จากผลการศึกษาล่าสุดโดยมหาวิทยาลัย José Simeón Cañas Central American University ในเอลซัลวาดอร์ชี้ให้เห็นว่า 77.1% ของชาวเอลซัลวาดอร์กล่าวว่าพวกเขาต้องการให้รัฐบาลของพวกเขา “หยุดการใช้เงินสาธารณะใน Bitcoin”
นอกจากนี้ 24.4% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขาได้ใช้ Bitcoin เป็นสื่อกลางในการชำระเงิน (Means of Payment) ตั้งแต่รัฐบาลของเอลซัลวาดอร์ได้ประกาศให้สามารถใช้ Bitcoin ชำระหนี้ได้ถูกต้องตามกฎหมาย (Legal Tender) ในปีที่ผ่านมาแล้วด้วย
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะไม่ได้มีหลักฐานอะไรที่เชื่อมโยงระหว่างการปรับใช้ (Adopt) Bitcoin นั้นส่งผลกระทบกับสถานการณ์เศรษฐกิจของเอลซัลวาดอร์อย่างชัดเจนมากนัก หากแต่ 95% ของผู้ตอบแบบสำรวจนั้นกล่าวว่าสภาพชีวิตของพวกเขานั้น “ยังคงเหมือนเดิม” หรือว่า “แย่ลงกว่าเดิม” หลังจากที่ Bitcoin ได้กลายเป็น Legal Tender ตั้งแต่ปีที่แล้ว
จนถึงวันนี้ รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้มีการใช้เงินไปราว 107 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้วในการเข้าซื้อ Bitcoin ตามข้อมูลจาก Nayib Bukele Portfolio Tracking และปีที่แล้วประธานาธิบดีแห่งเอลซัลวาดอร์ก็ยังประกาศก่อตั้งเมือง “Bitcoin City” ที่จะมีอัตราภาษีอยู่ที่ 0% ด้วยการระดมทุนจาก “พันธบัตรภูเขาไฟ (Volcano Bond)” ไปได้ราว 1 พันล้านเหรียญ ซึ่งคงต้องดูท่าทีต่อไปว่าเอลซัลวาดอร์จะมีท่าทีต่อสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาด Cryptocurrency ที่ดูจะซึมลงไปอย่างต่อเนื่องอย่างไรต่อไป
แบบสำรวจดังกล่าวนี้ได้มีผู้เข้าร่วมสัมภาษณ์ 1,269 คนในช่วงกันยายน 2022 ที่ผ่านมา โดยมีค่าผิดพลาด (Margin of error) อยู่ที่ 2.75% ด้วยช่วงความมั่นใจ (Confidence) 95% รายงานฉบับเต็มสามารถดูได้ที่นี่