FedEx ไม่ต่อสัญญากับ Amazon (เฉพาะบริการส่งด่วนในอเมริกา)

0
NEW YORK, NY - DECEMBER 19: A FedEx worker unloads packages from a truck in the Financial District, December 19, 2018 in New York City. Shares of FedEx stocks dropped more than 10 percent on Wednesday, adding to a nearly 32 percent plunge this year. The drop comes a day after FedEx CEO Frederick Smith blamed 'bad political choices' across the globe for the company's lower profit forecast for the upcoming year. (Photo by Drew Angerer/Getty Images)

FedEx ประกาศว่า บริษัทจะไม่ต่อสัญญา FedEx Express US กับ Amazon แล้ว และจะมุ่งให้บริการแก่ตลาดอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ขึ้น” ในขณะที่ Amazon ก็พึ่งผู้ให้บริการส่งของเจ้าอื่น เช่น UPS และการไปรษณีย์แห่งสหรัฐอเมริกา (The United States Postal Service) แต่ FedEx ก็เป็นผู้ให้บริการรายหลัก การที่ FedEx ไม่ต่อสัญญาด้วยนั้นจึงอาจสร้างผลกระทบขึ้นได้

ตามที่ FedEx ได้แจ้งแก่ผู้ลงทุนนั้น บริษัทมีรายได้จาก Amazon เพียง 1.3 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดในปี 2561 FedEx เผยว่า บริษัทเตรียมที่จะให้บริการแก่ผู้ค้าอีกนับหลายพันในตลาดอีคอมเมิร์ซ ซึ่งคาดว่าภายในปี 2569 ตลาดจะเติบโตขึ้นจากพัสดุจำนวน 50 ล้าน เป็น 100 ล้าน ต่อวันในอเมริกา “เรารู้สึกตื่นเต้นเรื่องอนาคตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและบทบาทของเราในฐานะผู้นำในด้านนั้น” ทั้งนี้ การตัดสินใจดังกล่าวจะไม่กระทบกับการส่งสินค้าระหว่างประเทศหรือสัญญาระหว่าง Amazon กับหน่วยธุรกิจ FedEx อื่นๆ เช่น FedEx Ground

ข่าวนี้อาจไม่ใช่เรื่องน่ากังวลนักสำหรับ Amazon เพราะบริษัทเองก็ยังมีผู้ให้บริการส่งสินค้าเจ้าอื่นให้เลือกใช้ อีกทั้งยังมีโครงการพัฒนาบริการส่งสินค้าด้วยหุ่นโดรน ดังที่พึ่งได้ออกข่าวไปว่า บริษัทคาดว่าจะใช้โดรนส่งสินค้าน้ำหนักไม่เกิน 5 ปอนด์ ในระยะ 15 ไมล์ ให้แก่ลูกค้าภายในเวลา 30 นาที ซึ่งก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะใช้โดรนส่งสินค้าเมื่อไร หรือการที่ FedEx ไม่ต่อสัญญาแล้ว จะช่วยให้เร่งดำเนินการได้เร็วขึ้นหรือไม่

ทั้งนี้ โฆษก Amazon ได้กล่าวตอบรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวว่า “เราเคารพการตัดสินใจของ FedEx และขอบคุณที่บริษัทได้ให้บริการแก่ลูกค้าของ Amazon มาโดยตลอด”