การให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (Sustainability) ตามหลักการของ Environmental, Social, and Governance หรือ ESG นั้นกำลังกลายเป็นวาระสำคัญของธุรกิจองค์กรทั่วโลก ท่ามกลางการเติบโตอย่างรวดเร็วของกระแส Digital Transformation ที่ทำให้ธุรกิจองค์กรทุกแห่งต้องปรับตัวเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจ
Panduit ในฐานะของผู้นำด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบ Network และ IT Infrastructure ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของ ESG ในฝั่งของระบบโครงสร้างพื้นฐาน ที่เป็นรากฐานสำคัญสำหรับธุรกิจองค์กรทุกแห่งในการเติบโตอย่างยั่งยืน จึงได้มุ่งเน้นตอบโจทย์ ESG อย่างเต็มที่ ทั้งในแง่ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการบริหารองค์กร เพื่อให้ธุรกิจองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ด้าน ESG ที่ชัดเจน สามารถเลือกใช้โซลูชันของ Panduit สำหรับตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างมั่นใจ
แนวทางด้าน ESG ที่ Panduit ได้ทำในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็มีด้วยกันหลายประการ ดังนี้
Environmental (E): การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รักษาสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และการสร้างตัวอย่างด้านการเติบโตอย่างยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมสำหรับธุรกิจองค์กร
เนื่องจากผลิตภัณฑ์จำนวนมากของ Panduit นั้นอยู่ในรูปแบบของ Hardware ที่ต้องมีการผลิต, การใช้งาน, การดูแลรักษา และการใช้งานต่อเนื่องอย่างยาวนาน Panduit จึงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยคำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ตั้งแต่การผลิตหรือขนส่งที่จะต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติน้อยลง, การใช้งานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการยืดอายุการใช้งานผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นให้ยาวนานที่สุด ด้วย 4 หลักการดังนี้
- การสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ด้วยการนำวัสดุใช้แล้วมาใช้ในการผลิตสินค้าและหีบห่อบรรจุภัณฑ์
- การลดการผลิตคาร์บอน (Carbon Footprint) ด้วยการเลือกใช้พลังงานจากแหล่งผลิตพลังานหมุนเวียนและเป็นกลางทางคาร์บอน
- การลดการเกิดของเสีย (Waste) ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และหีบห่อบรรจุภัณฑ์ให้เกิดของเสียน้อยที่สุดในการขนส่งและใช้งาน
- การผลักดันนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน (Sustainable Product) ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์โดยมีหลักการความยั่งยืนเป็นหนึ่งในแกนสำคัญ
หลักการดังกล่าวได้ทำให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของ Panduit เพื่อตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น
โซลูชันที่ยั่งยืนสำหรับการรับรอง LEED Panduit ได้เป็นผู้ผลิตรายแรกที่มีหัวเชื่อมต่อ RJ45 และสายทองแดงที่คำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ตามหลัก EPD และ HPD ทำให้ธุรกิจองค์กรที่ต้องการก่อสร้างอาคารให้ผ่านการรับรองด้าน Leadership in Energy and Environmental Design (LEED) สามารถเลือกใช้โซลูชันของ Panduit เพื่อบรรลุข้อกำหนดต่างๆ ได้
นอกจากนี้ ที่อาคารสำนักงานใหญ่ของ Panduit เองนั้นก็ยังได้มีการก่อสร้างและเลือกใช้วัสดุต่างๆ ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมนุษย์จนผ่านการรับรอง LEED ในระดับ Gold Certified เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับธุรกิจองค์กรแห่งอื่นและตอกย้ำถึงความสำคัญที่ Panduit มีต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน
ในขณะเดียวกัน โรงงานของ Panduit ที่ Costa Rica นั้นก็ได้รับ Carbon Neutral Certification เป็นที่เรียบร้อยแล้วจากการออกแบบโรงงานและวางกระบวนการต่างๆ ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีโครงการปลูกป่าภายในประเทศเพิ่มเติมด้วย
การพัฒนาด้านหีบห่อบรรจุภัณฑ์ เดิมทีสินค้าของ Panduit อย่างเช่นสายและหัวเชื่อมต่อนั้น มักมีขนาดเล็กและมีจำนวนมาก ทำให้แต่ละโครงการที่ธุรกิจองค์กรเลือกใช้ Panduit นั้น ก่อให้เกิดขยะจากหีบห่อบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กจำนวนหลายล้านชิ้นต่อปี ทำให้ Panduit เล็งเห็นถึงความสำคัญและตั้งเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
ในการแก้ปัญหานี้ Panduit ได้เปลี่ยนแนวทางด้านหีบห่อบรรจุภัณฑ์เป็นการรวมสินค้าหลายชิ้นเข้าในบรรจุภัณฑ์เดียว และตั้งเป้าเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลหรือใช้ซ้ำได้ 75% ในการผลิตหีบห่อบรรจุภัณฑ์ รวมถึงลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวสำหรับบรรจุภัณฑ์ลงให้ได้ 15% ภายในปี 2025 โดยปัจจุบันนี้ ผลิตภัณฑ์อย่างเช่น Atlona ของ Panduit ก็มีการใช้กระดาษรีไซเคิลสำหรับกล่องและใช้หมึกจากพืช รวมถึงเลิกส่งมอบคู่มือการใช้งานแบบกระดาษแก่ลูกค้า เปลี่ยนเป็นการส่งคู่มือแบบดิจิทัลแทน
การพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์และการขนส่ง Panduit มีแนวคิดในการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีขนาดเล็ก เพื่อวัตถุประสงค์ในการลดวัสดุที่ใช้ในการผลิตลง, ลดพื้นที่ที่ต้องใช้ในการติดตั้ง อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งผลิตภัณฑ์ไปในคราวเดียวกัน
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็เช่น สาย Vari-MatriX HD ที่เป็นสาย Category 6A ที่มีขนาดเล็กที่สุดในวงการ ก็มีการใช้วัตถุดิบในการผลิตน้อยกว่าสายทั่วไปถึง 16% หรือสาย 28AWG Patch Cord ก็มีการใช้วัตถุดิบในการผลิตน้อยกว่าสาย 24AWG Patch Cord ถึง 45% ในขณะที่ความเล็กของสายก็ทำให้การวางระบบโครงสร้างสำหรับการเดินสายนั้น มีการใช้วัสดุน้อยลงตามไปด้วย และการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นก็ทำให้สามารถลดพื้นที่และพลังงานที่ต้องใช้ในการขนส่งลงไปได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ Panduit Wire Basket เองก็มีการใช้เหล็กกล้าที่ผ่านการรีไซเคิลมากถึง 70% ช่วยลดการขุดเจาะเหมืองแร่ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและอาจเป็นอันตรายต่อผู้คนได้
การออกแบบ Data Center เพื่อความยั่งยืน Panduit ได้ใส่ใจรายละเอียดในหลายประการสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Data Center เพื่อให้ Data Center ของธุรกิจองค์กรและผู้ให้บริการ Cloud ชั้นนำนั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น
- ตู้แร็ค FlexFusion ที่มีการเลือกใช้สีขาว เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสำหรับการส่องแสงสว่างลงได้ถึง 30% ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของ Data Center ลงได้ 1.5-3%
- ชุด Net-Contain Universal Aisle Containment ช่วยลดพื้นที่ภายใน Data Center ที่ต้องสร้างความเย็น ประหยัดพลังงานในการสร้างความเย็นได้ 10% และลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลงโดยรวมได้สูงสุดถึง 27%
- อุปกรณ์ 415V PDU ที่สามารถจ่ายไฟ 240V ให้กับอุปกรณ์ IT ได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานได้ 14% เมื่อเทียบกับการจ่ายไฟแบบ 120V
- โซลูชัน SmartZone UPS สามารถลดการสูญเสียของพลังงานและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ ผ่านการรับรองทั้ง RoHS, Reach, CE, UL Certified Mark และ ENERGY STAR
- โซลูชัน SmartZone G5 PDU สามารถบริหารจัดการการใช้พลังงานภายในตู้ Rack ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- โซลูชัน FlexCore Optical Distribution Frame (ODF) สำหรับการทำ Cable Management ให้ธุรกิจองค์กรสามารถใช้งานสาย Fiber ที่มีอยู่ได้อย่างยาวนานและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น รวมถึงลดพื้นที่ที่ใช้ในการจัดการสายได้เป็นอย่างดี
- โซลูชัน SmartZone Cloud Software ช่วยให้การติดตามการใช้พลังงานและการระบายความร้อนที่เกิดขึ้นภายใน Data Center ในภาพรวมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย Data Analytics และ Sensor
นอกจากนี้ การส่งเสริมการใช้ Power over Ethernet หรือ PoE ในการจ่ายพลังงานให้กับอุปกรณ์ IT ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ Panduit ผลักดัน เพื่อลดการเดินสาย และบริหารจัดการการใช้พลังงานสำหรับอุปกรณ์ IT ให้คุ้มค่าสูงสุดได้อย่างชาญฉลาดนั่นเอง
Social (S): การสร้างวัฒนธรรมองค์กร ให้การสนับสนุนภารกิจทางสังคมและการส่งเสริมความหลากหลายกลายเป็นหน้าที่หนึ่งของพนักงานทั่วโลก
ในแง่สังคมเองก็มีความสำคัญเช่นกัน โดย Panduit ได้สนับสนุนให้พนักงานไปร่วมกิจกรรมอาสาสมัครเพื่อสังคมมาโดยตลอด รวมถึงยังมีโครงการสนับสนุนสังคมมากมาย เช่น งานวิ่งการกุศลที่ Costa Rica, การจัดกิจกรรมเพื่อค้นไร้บ้านที่ Germany, การบริจาคโทรศัพท์และซิมเพื่อค้นไรบ้านที่ Australia, การระดมทุนเพื่อผู้ป่วยมะเร็งที่ U.S., การสนับสนุนด้านอาหาร, อุปกรณ์การแพทย์ และงบประมาณท่ามกลางวิกฤติ COVID-19 รวมถึงยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายทั่วโลก
ในแง่ของความหลากหลายและการมีส่วนร่วม (Diversity and Inclusion – D&I) ก็เป็นอีกประเด็นสำคัญสำหรับ Panduit ที่เป็นธุรกิจระดับโลกซึ่งมีสาขาอยู่ในภูมิภาคต่างๆ มากมาย เพื่อสร้างความเท่าเทียมให้กับพนักงานทุกเชื้อชาติและทุกเพศ ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น
- การปรับกระบวนการและช่องทางในการรับสมัครพนักงานใหม่ เพื่อให้เกิดความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
- การลงนามของ CEO ใน I ACT ON Pledge ร่วมกับผู้บริหารจากธุรกิจอื่นอีกกว่า 2,000 แห่ง เพื่อยืนยันถึงการให้ความสำคัญต่อความหลากหลาย
- การกำหนดวัน Day of Understanding เพื่อให้พนักงานได้มีโอกาสพูดคุยสร้างความสัมพันธ์ปรับความเข้าใจ สร้างที่ทำงานที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้
- การปรับปรุงการสื่อสารกับพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาให้กับพนักงานที่ต้องเผชิญในการทำงาน
- การอบรมด้าน D&I ให้กับผู้จัดการ เพื่อให้ประเด็นด้าน D&I เป็นวาระสำคัญต่อการบริหารงาน
- การสนับสนุนคู่ค้าให้มีความหลากหลาย โดยเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจของคู่ค้าที่มีผู้หญิงหรือชนชาติต่างๆ ที่หลากหลายเพิ่มขึ้น
Governance (G): มีความชัดเจนด้านการส่งเสริมจริยธรรมและกำกับควบคุม สร้างความโปร่งใสในการทำงาน
Panduit มีการกำหนด Ethics and Compliance Program 2.0 ที่มีการบังคับใช้ต่อเหล่าผู้บริหารและพนักงานทั่วโลก ซึ่งครอบคลุมถึงประเด็นดังต่อไปนี้
- การประเมินความเสี่ยงด้านข้อกฎหมายและข้อบังคับรายปี
- การกำหนด Code of Conduce & Business Ethics ที่ชัดเจนเพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานใช้เป็นแนวทางในการทำงานและการตัดสินใจทางธุรกิจ
- การกำหนด Business Ethics Policy ที่หลากหลาย เช่น Conflict of Interest, Anti-Corruption Policy, Gift & Entertainment Policy ไปจนถึงการกำหนดกระบวนการทางธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- การจัดอบรมและช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสม
- การจัดทำรายงานและกำหนดกระบวนการด้านการสืบสวนที่ชัดเจน รวมถึงเปิด Integrity Line ให้มีการร้องเรียนได้อย่างสะดวก
- มีการกำหนด Ethics and Compliance Charter และ Risk and Compliance Committee โดยเฉพาะ
- มีการรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมและแนวโน้มในการบังคับใช้ข้อกำหนดต่างๆ ไปยัง Audit Committee และผู้บริหารอาวุโสอย่างต่อเนื่อง
ทั้งหมดนี้ก็เป็นความพยายามในการผลักดันด้าน ESG ของ Panduit ที่ครอบคลุมในหลายแง่มุม และ Panduit เองก็ยังมีเป้าหมายที่จะปรับปรุงการผลักดันเหล่านี้ให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต
———-
เกี่ยวกับ Panduit
นับตั้งแต่ปี 1955 วัฒนธรรมแห่งความใฝ่รู้และความหลงใหลในการแก้ไขปัญหาของ Panduit ได้พัฒนาการเชื่อมต่ออันมีค่าระหว่างความสำเร็จในตลาดกับเป้าหมายทางธุรกิจของบริษัทขึ้น Panduit สร้างโซลูชั่นที่ล้ำสมัยด้านของวัสดุอุปกรณ์ อุปกรณ์ไฟฟ้า และโครงสร้างอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐานสำหรับสภาพแวดล้อมทั่วทั้งองค์กร ตั้งแต่ศูนย์รวบรวมข้อมูลไปจนถึงห้องสื่อสารโทรคมนาคม รวมไปถึงคอมพิวเตอร์ตลอดจนระบบในโรงงาน Panduit มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ทินลีย์ พาร์ก รัฐอิลลินอยส์ และดำเนินงานอยู่ใน 112 ประเทศทั่วโลก ชื่อเสียงที่ได้รับการพิสูจน์แล้วด้านคุณภาพและเทคโนโลยีชั้นนำของ Panduit ประกอบกับระบบนิเวศของคู่ค้าที่มั่นคงแข็งแรงจะช่วยสนับสนุน ค้ำจุน และสร้างเสริมการเติบโตของธุรกิจในโลกที่เชื่อมโยงถึงกัน https://www.panduit.com/
ผู้ที่สนใจโซลูชันใดๆ ของ Panduit สามารถติดต่อทีมงาน Panduit ประจำประเทศไทยได้ที่
- Pongsathon Swetkamol, Territory Account Manager [email protected]
- Jirayu Noppawong, Technical Systems Engineer [email protected]
ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถทำการเพิ่มเพื่อนใน LINE Account ได้ทันทีที่ @panduitth (มีเครื่องหมาย @ นำหน้า) หรือเพิ่มเพื่อนผ่านลิงค์ https://lin.ee/G8XGQXQ หรือสแกน QR Code ดังต่อไปนี้เพื่อเพิ่มเพื่อนได้ทันที
และสำหรับลูกค้าหรือพันธมิตรของ Panduit ทุกท่าน ก็ยังคงสามารถติดตามข่าวสารหรือสอบถามข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับ Panduit ได้ที่ https://www.facebook.com/PanduitThailand เช่นเคย