Amazon เริ่มทดสอบใช้วิดีโอคอลยืนยันตัวตนผู้ขายบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นมาตรการส่วนหนึ่งที่บริษัทพยายามลดปริมาณบัญชีและรายการสินค้าที่หลอกหลวงบนแพลตฟอร์ม
โฆษก Amazon กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ตามที่บริษัทปฏิบัติตามการเว้นระยะห่างทางสังคม เราก็ได้ทดสอบกระบวนการที่ช่วยยืนยันตัวตนผู้ค้าผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ การทดลองทำให้เราเชื่อมโยงกับผู้ค้าได้แบบหนึ่งต่อหนึ่งในขณะที่ทำให้นักต้มตุ๋นหลบซ่อนได้ยากขึ้น”
กระบวนการพิสูจน์ตัวตนอยู่ในขั้นทดลองในประเทศต่างๆ อาทิ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ของ Amazon เป็นผู้ตรวจสอบว่า ข้อมูลผู้ขายตรงกับบัตรประจำตัวและเอกสารที่ใช้ประกอบการสมัคร ซึ่ง Amazon ยืนยันว่าไม่ได้นำเทคโนโลยีรู้จำใบหน้ามาข้องเกี่ยวในกระบวนการนี้แต่อย่างใด การโทรผ่านวิดีโอคอลยังเป็นโอกาสให้เจ้าหน้าที่ตอบคำถามเกี่ยวข้องกับขั้นตอนการสมัคร จนถึงตอนนี้มีผู้ขายที่ผ่านขั้นตอนการทดสอบดังกล่าวแล้วกว่า 1,000 ราย
ในช่วงปีที่ผ่านมานี้ Amazon เผชิญกับการตรวจสอบเคร่งครัดถึงผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายโดยกลุ่มผู้ค้าบุคคลที่สามบนแพลตฟอร์มนี้ ปีที่แล้ว มีการตรวจพบเจอสินค้าจำหน่ายนับหลายพันรายการบน Amazon ที่ถูกตราคลาดเคลื่อน ถูกแบน หรือได้รับการแจ้งว่าเป็นอันตรายโดยหน่วยงานของรัฐ อีกทั้งยังมีรายงานว่ามีสินค้าปลอมแปลงจำหน่ายบน Amazon ด้วย ซึ่ง Amazon ได้ประกาศเมื่อปีที่แล้วว่า ยอดขายจากผู้ค้ากลุ่มบุคคลที่สามคิดเป็นจำนวนเกินครึ่งของสินค้าที่จำหน่ายบนแพลตฟอร์มนี้