ในบล็อกโพสต์เมื่อวานนี้ Michael Punke รองประธานนโยบายสาธารณะของ AWS ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่ Amazon Rekognition ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากสังคมว่าเทคโนโลยีดังกล่าวนั้นทำงานได้ดีและมีประโยชน์ แต่ในขณะเดียวกันก็ได้กล่าวสนับสนุนว่าควรมีการออกกฎหมายเพื่อควบคุมการใช้งานเทคโนโลยีรู้จำใบหน้า
Amazon Rekognition นั้นได้รับการวิจารณ์อย่างกว้างขวางจากสังคมในช่วงปีที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่กรณีของการขายเทคโนโลยีดังกล่าวให้ตำรวจที่ก่อให้เกิดความกังวลว่าจะนำไปสู่การสอดแนมมวลชน (Mass Surveillance) ในที่สุดและทำให้ Amazon ถูกประท้วงจากผู้ถือหุ้นและองค์กรด้านสิทธิที่ไม่เห็นด้วย
ในเดือนมกราคม 2019 ประเด็นความกังวลนี้ถูกปลุกขึ้นเป็นวงกว้างอีกครั้ง เมื่อผู้ถือหุ้นร่วมส่งจดหมายกดดันให้ Amazon เลิกจำหน่ายเทคโนโลยีนี้ไปก่อน และยิ่งร้อนแรงมากขึ้นเมื่อสำนักข่าว The New York Times ได้รายงานถึงผลการวิจัยจาก MIT ที่ชี้ให้เห็นว่า Amazon Rekognition นั้นมีอคติ (เช่น ระบุเพศของหญิงผิวสีผิดด้วยอัตรา 31%)
เสียงวิจารณ์หนาหูเหล่านี้อาจเป็นเหตุให้ Amazon ตัดสินใจออกมาสื่อสารในบล็อกโพสต์เมื่อวานนี้ในที่สุด Michael Punke ได้กล่าวถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีดังกล่าว โดยเฉพาะในการพิทักษ์กฎหมายที่เทคโนโลยีรู้จำใบหน้าสามารถเข้าไปช่วยในงานต่างๆ เช่นการตรวจตราและป้องกันอาชญากรรม การตามหาคนหาย และการรักษาความปลอดภัยในอาคาร เป็นต้น ซึ่ง Punke ได้เน้นว่า Amazon ได้ออกมาสาธิตแล้วว่าผลการทดสอบที่ออกมานั้นไม่ได้ใช้ Rekognition อย่างถูกต้อง และในช่วง 2 ปีที่ Amazon Rekognition ได้เริ่มให้บริการมา บริษัทยังไม่เคยได้รับการรายงานการนำไปใช้ในทางที่มิชอบจากผู้พิทักษ์กฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ส่วนที่น่าสนใจที่สุดของโพสต์นี้คือการออกมากล่าวสนับสนุนให้รัฐบาลออกกรอบกำหนดทางกฎหมายเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีรู้จำใบหน้า ซึ่งจากการหารือกับลูกค้า ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และนักนโยบาย Amazon ได้เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาข้อกฎหมายตาม Guidelines 5 ข้อ ดังนี้
- การใช้เทคโนโลยี Facial Recognition ควรอยู่ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งรวมไปถึงกฎหมายที่ปกป้องสิทธิพลเมืองด้วย
- เมื่อมีการใช้เทคโนโลยีรู้จำใบหน้าในการบังคับใช้กฎหมาย จำเป็นจะต้องมีมนุษย์คอยตรวจสอบการว่าการนำไปใช้จะไม่ขัดต่อสิทธิพลเมือง
- เมื่อมีการใช้เทคโนโลยีรู้จำใบหน้าในการระบุตัวตนโดยผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือในการอื่นซึ่งอาจละเมิดเสรีภาพพลเมือง ควรมี Confidence Score มากกว่า 99%
- หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายควรเปิดเผยอย่างโปร่งใสว่าใช้ Facial Recognition อย่างไร
- ควรมีการแจ้งประชาชนว่ามีการตรวจตราด้วยกล้องวิดีโอและใช้เทคโนโลยี Facial Recognition ทุกครั้งที่มีการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นในที่สาธารณะหรือพื้นที่เชิงพาณิชย์
การสนับสนุนการกำกับการใช้ Facial Recognition ในครั้งนี้ทำให้ Amazon เป็นอีกหนึ่ง Big Name ที่เรียกร้องกฎหมายในลักษณะดังกล่าวตามหลัง Microsoft ที่กำลังผลักดันร่างกฎหมายความเป็นส่วนตัวที่เกี่ยวเนื่องกับการรู้จำใบหน้าด้วย โดยปัจจุบันสหรัฐอเมริกายังไม่มีกฎหมายแห่งชาติใดๆที่ดูแลเทคโนโลยีดังกล่าว
ทางด้าน Inioluwa Deborah Raji นักวิชาการผู้ร่วมเขียนเปเปอร์งานวิจัยล่าสุดได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าท่าทีการใช้ภาษาที่ปกป้องสร้างความชอบธรรมใน Rekognition นั้น “น่าผิดหวัง” ทว่าการพูดถึงจริยธรรมในการใช้งานและเสนอ Guidelines ข้อกฎหมายนั้นก็นับว่าเป็นการก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง