ใกล้เข้ามาแล้วกับวัน Demo Day ของ Bangkok Bank InnoHub โครงการ FinTech Accelerator ระดับโลกของธนาคารกรุงเทพ ที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ จาก Startup ระดับโลกมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารฯ และยังเป็นรูปแบบใหม่ของการนำนวัตกรรมมาปรับใช้ สำหรับวงการธุรกิจไทยอีกด้วย ซึ่งในงานนี้ก็มีเทคโนโลยีที่อยู่ในเทรนด์ที่น่าสนใจซึ่งถือว่าน่าจับตามองไม่น้อยทีเดียว ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับประเด็นต่างๆ ที่น่าสนใจในงาน Demo Day ครั้งนี้ ว่าการนำนวัตกรรมระดับโลกมาปรับใช้ในเมืองไทยนั้น จะมีประเด็นใดที่น่าคาดหวังหรือน่าสนใจเป็นพิเศษกันบ้างครับ
Bangkok Bank InnoHub สนับสนุนธุรกิจ FinTech ระดับโลก พร้อมปรับเทคโนโลยีนำมาใช้พัฒนาประเทศไทย
ก่อนจะเจาะลึกถึงประเด็นอื่นๆ เราขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับโครงการ Bangkok Bank InnoHub กันก่อนนะครับ
โดยปกติแล้วในวงการ Startup เรามักจะมีกลุ่มที่เรียกว่า Accelerator หรือกลุ่มที่ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ลงทุน และผู้ช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจ Startup นั้นๆ ประสบความสำเร็จได้ด้วยปัจจัยอื่นๆ ที่นอกเหนือจากเงินลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้, การช่วยเข้าไปปรับแต่งโมเดลทางธุรกิจ, การเสริมจุดแข็งทางด้านเทคโนโลยี หรือแม้แต่การช่วยเปิดตลาดใหม่ๆ หาลูกค้าใหม่ๆ ให้ Startup เหล่านั้นเติบโตต่อไปได้
Bangkok Bank InnoHub เองก็เป็นหนึ่งในโครงการ Startup Accelerator ที่มุ่งเน้นทางด้าน FinTech เป็นหลัก แต่คำว่า FinTech ในนิยามของโครงการนี้จะค่อนข้างกว้าง ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับตัวเงินโดยตรง หรือเทคโนโลยีสำหรับตอบโจทย์ธุรกิจการเงินโดยตรง แต่มีหลากหลายแง่มุมที่จะตอบโจทย์ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม นี่เองเป็นปัจจัยแรกที่ทำให้โครงการนี้ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย
ประเด็นถัดมา คือการที่ Bangkok Bank InnoHub นี้ได้มุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนธุรกิจ Startup ที่ผ่านพ้นช่วงเริ่มต้นจนธุรกิจเริ่มดำเนินไปได้เองแล้ว และอยู่ในระหว่างการขยายธุรกิจ โดยอาจขยายตลาดสู่ภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก ดังนั้นเทคโนโลยีและโมเดลธุรกิจของ Startup เหล่านี้ก็คือสิ่งที่ถูกใช้งานจริงและสามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจในบางภูมิภาคมาอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ความชัดเจนในการทำธุรกิจของ Startup แต่ละรายถือว่าสูงมาก ในขณะที่บางเทคโนโลยีนั้นก็ถือว่าใหม่จนนำความต้องการในตลาดเมืองไทยไปอยู่บ้าง ก็ทำให้น่าจับตามองว่าเมื่อนำมาปรับใช้กับตลาดเมืองไทยแล้วผลจะเป็นอย่างไร
โครงการ Bangkok Bank InnoHub คือโอกาสในการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาช่วยตอบโจทย์ลูกค้าของธนาคารในเมืองไทยและทั่วโลกได้เป็นอย่างดีทีเดียว รวมถึงบางเทคโนโลยีเองนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่ทางธนาคารจะได้นำมาใช้งานเองเป็นการภายในด้วย เรียกได้ว่ามีทั้งให้การสนับสนุนเพื่อพัฒนาต่อยอดและดึงศักยภาพของเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และยังเป็นลูกค้าของ Startup ที่ตนเองสนับสนุนไปด้วยในเวลาเดียวกัน เป็นการสร้างความสัมพันธ์กันในระยะยาว ไม่ได้เป็นเพียงแค่การลงทุนเพื่อหวังผลกำไรในระยะสั้นเท่านั้น
ปัจจุบัน Bangkok Bank InnoHub ก็ได้ดำเนินมาถึง Season ที่ 2 แล้ว และก็ยังคงมีการนำธุรกิจจาก Season 1 มามีส่วนร่วมในโครงการครั้งนี้ด้วย
คัดเลือก 8 Startup ชั้นนำจากผู้สมัคร 128 รายทั่วโลก เตรียมขยายตลาดสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการเริ่มต้นจากเมืองไทย
เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา Bangkok Bank InnoHub Season 2 ได้เปิดรับสมัครธุรกิจ Startup เพื่อเข้าร่วมโครงการด้วยกันทั้งสิ้น 128 รายจาก 28 ประเทศทั่วโลก และผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจนประกาศผลธุรกิจที่ผ่านเข้ารอบด้วยกันทั้งสิ้นเหลือเพียงแค่ 8 รายที่โดดเด่นที่สุด ซึ่งแต่ละรายนั้นก็มีเทคโนโลยีและการตอบโจทย์ของตลาดที่แตกต่างกันออกไปมากทีเดียว ซึ่งทางทีมงาน ADPT ก็เคยได้สรุปภาพรวมของ Startup ทั้ง 8 รายเอาไว้แล้วดังนี้
- Antworks (สิงคโปร์) Platform ระบบอัติโนมัติอัจฉริยะ (powered by AI และ Fractal Science) ที่รวบรวมและประมวลผลข้อมูลทุกรูปแบบและจากหลากหลายแหล่งที่มา เพื่อช่วยธุรกิจปฏิวัติกระบวนการทำงานให้ รวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ
- CryptoMove (สหรัฐอเมริกา) เทคโนโลยีในการจัดเก็บและปกป้อง Key และ Secret สำหรับใช้ในการพัฒนา Application
- EYWA Media (สิงคโปร์) เทคโนโลยีการตลาดแบบใหม่ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค
- Jumper.ai (สิงคโปร์) เปลี่ยน Social Network ให้กลายเป็นร้านค้า ผู้ซื้อสามารถสั่งซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องออกจาก Platform นั้นๆ เลย
- Pand.ai (สิงคโปร์) ผู้พัฒนาโซลูชัน Chatbot พร้อม Deep NLP เข้าใจบทสนทนาได้อย่างเป็นธรรมชาติด้วย Deep Learning
- Pymlo (ฮ่องกง) โซลูชันระบบบัญชีบน Cloud แบบครบวงจรสำหรับธุรกิจ SME
- Sepulsa (อินโดนีเซีย) จ่ายค่าบริการต่างๆ และรวบรวมใบเสร็จสั่งซื้อของ E-Commerce ได้ในระบบเดียว
- Vymo (อินเดีย) เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจด้วย Personal Assistant Application ที่ชาญฉลาดสำหรับพนักงานขาย
จะเห็นได้ว่าความชัดเจนในการทำธุรกิจของ Startup แต่ละรายนั้นสูงมาก และมีทั้งธุรกิจที่ไม่ได้มีเทคโนโลยีที่หวือหวาอะไรแต่ตอบโจทย์ทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี ไปจนถึงธุรกิจที่พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วยแนวคิดของตนเองไม่เหมือนใคร เพื่อมาตอบโจทย์ทางธุรกิจให้ได้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าเทคโนโลยีอื่นๆ ที่มีอยู่เดิม เช่น CryptoMove ที่พยายามแก้ไขปัญหาที่องค์กรต้องพบเจอกันทั่วโลกในเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลด้วยเทคนิคใหม่ หรือ Jumper.ai ที่พลิกมุมมองใหม่ให้กับธุรกิจ online Commerce เป็นต้น
และหากสังเกตให้ดี จะเห็นว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่มีความเป็นไปได้ในการนำมาปรับใช้ในตลาดประเทศไทยทั้งสิ้น และการปรับใช้ในไทยได้สำเร็จเองก็จะกลายเป็นก้าวแรกที่สำคัญของธุรกิจ Startup เหล่านี้ในการขยายตลาดสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไปในอนาคต ประเด็นนี้เองก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ทางโครงการ Bangkok Bank InnoHub Season 2 ให้ความสำคัญในขั้นตอนการคัดเลือกธุรกิจ Startup มาเข้าร่วมโครงการ
12 สัปดาห์ปรับธุรกิจและเทคโนโลยีให้พร้อมใช้งานในไทย เตรียมโชว์ผลงานแล้ว 13 มี.ค. 2019 นี้
8 Startup ที่เข้ารอบโครงการในครั้งนี้ได้ใช้เวลา 12 สัปดาห์ ร่วมกับเหล่าผู้บริหารจากธนาคารกรุงเทพและทีมงาน Nest เพื่อปรับธุรกิจและเทคโนโลยีของตนเองให้เหมาะสมต่อตลาดเมืองไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ก่อนจะนำเสนอนวัตกรรมในวัน Demo Day 13 มีนาคม 2019 ที่กำลังจะมาถึงนี้
ในวัน Demo Day นี้จะมีทั้งนักลงทุนที่สนใจลงทุนเพิ่มเติม และภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในไทย รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการร่างกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับต่างๆ เข้าร่วมในวันงาน เพื่อทำความเข้าใจกับเทคโนโลยี, นวัตกรรม และรูปแบบของธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากธุรกิจ Startup ทั้ง 8 รายนี้ผ่านการนำเสนอและตัวอย่างการประยุกต์การใช้งานจริง หรือกรณีศึกษาจากลูกค้าที่ใช้งานอยู่จริงแล้ว ด้วยเป้าหมายที่จะร่วมกันผลักดันให้ธุรกิจ Startup ทั้ง 8 รายนี้เติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคงในอนาคตนั่นเอง
ประเด็นที่น่าจับตามองในวัน Demo Day ครั้งนี้ ก็จะมีทั้งผลลัพธ์การปรับระบบ AI และ Chatbot เพื่อให้ใช้งานร่วมกับธุรกิจการเงิน, การประยุกต์ด้านระบบ E-Commerce เข้ากับช่องว่างของตลาดเมืองไทยที่ถือเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วสำหรับธุรกิจ E-Commerce, การปรับเทคโนโลยีด้านการโฆษณาให้เข้ากับตลาดของเมืองไทยที่มีการโฆษณาออนไลน์กันอย่างแพร่หลาย และการทดสอบนำเทคโนโลยีด้าน Security มาใช้ตอบโจทย์ความต้องการของ Digital Business ในเมืองไทยอย่างเต็มตัวยิ่งกว่าเดิม และความคิดเห็นในแง่มุมที่หลากหลายจากเหล่าผู้เข้าร่วมรับชมในงานวัน Demo Day ครั้งนี้ด้วย
เกี่ยวกับ Bangkok Bank InnoHub
ธนาคารกรุงเทพได้ริเริ่มโครงการ Bangkok Bank InnoHub ในฐานะของโครงการ FinTech Accelerator มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2017 ภายใต้ความร่วมมือกับ Nest โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนนโยบายประเทศไทย 4.0 ด้วยการวางบทบาทของตนเองเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อระหว่างธุรกิจ Startup ระดับโลกกับตลาดเมืองไทยและภูมิภาคอาเซียน ให้ธุรกิจไทยและอาเซียนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี, นวัตกรรม และโอกาสใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ในขณะที่ช่วยสร้างการเติบโตให้กับเหล่าธุรกิจ Startup ไปพร้อมกัน ด้วยการผสานความเร็วของธุรกิจ Startup ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เข้ากับความรู้, ความเชี่ยวชาญ และฐานลูกค้าที่ธนาคารกรุงเทพมีอยู่ในปัจจุบัน
โครงการ Bangkok Bank InnoHub Season 2 ได้ต่อยอดจากโครงการใน Season 1 ด้วยการเปิดกว้างให้มีธุรกิจหลากหลายประเภทสามารถเข้าร่วมโครงการได้มากขึ้น และมุ่งเน้นไปที่กรณีการใช้งานจริงมากขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการจากธุรกิจเหล่านี้สามารถใช้งานได้จริง และง่ายต่อการนำมาต่อยอดสร้างการเติบโตในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียนไปด้วยกัน
สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดและข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Bangkok Bank InnoHub Season 2 สามารถติดตามได้ที่ https://www.bangkokbankinnohub.com/ และ https://www.facebook.com/BangkokBankInnoHub