เบิร์นเอาต์ถ้วนหน้า… Deloitte สำรวจ ไม่ใช่แค่พนักงาน ผู้บริหารก็ด้วย พร้อมออกจากงานทุกเมื่อเพื่อรักษาสุขภาวะ

0

ปัญหาชีวิตไร้สมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตการทำงาน (Work-life conflict) เรียกได้ว่าบั่นทอนคนทำงานไม่น้อย ไม่เว้นแต่เจ้านายเอง โดยงานวิจัยจาก Deloitte และ Workplace Intelligence เผย ผู้บริหารราว 70% มีความคิดลาออกจากตำแหน่งหน้าที่ที่ทำอยู่เพื่อสุขภาวะที่ดีขึ้น

Deloitte และ Workplace Intelligence เก็บข้อมูลจากพนักงาน (1,050 คน) และผู้บริหารระดับ C (1,050 คน) ที่ทำงานเต็มเวลา ช่วงอายุตั้งแต่ 18 -76 ปี ใน 4 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (57%) สหราชอาณาจักร (14%) แคนาดา (14%) และออสเตรเลีย (14%) 

ผลสำรวจจากทั้ง 2,100 คน พบว่า ทั้งพนักงานและผู้บริหารต่างมีปัญหาในด้านการจัดการสุขภาวะของตนในช่วงสองปีตั้งแต่การแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยผู้บริหาร 76% เผยว่า สถานการณ์ COVID-19 ส่งผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาวะของตน ในขณะที่พนักงานและผู้บริหารราว 1 ใน 3 ระบุว่า ตนรู้สึกเหน็ดเหนื่อย เครียด โดดเดี่ยว หรือหดหู่ซึมเศร้า

Image credit: Deloitte

ดูเหมือนว่าการทำงานจะเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับพนักงานทุกระดับในการมีสุขภาวะที่ดีขึ้น ซึ่งผลการศึกษาพบว่า พนักงาน 63% และผู้บริหารระดับ C 73% รู้สึกว่า งานที่ทำอยู่ไม่เอื้อให้ตนได้พักหรือมีเวลาให้กับตัวเอง

สำหรับพนักงาน 68% และผู้บริหารระดับ C 81% แล้ว ตอนนี้การมีสุขภาวะที่ดีขึ้นนั้นสำคัญยิ่งกว่าความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน โดยพนักงาน 57% และผู้บริหารราว 69% มีความคิดที่จะลาออกอย่างจริงจัง

Dan Schawbel ฝ่ายจัดการจาก Workplace Intelligence แนะนำว่า ผลการศึกษาดังกล่าวถือว่าเป็นการสร้างความตื่นตระหนกให้องค์กรหันว่าศึกษาดูว่างานในแต่ละวันกระทบต่อชีวิตของพนักงานมากน้อยแค่ไหน

แม้ว่าผู้บริหาร 95% เห็นด้วยกับการรับผิดชอบต่อสุขภาวะของพนักงาน แต่ 68% ก็ยอมรับยังจัดการกับประเด็นดังกล่าวได้ไม่เพียงพอ ซึ่ง Paul Silverglate ผู้บริหารจาก US Executive Accelerators และรองประธานภาคเทคโนโลยีสหรัฐฯของ Deloitte ระบุว่า ทั้งพนักงานและผู้บริหารต่างก็ประสบปัญหาในการได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากองค์กรเพื่อจัดการกับปัญหาอย่างสมดุลในชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน (Work-life balance) และปริมาณงาน

Image credit: Deloitte

รายงานดังกล่าวสรุปว่า การค่อย ๆ ปรับปรุงทีละนิดในด้านทั้งหมดนี้จะช่วยสั่งสมส่งผลให้ความเป็นอยู่ การมีส่วนร่วมและประสิทธิภาพการทำงานในที่ทำงานดีขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดความสำเร็จในระยะยาวขององค์กร และดึงดูดให้พนักงานอยู่กับองค์กรต่อไป

อ่านรายงานฉบับเต็มหัวข้อ The C-suite’s role in well-being ได้ที่นี่