สิทธิบัตรล่าสุดของ Walmart อาจเป็นฝันร้ายของใครหลายๆคนเมื่อมันคือสิทธิบัตรของเทคโนโลยีตรวจจับอารมณ์บนใบหน้าของลูกค้าว่ากำลังไม่มีความสุขหรือไม่พอใจอยู่หรือไม่ผ่านกล้องที่ติดตั้งอยู่ภายในร้าน
ตามรายงานของ Business Insider เทคโนโลยีดังกล่าวจะใช้ข้อมูลภาพจากกล้องวิดีโอที่ติดตั้งอยู่ทั้งภายในห้างสรรพสินค้า Walmart และในบริเวณจุดเข้าคิวเพื่อชำระเงินเพื่อวิเคราะห์อารมณ์ของลูกค้าผ่านทางสีหน้าที่พวกเขาแสดงออก และเมื่อระบบตรวจสอบพบความไม่พอใจของลูกค้า ก็จะทำการส่งสัญญาณไปยังพนักงานภายในร้านเพื่อแจ้งให้พนักงานที่แคชเชียร์ทราบอีกทีหนึ่ง ในความพยายามที่จะบรรเทาความไม่พอใจนั้นลง
Walmart ให้เหตุผลของการพัฒนาระบบดังกล่าวว่าเป็นระบบที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยในการดึงดูดลูกค้าให้ใช้บริการ Walmart ต่อไปด้วยการลดความหงุดหงิดไม่พอใจของลูกค้า เพราะลูกค้าที่ไม่พอใจในบริการน้อยคนนักจะเสียเวลากับการเขียนข้อเสนอแนะเกี่ยวกับบริการที่ไม่ดีให้กับทางบริษัท ฉะนั้นหาก Walmart สามารถตรวจจับอาการเหล่านั้นได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็อาจเป็นหนึ่งในวิธีการรับมือ
ทำไมเทคโนโลยีนี้ถึงอาจเป็นฝันร้ายของใครหลายๆคน? หากลองนึกย้อนไปถึงสมัยเริ่มแรกที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในที่สาธารณะ แม้เหตุผลที่รัฐบาลหรือผู้ให้บริการจะเป็นเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่ก็มีผู้คนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยต่อการละเมิดความเป็นส่วนตัวของพวกเขาในลักษณะนี้ ในทำนองเดียวกันหาก Walmart นำระบบนี้ขึ้นมาใช้งานจริง ก็แปลว่าลูกค้าของห้างจะถูกจับตามองจากกล้องต่างๆเพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่ข้อมูลใบหน้าของลูกค้าจะถูกบันทึกไว้ในฐานข้อมูลของ Walmart และอาจถูกนำไปใช้ในทางอื่นหรือก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากเหล่าแฮคเกอร์ เพราะต้องไม่ลืมว่าภาพถ่ายใบหน้านั้นก็จัดเป็นข้อมูล biometric ชนิดหนึ่งเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะไปถึงจุดที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้งานจริง Walmart ยังคงต้องต่อสู้กับอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ของการวิเคราะห์อารมณ์จากสีหน้าของผู้คน ซึ่งหากว่ากันจริงๆแล้ว ก็ยังเป็นสิ่งที่มนุษย์ด้วยกันเองไม่สามารถแยกแยะได้ดีด้วยซ้ำ จนกว่าที่ Walmart จะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่แยกออกระหว่างคนง่วงนอนและคนซึมเศร้า คนอกหักและคนเหนื่อย ทางห้างเองก็คงต้องหาวิธีปรับปรุงบริการอื่นๆขึ้นมาใช้ไปก่อน