ในงาน Microsoft Build เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น มีหนึ่งเซสชั่นของแบรนด์ที่เราคุ้นหูกันดีอย่าง Starbucks เจ้าของร้านกาแฟมากสาขาทั่วโลก ที่เผินๆดูจะกลายเป็นบริษัทกึ่งเทคโนโลยีไปเสียแล้ว กับเทคโนโลยีที่พวกเขานำมาใช้ในร้านที่มีทั้ง AI, IoT, และบล็อกเชน
Predictive Drive-Thru Ordering
Starbucks นั้นทำ Recommendation ด้วยข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าผ่านแอปพลิเคชันอยู่แล้ว ดังนั้นการขยายความสามารถนี้ไปยังการซื้อแบบไดรฟ์ทรูก็นับว่าเป็นก้าวที่ไม่น่าแปลกใจอะไรนัก Starbucks จะใช้ข้อมูลประวัติการสั่งซื้อของลูกค้าในแต่ละสาขา ไปวิเคราะห์รวมกับข้อมูลอื่นๆ เช่น สต็อกวัตถุดิบ ช่วงเวลา และสภาพอากาศในวันนั้นๆ เพื่อทำนายและแนะนำเมนูให้ลูกค้าไดรฟ์ทรูเลือกซื้อผ่านบอร์ดดิจิทัลในสถานีไดรฟ์ทรู ปัจจุบันระบบดังกล่าวยังอยู่ในช่วงทดลองในศูนย์นวัตกรรม Tryer Center ในเมือง Seattle
Connected Coffee-makers
เทคโนโลยีของ Azure ถูก Starbucks นำมาใช้ในการจัดการและเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆในร้านกว่า 30,000 สาขา ที่รวมไปถึงเครื่องทำกาแฟ เครื่องบด และเครื่องปั่น โดยในแต่ละครั้งที่มีการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ ข้อมูล เช่น คุณภาพของน้ำ อุณหภูมิของกาแฟ และชนิดของเมล็ดกาแฟ จะถูกเก็บเข้าระบบ และหนึ่งในการใช้งานข้อมูลเหล่านี้คือการทำ Predictive Maintenance ลดความเสี่ยงและป้องกันการเสียของเครื่องได้ก่อนเวลา ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในร้านที่อุปกรณ์ถูกใช้ตลอด 16 ชั่วโมงต่อวัน
นอกจากนี้ การเชื่อมต่อของระบบยังช่วยให้ Starbucks สามารถแก้ไขและเพิ่มสูตรเครื่องดื่มใหม่ๆได้อย่างรวดเร็วผ่านคลาวด์ จากเติมที่การอัพเดตสูตรแต่ละครั้งต้องทำผ่านแฟรชไดรฟ์และใช้เวลานานหลายสัปดาห์
Bean to Cup Blockchain
Microsoft เพิ่งประกาศให้บริการ Azure Blockchain Service ไปสดๆร้อนๆเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน และ Starbucks ก็มีแผนนำบริการดังกล่าวมาใช้เรียบร้อยแล้ว โดย Microsoft จับมือกับ Starbucks ในการพัฒนาระบบที่จะเชื่อมต่อผู้ดื่มกาแฟเข้ากับผู้ผลิตกาแฟ ให้ลูกค้าของร้านสามารถเข้าถึงแหล่งที่มาและสตอรี่ทั้งหมดของเมล็ดกาแฟที่กำลังดื่มได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ และในขณะเดียวกันก็มอบโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆให้กับเจ้าของไร่กาแฟ โดย Starbucks ได้แง้มไอเดียโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2018 และในช่วงปีที่ผ่านมาก็ได้เข้าไปหารือเกี่ยวกับโครงการกับไร่กาแฟแล้วกว่า 380,000 แห่ง