลดน้อยลงไป ระบบค่าผ่านทางอัตโนมัติที่มีคนใช้น้อยทำให้มีความจำเป็นลดลง เป็นต้น

2. Generative AI (Time to market : 6 – 8 ปี)

คำว่า Generative AI นั้นคือเทคนิคที่ทำให้ AI สามารถเรียนรู้ที่จะสร้างตัวแทนของข้อมูลขึ้นมาเพื่อทดแทนข้อมูลต้นฉบับจริง ๆ ที่อาจจะมีผลต่อความเป็นส่วนตัวได้ ซึ่งในสายงานด้าน Generative AI ณ ตอนนี้กำลังเริ่มมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วทั้งในเรื่องการค้นพบเทคนิคต่าง ๆ รวมถึงการเริ่มนำมาใช้งานในเชิงพาณิชย์แล้ว 

โดย Gartner เห็นแล้วว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้สำเร็จภายใน 6-8 ปีในหลาย ๆ อุตสาหกรรม เช่น Life sciences, Healthcare, Manufacturing หรือ Media เป็นต้น หากแต่อาจจะมีประเด็นเรื่องของความปลอดภัยหรือการใช้งาน Generative AI ในทางที่ผิด เช่น Deepfake ที่อาจจะทำให้บางอุตสาหกรรมจำเป็นจะต้องชะลอในเรื่องนี้ไปได้

Credit: ShutterStock.com

3. Homomorphic Encryption (Time to market : 3 – 6 ปี)

วิธีการ Homomorphic Encryption คือการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูลจริง ๆ ไว้ในขณะที่ผู้มีสิทธิใช้ข้อมูลยังสามารถประมวลผลข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ได้อยู่ โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องมีความรู้ความเข้าใจใด ๆ เกี่ยวกับข้อมูลดังกล่าวเลย ซึ่งรายละเอียดจะมีวิธีการที่ช่วยปกปิดข้อมูลสามารถอ่านได้เพิ่มเติมจากที่นี่

แม้ว่าวิธีการนี้จะยังมีความท้าทายทั้งเรื่องประสิทธิภาพ (Performance) หรือมาตรฐานความซับซ้อนต่าง ๆ แต่ Gartner ก็เชื่อว่า Homomorphic Encryption จะกลายเป็นแกนเทคโนโลยีของ SaaS ในอนาคต เพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลจะมีความเป็นส่วนตัว (Privacy) และปลอดภัย ในขณะที่ยังสามารถให้ 3rd Party ต่าง ๆ ยังสามารถประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลได้อยู่ โดยเชื่อว่า 3-6 ปีหลังจากนี้จะได้เห็นการใช้งานกันมากขึ้น

4. Graph Technology (Time to market : 3 – 6 ปี)

เทคนิค Graph Technology ได้มีส่วนช่วยในการวิเคราะห์ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง Entity ต่าง ๆ ในข้อมูล เช่น องค์กรกับผู้คน หรือว่าคนกับธุรกรรม ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความสัมพันธ์มากมายนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลยในการวิเคราะห์ผ่านเครื่องมือที่เป็นลักษณะ Relational Database 

ดังนั้น การใช้เทคนิค Graph ที่แสดงข้อมูลเป็นจุดแล้ววิเคราะห์ความสัมพันธ์ของข้อมูลจากเส้นที่เชื่อมต่อกันนั้น จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ต่อยอดได้อีกมากมาย ซึ่ง Gartner เชื่อว่าภายใน 3-6 ปีจะมีอีกหลายแอปพลิเคชันที่ต่อยอดจาก Graph Technology เพื่อช่วยให้สามารถวิเคราะห์ถึง Insight หรือพฤติกรรมบางอย่างได้สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม เช่น การวิเคราะห์โลกโซเชียลเพื่อค้นหาตัวตนของ Influencer หรือ Community ต่าง ๆ เป็นต้น

5. Metaverse (นอกวง 8 ปี แต่ต้องจับตาให้ดี)

หนึ่งในเทรนด์ใหญ่แห่งปี 2021 ที่กล่าวถึงกันมากมายนั่นคือ Metaverse ซึ่งแม้ว่าเรดาร์ของทาง Gartner จะคาดการณ์ไว้น่าจะใช้เวลาเกิน 8 ปี แต่ตามที่ Metaverse ที่ Gartner นิยามไว้นั้นจะเป็นลักษณะของโลกจริงและโลกดิจิทัลเสมือนมาเชื่อมโยงกัน ซึ่งจะมีส่วนประกอบมากมายมาประกอบกันที่ทำให้ Digital Content ใด ๆ มีความคงอยู่ (Persistent), กระจายศูนย์ (Decentralized), ทำงานร่วมกัน (Collaborative) และมีมาตรฐานเชื่อมโยงกัน (Interoperability) ได้ 

แม้ว่าตอนนี้รูปร่างหน้าตาของโลก Metaverse จะยังไม่มีเห็นกันชัดเจนว่าเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะทุกอย่างยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ด้วยความที่เข้าใจกันว่า Metaverse เป็นวิวัฒนาการของโลกอินเตอร์เน็ตสำหรับยุคถัดไป ดังนั้น ควรจะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังเห็นได้ว่าเริ่มมีเจ้าใหญ่จากโลกจริงทยอยตบเท้าเข้าสู่โลกของ Metaverse แล้ว ซึ่งอาจจะทำให้โลก Metaverse อาจจะเกิดขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วกว่าที่ Gartner คาดการณ์ไว้ได้

ที่มา: https://www.gartner.com/en/articles/5-impactful-technologies-from-the-gartner-emerging-technologies-and-trends-impact-radar-for-2022-1