AI จะช่วยวินิจฉัยภัยเงียบอย่างโรคเบาหวานได้เร็วขึ้นหรือไม่? นักวิจัยจาก IBM ก็หวังเช่นกัน โดยได้สร้างเครื่องมือคัดกรองด้วย AI ที่สามารถช่วยหาแอนติบอดีโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ในเลือดได้
สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ทั่วโลกหลายล้านคน ต้องหมั่นคอยดูแลตัวเอง เนื่องจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอ จากข้อมูลของสมาคมเบาหวานแห่งอเมริกา (American Diabetes Association) ในสหรัฐอเมริกาเองมีผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ประมาณ 1.25 ล้าน คน และมีการวินิจฉัยพบราว 40,000 รายต่อปี แต่ก็ยังไม่มีขั้นตอนการคัดกรองมาตรฐานที่ตรวจพบได้เร็ว แพทย์ส่วนใหญ่ทดสอบโดยอิงจากประวัติครอบครัวและปัจจัยความเสี่ยงอื่นๆ ซึ่งนั่นอาจทำให้วินิจฉัยหาโรคเบาหวานไม่พบ และอาจนำไปสู่การตรวจพบเจอโรคโดยฉับพลันหรือเข้าห้องฉุกเฉินในภายหลัง ดังนั้น แพทย์ผู้รักษาควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิธีการคัดกรองที่ดีกว่าเป็นลำดับแรก
จากจุดนี้เองที่ AI เข้ามาช่วย โดยในการประชุมเชิงวิทยาศาสตร์ครั้งที่ 79 ของสมาคมเบาหวานแห่งอเมริกา IBM และ JDRF (กองทุนวิจัยโรคเบาหวานในคนหนุ่มสาว หรือ the Juvenile Diabetes Research Foundation) เปิดตัวเครื่องมือ AI คาดการณ์ผลที่ตรวจหาแอนติบอดีโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ในเลือด เพื่อดูว่าอาการจะกำเริบขึ้นเมื่อไรและอย่างไร โดย Jianying Hu นักวิจัยจาก IBM และผู้นำวิจัยด้าน AI เพื่อสุขภาพแห่ง IBM Research กล่าวว่า AI ได้รับป้อนข้อมูลจากคนกว่า 22,000 คนจากสหรัฐอเมริกา สวีเดน และฟินแลนด์ ซึ่งโปรแกรมก็สามารถระบุความเหมือนกันในกลุ่มคนที่มีแอนติบอดีโรคนั้นและไทม์ไลน์การเกิดโรคได้ โมเดล AI นี้จะช่วยให้แพทย์มีกำหนดเวลาเฉพาะบุคคลได้มากขึ้นสำหรับใช้ดูแลติดตามผู้ป่วยและดูความเหมาะสมในการเข้ารับการรักษา
หลังจากนี้ ทีมวิจัยจะเพิ่มข้อมูลจากเยอรมนีและคัดแยกโดย AI และจะทำงานร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดเพื่อศึกษาว่า พวกเขาจะนำข้อมูลที่ได้นี้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร
ในตอนนี้ AI นี้ยังไม่ได้เป็นวิธีการคัดกรองที่ฟันธงผลได้แน่นอน แต่ก็นับเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าเครื่องมือที่ใช้ระบบเรียนรู้จะสามารถนำไปใช้วินิจฉัยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ได้เร็วขึ้นในอนาคต