ในช่วงที่ธุรกิจกำลังเผชิญกับยุคแห่งความท้าทายใหม่ ทั้งการทำ Digital Transformation, Data Insights, Supply Chain และ Security ปฏิเสธไม่ได้ว่าระบบไอทีคือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ผ่านพ้นจากความท้าทายเหล่านี้ ดังนั้น ธุรกิจจึงต้องมีโครงสร้างพื้นฐานแบบใหม่ตอบโจทย์สถานการณ์ปัจจุบัน โดยในงาน “POWEREDGE. NEXT. POWER INNOVATION ANYWHERE” เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ทีมงาน Dell Technologies ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีระดับโลก ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายต่างๆ รวมถึงผนึกมาพร้อมการประมวลผลที่ทรงพลังจาก Intel และ AMD โดยทีมงาน TechTalkThai จึงขอสรุปสาระสำคัญมาให้ทุกท่านได้ติดตามกันอีกครั้งครับ
ความท้าทายของโลกธุรกิจ
หากจะกล่าวถึงความท้าทายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการที่ธุรกิจพยายามเปลี่ยนตัวเองสู่ยุคดิจิทัล นอกจากนั้นยังต้องเรียนรู้วิธีการใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเข้าใจลูกค้า สินค้าและการให้บริการได้เช่นกัน อีกทั้งความมั่นคงปลอดภัยก็ได้กลายมาเป็นประเด็นสำคัญหลักที่ธุรกิจต้องจัดการ เนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัลและการเชื่อมต่อออนไลน์ทำให้ธุรกิจมีโอกาสตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์ สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของความท้าทายที่หลายธุรกิจต้องพบเจอ โดย Dell Technologies ได้ขออาสาเป็นส่วนหนึ่งในฟันเฟืองที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้ก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คอนเซปต์การออกแบบ PowerEdge Gen 16
เพื่อตอบโจทย์การทำงานในสถานการณ์ต่างๆ Dell Technologies มองเห็นว่างานที่กำลังเปลี่ยนผ่านในปัจจุบันมีอยู่ 5 ด้านคือ
1.) Modernize Workforce – ทุกคนสามารถทำงานได้จากทุกที่ทุกเวลา ไม่ยึดติดกับสถานที่ปฏิบัติงานเหมือนเดิมในอดีต
2.) Multi-cloud – คลาวด์เป็นส่วนสำคัญของระบบองค์กรมาหลายปี และการผสมผสานระหว่างข้อดีจากค่ายต่างๆมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
3.) Modern Data Infrastructure – องค์กรมองหาโครงสร้างพื้นฐานด้านการบริหารจัดการข้อมูลที่มีความทันสมัยมากขึ้น เพราะข้อมูลคือศูนย์กลางแห่งทุกการปฏิบัติการ
4.) Edge – การประมวลผลในอนาคตกำลังกระจายออกสู่สถานที่ใกล้แหล่งกำเนิดข้อมูล เพื่อสร้างผลลัพธ์ได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5.) Security – ความปลอดภัยเป็นหัวใจของทุกการปฏิบัติการ ไม่ว่า Workload จะรันที่ใด ไม่มีสิ่งใดสำคัญกว่าความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูลขององค์กร
อย่างไรก็ตาม องค์กรยังต้องรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ ได้แก่ AI และเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) จากการสำรวจพบว่ามี 70% ของโปรเจ็คการลงทุนในองค์กรต้องการที่จะใช้งานด้าน AI หากมีการบริหารจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ จะส่งผลให้การปรับปรุงและการยกระดับองค์กรอาจจะเกิดขึ้นได้ยาก ดังนั้น PowerEdge Gen 16 ถูกออกแบบมาเพื่อลดปัญหาการบริหารจัดการ ทำให้บุคคลากรไอทีมีเวลาเพียงพอในการคิดและปรับปรุงองค์กร และเพื่อรองรับเทคโนโลยี AI/ML ที่กำลังเป็นที่สนใจขององค์กรทั่วโลก
ตอบโจทย์ 4 ปัจจัยสำคัญด้วย PowerEdge Gen 16
1.) รองรับทุกรูปแบบการใช้งาน
เครื่องมือที่ดีนั้นไม่ได้หมายถึงเพียงแค่คุณภาพของวัสดุที่ใช้ในการผลิตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการออกแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะทางด้วย หากเราเข้าใจถึงจุดนี้ เราจะเริ่มเห็นความสำคัญของการเลือกใช้เครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมนั้นไม่ได้หมายความว่าเราต้องมีความรู้ทางเทคนิคหรือทักษะที่สูง แต่เราเพียงต้องเข้าใจถึงลักษณะของงานที่ต้องการทำ และเลือกเครื่องมือที่สอดคล้องกับความต้องการนั้นๆ
- AI/ML และ HPC – เป็นงานที่จำเป็นต้องมีการประมวลผลสูง ซึ่งกิจกรรมสำคัญของงานต้องอาศัยพลัง GPU มากเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้เอง XE9680 พี่ใหญ่ของรุ่นจึงรองรับการ์ด GPU ได้ถึง 8 ตัวเพื่อตอบโจทย์งาน AI Training ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองลงมาก็คือ XE9640 และ XE8640 ที่รองรับ GPU ได้ 4 ตัว โดยทั้งหมดเชื่อมต่อกันผ่านระบบความเร็วสูง NVLink นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Smart Cooling
- Edge – การทำงานในระดับ Edge เกิดขึ้นเพราะธุรกิจต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันท่วงที เช่น IoT ไม่จำเป็นต้องไปประมวลผลถึงคลาวด์เพราะเพิ่มเวลาในการเดินทางของข้อมูล เพราะในบางสถานที่ความเร็วของเครือข่ายอาจมีจำกัด โดยในด้านกายภาพแล้วสภาพแวดล้อมของ Edge อาจไม่เอื้ออำนวยหรือไม่ได้ถูกออกแบบมาดีเหมือนกับดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบการระบายอากาศค่อนข้างจำกัด ด้วยเหตุนี้เองเซิร์ฟเวอร์ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้จึงต้องถูกออกแบบมาอย่างพิเศษ ซึ่ง XR5610, 7620, 8000 และ 4000 ได้ถูกพัฒนามาให้ทนต่อความร้อนได้สูงกว่าเซิร์ฟเวอร์ทั่วไป ตลอดจนระบบระบายความร้อนพิเศษ และเซิร์ฟเวอร์ถูกออกแบบให้สะดวกต่อการติดตั้ง
- Cloud Service Provider – เซิร์ฟเวอร์ในรุ่นเหล่านี้ได้มีการออกแบบร่วมกับลูกค้า โดยที่ถูกพูดถึงในสไลด์คือ HS5620 และ HS5610 ซึ่งอาจมีคุณลักษณะพิเศษตามความต้องการ โดยเฉพาะความสามารถในการขยายตัว (Scalability)
- Core (การใช้งานทั่วไป) – PowerEdge Gen 16 มีเซิร์ฟเวอร์หลายรุ่นสำหรับการใช้งานทั่วไประดับองค์กรเช่น R760, R7625, R760XS, MX760 และอื่นๆอีกหลายรุ่น โดยความโดดเด่นใน Gen16 ก็คือการอัปเดตประสิทธิภาพการทำงานที่รองรับมาตรฐานใหม่อย่าง PCIe 5.0 และ DDR5 ได้ซึ่งท่านจะได้ศักยภาพในการทำงานสูงขึ้น
2.) ทำงานอย่างอัจฉริยะ
อย่างที่ทราบแล้วว่าหากแอดมินมีเครื่องมือที่ง่ายและประสิทธิภาพสูง ก็จะช่วยให้การปฏิบัติงานมีศักยภาพดีขึ้นและลดเวลาในการทำงานได้ โดยในมุมนี้ PowerEdge Gen 16 มาพร้อมกับความสามารถของ iDARC และ OpenManage Enterprise ที่ช่วยให้ท่านบริหารจัดการฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้อย่างง่ายดาย เช่น การเปิดปิดเครื่อง การอัปเดตเฟิร์มแวร์ ติดตั้งซอฟต์แวร์ อย่างครอบคลุมกับอุปกรณ์จำนวนมากในองค์กร
นอกจากความสะดวกสบายแล้วองค์กรยังจะได้สามารถมอนิเตอร์และรับทราบความเป็นไปของอุปกรณ์ และมีการแจ้งเตือนเหตุการณ์ได้ล่วงหน้า ด้วยความสามารถของการรวมศูนย์ข้อมูลและบริหารจัดการได้ผ่านคลาวด์ ด้วยโซลูชัน Dell CloudIQ ซึ่งตอบโจทย์ด้าน Insights หรือแนวทางการแก้ไขและปรับปรุงปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กรของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.) ปลอดภัยตั้งแต่เริ่มต้น ตอบโจทย์ Zero Trust
Zero Trust เป็นแนวคิดในการป้องกันที่ไม่ควรให้ความไว้วางใจในองค์กรประกอบ สิทธิ์ หรือบุคคลใดก็ตาม ซึ่งจะต้องถูกตรวจสอบ ในบริบทของเซิร์ฟเวอร์คือการการันตีความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าสิ่งที่นำส่งตั้งแต่กระบวนการผลิตจากโรงงานไปจนถึงลูกค้าต้องไม่ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือสอดแทรกสิ่งแปลกปลอมใดๆ โดย PowerEdge Gen 16 มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Dell Secure Component Validation(SCV) ที่ช่วยยืนยันความถูกต้องของทุกส่วนประกอบ มีอิมเมจสำรองกรณีฉุกเฉินสำหรับกู้คืนหากถูกโจมตี นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถเข้ารหัสฮาร์สดิสก์ด้วยกุญแจของตัวเอง หรือลบข้อมูลได้อย่างหมดจดเพื่อความสะดวกในการนำเซิร์ฟเวอร์ไปใช้งานอื่น
4.) มุ่งสู่ความยั่งยืน
องค์กรในปัจจุบันมีนโยบายด้านความยั่งยืนเป็นลำดับแรกๆ โดยเฉพาะธุรกิจที่อยู่ในภูมิภาคที่มีข้อบังคับด้านการปล่อยพลังงานคาร์บอน (Carbon Credit) อาจจะต้องวางแผนโครงสร้างพื้นฐานที่สอดคล้องกับแนวทางนี้เป็นพิเศษ เช่นกัน Dell Technologies เองก็มีเป้าหมายร่วมเป็นส่วนหนึ่งในก้าวถัดไปของโลกใบนี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่า PowerEdge Gen 16 ได้พูดถึงเรื่องระบบการจัดการความร้อนที่ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี Dell Smart Flow Design ซึ่งจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนอากาศและลดการใช้พลังงานของพัดลมลงได้มากถึง 52% ระบบของเหลวหล่อเย็น CPU หรือ GPU ที่มักมีความร้อนสูงได้โดยตรง รวมถึงซอฟต์แวร์ Dell OpenManage Enterprise Power Manager 3.0 ที่ช่วยให้ผู้ดูแลสามารถบริหารจัดการความร้อนและพลังงานได้ดียิ่งขึ้น ติดตามอัตราการปล่อยคาร์บอน ในทางอ้อมการมีเซิร์ฟเวอร์ที่ประสิทธิภาพสูงขึ้นยังหมายถึงการทดแทนเซิร์ฟเวอร์เก่าได้หลายตัวลดการปลดปล่อยพลังงานและใช้ไฟฟ้านั่นเอง
ประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม ด้วย CPU รุ่นล่าสุดสำหรับ Server จาก Intel และ AMD
Dell PowerEdge Gen 16 มอบอิสระสูงสุดให้กับธุรกิจองค์กร ด้วยการรองรับหน่วยประมวลผลล่าสุดทั้ง Intel Xeon Scalable 4th Generation และ 4th Gen AMD EPYC รองรับ Workload ในรูปแบบหลากหลายได้อย่างเหมาะสมในทุกโจทย์ความต้องการ
เป็นที่รู้กันดีว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ทั้ง Intel และ AMD ต่างขับเคี่ยวแข่งขันกันอย่างหนักหน่วงในการพัฒนาหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ๆ สำหรับภาคธุรกิจองค์กร ซึ่งส่งผลดีเป็นอย่างมากทั้งในแง่ของการพัฒนาเทคโนโลยีที่รวดเร็วอย่างก้าวกระโดดยิ่งขึ้นจากการแข่งขัน และการมีทางเลือกที่หลากหลายในการจัดซื้อมากขึ้น ซึ่งนอกเหนือไปจากการเปรียบเทียบเชิงประสิทธิภาพและความคุ้มค่าแล้ว ทางเลือกใหม่ๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามานี้ก็ยังสามารถช่วยบรรเทาปัญหา CPU Shortage ที่เกิดขึ้นในบางจังหวะของตลาดได้เป็นอย่างดี
ความยืดหยุ่นในการเลือกใช้งาน CPU ได้หลากหลายจากทั้ง Intel และ AMD เพื่อใช้งานร่วมกับ Dell PowerEdge Gen 16 นี้ จะช่วยให้ธุรกิจองค์กรได้รับประโยชน์สูงสุดในทุกการลงทุนจัดซื้อ Server ทั้งในแง่ของการมีทางเลือกเปรียบเทียบราคาที่หลากหลายยิ่งขึ้นจากการแข่งขันของ Intel และ AMD ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้าน Hardware เท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงความแตกต่างด้าน Software License ที่คำนวณตาม CPU ที่ใช้งานอีกด้วย
ด้วยอิสระในการเลือกใช้หน่วยประมวลผลสำหรับ Dell PowerEdge Gen 16 นี้ คุณจึงสามารถมั่นใจได้เสมอว่าทุกการลงทุนในระบบ Data Center ของคุณจะมีความคุ้มค่าสูงสุดอยู่เสมอ
บทสรุป
จากข้อมูลข้างต้นกล่าวได้ว่า PowerEdge Gen 16 ถูกออกแบบมาให้ตอบสนองโจทย์การใช้งานอย่างทันสมัย ครอบคลุมกรณีการใช้งานในแง่มุมต่างๆ ทั้งงานทั่วไปในองค์กร ผู้ให้บริการคลาวด์ Edge และ AI นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับซอฟต์แวร์การบริหารจัดการช่วยแอดมินดูแลองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนความมั่นคงปลอดภัยที่เป็นหัวข้อใหญ่ของทุกองค์กร และยังตอบโจทย์ในแง่ของการใช้พลังงานที่สอดคล้องกับเทรนด์ของโลก
และเมื่อผสานกับสุดยอดขุมพลังการประมวลผลของ Intel Xeon Scalable 4th Generation และ 4th Gen AMD EPYC คุณจึงมีทางเลือกที่หลากหลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในการออกแบบ จัดซื้อ และวางแผนเพิ่มขยาย Data Center ของคุณให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของธุรกิจและ Workload ในรูปแบบที่ต้องการ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงจากกรณีของ CPU Shortage ที่อาจเกิดขึ้นในยามที่ไม่คาดฝันได้เป็นอย่างดี
ไม่เพียงเท่านั้นในช่วงท้ายรายการ ทีมงานของของ Dell Technologies ยังได้แนะนำถึงบริการ APEX Backup ซึ่งเป็นบริการ SaaS ที่ช่วยย้ายข้อมูลสำคัญของท่านสู่คลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อตอบโจทย์นโยบายด้านการสำรองข้อมูลที่ทุกองค์กรต้องมี ลดการลงทุนเองที่ท่านต้องจ่าย และนี่คือเนื้อหาสาระในงานสัมมนาครั้งนี้