สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกหลักเกณฑ์ไม่สนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับการชำระค่าสินค้าและบริการ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้เป็นต้นไป หวั่นกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินและระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เน้นย้ำเรื่องการไม่สนับสนุนการใช้เงินสกุลคริปโทเคอเรนซีเป็นสื่อกลางในการชำระเงินต่าง ๆ ด้วยเล็งเห็นว่าอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจโดยรวม ตลอดจนความเสี่ยงต่อประชาชนและธุรกิจ เนื่องด้วยความผันผวนของราคา ความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ ความเสี่ยงข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล หรือการถูกใช้เป็นเครื่องมือของการฟอกเงิน
ด้านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ให้บริการอยู่ก่อนแล้วนั้น จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 โดยผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทุกประเภทต้องไม่ให้บริการหรือสนับสนุนส่งเสริมการชำระค่าสินค้าและบริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา การแสดงตนว่าพร้อมให้บริการชำระค่าสินค้าหรือบริการแก่ร้านค้า หรือการจัดทำระบบรองรับ การเปิด Crypto Wallet เพื่อนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางการชำระค่าสินค้าและบริการ
ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลพบว่า ลูกค้าเปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล ก็ต้องแจ้งเตือนเกี่ยวกับการการใช้บัญชีผิดวัตถุประสงค์และไม่ตรงกับเงื่อนไขการให้บริการ หากลูกค้าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ก็ต้องมีการดำเนินการระงับการให้บริการชั่วคราวไปจนถึงการยกเลิกการให้บริการแก่ลูกค้า