Google ยอมลบข้อมูลเข้าเว็บที่เก็บมาจาก Incognito Mode หลังถูกฟ้อง

0

ในปี 2020 กลุ่มผู้ใช้บัญชีกูเกิลยื่นฟ้อง Google และ Alphabet หลังพบว่ากูเกิลมีการเก็บข้อมูลการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของผู้ใช้แม้จะใช้งานผ่านโหมดไม่ระบุตัวตนหรือ Incognito Mode กระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในการไกล่เกลี่ยยอมความคดีดังกล่าว Google ได้ตกลงยอมลบข้อมูลหลายพันล้านรายการที่มีอยู่ รวมไปถึงการเพิ่มความโปร่งใสในการเก็บข้อมูลและจำกัดการเก็บข้อมูลมากขึ้น

การฟ้องร้องเกิดขึ้นในปี 2020 เมื่อ Chasom Brown, Maria Nguyen, และ Willaim Byatt เป็นตัวแทนผู้ใช้งานบัญชีกูเกิลยื่นคำร้องต่อศาลในรัฐแคลิฟอร์เนียว่า Google มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวอย่างผิดกฎหมายในการใช้บริการต่างๆของกูเกิล รวมไปถึงการใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตนบนเบราว์เซอร์ Google Chrome ซึ่งควรจะเป็นการใช้งานที่ให้ความเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุดกับผู้ใช้

ข่าวดีก็คือการเก็บข้อมูลการเข้าเว็บใน Incognito Mode ของกูเกิลนั้นเป็นเพียงการเก็บข้อมูลการใช้งานที่ไม่สามารถย้อนกลับมาระบุตัวตนได้ว่าการใช้นั้นมาจากผู้ใช้รายใด (De-identify Data) ซึ่งกูเกิลกล่าวว่าพวกเขาไม่เคยนำข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์เพื่อให้บริการที่เฉพาะเจาะจงกับผู้ใช้ กล่าวคือเป็นการเก็บข้อมูลโดยรวมกว้างๆเท่านั้น

ด้าน José Castañeda โฆษกของกูเกิลกล่าวว่าพวกเขามีความยินดีที่จะไกล่เกลี่ยในคดีความดังกล่าวซึ่งพวกเขาเห็นว่าไม่มีมูลแต่อย่างใด และยินดีที่จะลบข้อมูลเชิงเทคนิคเหล่านั้นที่ไม่มีความข้องเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้งานและไม่เคยนำมาสร้างประสบการณ์การใช้งานแบบ Personalized โดยในการยอมความครั้งนี้ Google ไม่ต้องชดเชยค่าเสียหายแก่ผู้ใช้งาน แม้ในข้อเสนอการไกล่เกลี่ยจะเรียกร้องค่าเสียหายมูลค่าสูงกว่า 5,000 ล้านเหรียญ

หนึ่งในข้อตกลงจาก Google ในครั้งนี้คือการแสดงความโปร่งใสมากขึ้นในการจัดเก็บข้อมูลจากผู้ใช้ในการใช้งาน Incognito Mode และจำกัดการเก็บข้อมูลมากขึ้น ขั้นตอนต่อไปคือการขอคำสั่งอนุมัติจากศาลเพื่อจบคดีความและดำเนินการลบข้อมูลที่เก็บไว้ย้อนหลังตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2023 และ De-identify ข้อมูลอื่นๆที่จะไม่ลบออก รวมไปถึงดำเนินการตามแนวทางอื่นๆที่ได้ตกลงกันไว้


ที่มา: Google agrees to destroy browsing data collected in Incognito mode