ผลสำรวจพบ Snapchat ทำให้คนมีความสุข

0

จากการสำรวจที่ได้รับมอบหมายจากบริษัท Snap ให้ศึกษาถึงความรู้สึกที่คนมีต่อโซเชียลมีเดีย ผู้ใช้ Snapchat จำนวนถึง 95 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่า แอปนี้ทำให้พวกเขารู้สึก “มีความสุข”

การสำรวจที่ได้รับการว่าจ้างเป็นเรื่องปกติในหมู่โซเชียลมีเดียและอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่ถึงแม้ว่าผลสำรวจอาจมีเอียงข้างและต้องใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล อย่างเช่นที่ผลสำรวจนี้ไม่ได้ให้ข้อมูลตัวเลขเปอร์เซ็นต์ความสุขต่อแอปอื่นๆ แต่ผลสำรวจของ Snap นี้ก็สะท้อนให้เห็นข้อมูลที่เกี่ยวกับผลของโซเชียลมีเดียที่มีต่ออารมณ์ของผู้ใช้ในเชิงบวก

ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นถึงอีกด้านหนึ่งของธุรกิจด้วย เพราะทำให้ Snapchat แตกต่างจากโซเชียลมีเดียคู่แข่งเจ้าอื่นที่เริ่มได้รับความนิยมน้อยลงเพราะคนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์และเบื่อหน่ายอุตสาหกรรมนี้โดยรวม

Snapchat เองก็มีปัญหาการเพิ่มจำนวนและคงจำนวนผู้ใช้ไว้ และพยายามที่จะรักษาระดับความน่าสนใจแก่เหล่าผู้ผลิตโฆษณา การผลักดันทางการตลาดนี้ผ่านการสำรวจอาจช่วยดึงดูดผู้ผลิตโฆษณาให้มาลงทุนบนแพลตฟอร์มนี้

เมื่อเทียบกับโซเชียลมีเดียเจ้าอื่นๆ Snap ก็มีจุดยืนที่ทำให้ตัวเองแตกต่างไป เช่น Facebook ก็ฟีเจอร์บางอย่างของ Snapchat มาใช้ ส่วน Instagram ก็มีโหมดสตอรี่ที่ไม่ได้แสดงแค่ภายในเวลาจำกัดจริงๆ ทาง Twitter และ YouYube ก็พยายามทำให้ช่องทางของตนเป็นที่ระบายอารมณ์ให้น้อยที่สุด ดังนั้น บางที Snapchat ซึ่งเป็นแอปที่มีจุดประสงค์เพื่อการส่งข้อความแบบหนึ่งต่อหนึ่ง โดยไม่ต้องบันทึกข้อมูลส่วนตัวมากมาย และไม่ต้องมีกด “ถูกใจ” ก็อาจเรียกได้ว่าตัวเองนั้นแตกต่างก็ย่อมได้

ข้อมูลที่สำรวจได้เก็บมาจาก 1,005 คน อายุระหว่าง 13 ถึง 44 ปี นอกจากคำตอบที่ว่ารู้สึกมีความสุขแล้ว ผู้ใช้ Snapchat ยังบอกว่า แอปนี้ทำให้พวกเขารู้สึกว่าได้ทำอะไรตลกๆ และใช้ความรู้สึกเชิงบวกอื่นๆ บรรยายความรู้สึกที่มีต่อแอป ในขณะที่ Facebook และ Twitter ทำให้ผู้ใช้รู้สึกได้รับข้อมูล ถูกครอบงำ เชื่อมโยง และโดดเดี่ยว

Connected and lonely at the same time? Yep, social media in a nutshell.

จุดประสงค์การใช้งานแอปที่ต่างกันก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อผลการสำรวจ เพราะ Snapchat เป็นแอปที่คนใช้ขณะกำลังเดินทาง ใช้คุยกับเพื่อน ถ่ายรูปเล่นพร้อมใส่ฟิลเตอร์ แต่คนจะใช้ YouTube เวลาอยู่นิ่งๆ เพื่อเรียนรู้อะไรใหม่ๆ รับสื่อต่างๆ มากกว่า

ผลสำรวจและงานวิจัย ไม่ว่าจะเป็นทั้งที่ได้รับการว่าจ้างหรือทำอิสระ ต่างก็แสดงให้เห็นว่าเราใช้โซเชียลมีเดียโดยอาจไม่ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่ามันส่งผลกระทบกับเราในแบบสังคมหรือเฉพาะบุคคล นี่จึงเป็นเรื่องที่เราอาจต้องลองศึกษากันอย่างจริงจัง