การทำงานแบบ Hybrid Work จะกลายเป็นแนวทางหลักสำหรับธุรกิจองค์กรทั่วโลกในการดำเนินงานร่วมกัน ทำให้หลังจากนี้เป็นต้นไป ผู้บริหารทางด้าน IT ของธุรกิจองค์กรทั่วไทยและทั่วโลกนั้นจึงต้องวางกลยุทธ์และแผนการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มนี้ในระยะยาวให้ครอบคลุมทั้งปัจจัยด้านความคล่องตัวในการทำงาน ประสบการณ์ในการทำงานที่ดี ไปจนถึงการปกป้องพนักงานและผู้บริหารให้สามารถทำงานได้อย่างมั่นคงปลอดภัย
ในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับโซลูชันจาก NTT ที่จะผสานนำเทคโนโลยีด้านการทำงานแบบ Hybrid Work จาก Cisco มารวมเข้ากับบริการ NTT Managed Services เพื่อให้การทำงานแบบ Hybrid Work ในทุก ๆ รูปแบบนั้นเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางธุรกิจได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าธุรกิจ สาขา หรือบ้านของพนักงานนั้นจะอยู่ที่ใดในประเทศไทยหรือในโลกก็ตาม
การออกแบบ Employee Experience (EX) ที่ดี คือหัวใจสำคัญของ Hybrid Workplace แห่งอนาคต
จากรายงาน 2021 Global Workplace Report โดย NTT ซึ่งได้มีการสอบถามจากธุรกิจองค์กรมากกว่า 1,000 แห่งเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมานั้น ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่ของการทำงานที่ยืดหยุ่นแบบ Hybrid Work ที่ยังคงเป็นที่ต้องการของเหล่าพนักงานในธุรกิจองค์กรต่าง ๆ แม้ว่าภาวะวิกฤตโรคระบาดจะคลี่คลายลงไปแล้ว ทำให้ธุรกิจต้องเร่งพัฒนา Hybrid Workplace ที่จะมาตอบโจทย์ต่อความต้องการของพนักงานเหล่านี้ในอนาคตกันอย่างเร่งด่วน
ปัจจัยหนึ่งที่เหล่าธุรกิจองค์กรต้องให้ความสำคัญนั้นก็คือการปรับปรุง Employee Experience (EX) ที่จะต้องเร่งเพิ่มความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพนักงาน ที่ต่างก็ต้องเผชิญกับความตึงเครียดจากการทำงานจากที่บ้านอย่างต่อเนื่องยาวนาน ด้วยการออกแบบวิธีการทำงาน เทคโนโลยีที่ใช้ในการทำงาน ความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับพนักงานเสียใหม่ เพื่อเหนี่ยวรั้งให้พนักงานนั้นยังคงมีแรงจูงใจในการทำงาน และไม่ย้ายงานไปยังองค์กรอื่น ๆ ที่สามารถตอบสนองในประเด็นเหล่านี้ได้ดีกว่าเสียก่อน
ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจนั้นก็คือมุมมองระหว่างผู้บริหารและพนักงานที่แตกต่างกัน โดยเหล่า CEO กว่า 64.4% นั้นระบุว่ามีความพึงพอใจกับการส่งมอบ EX ที่มีอยู่ในปัจจุบันแล้ว แต่พนักงานเพียงแค่ 23.3% เท่านั้นที่พึงพอใจกับ EX ที่เป็นอยู่ ดังนั้นการวิเคราะห์ข้อมูลจาก 3W ได้แก่ Work, Workforce และ Workplace นั้นก็ถือเป็นแนวทางหนึ่งที่ CHRO ต้องเร่งทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจและสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ตอบโจทย์พนักงานได้อย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ในรายงานฉบับนี้ ได้สรุปถึง 3 ประเด็นที่น่าสนใจของ Hybrid Workspace แห่งอนาคตเอาไว้ว่าจะมีแนวโน้มดังต่อไปนี้
แนวโน้มของการเปลี่ยนการทำงานจากที่ทำงานหรือโรงงาน ไปสู่การทำงานจากที่บ้านหรือแบบ Hybrid นั้นเกิดขึ้นมากกว่าที่มีการคาดการณ์กันเอาไว้ ทำให้ธุรกิจองค์กรต้องเร่งสนับสนุนการทำงานในรูปแบบใหม่ ๆ เหล่านี้ และมองหาวิธีการที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่ดีแก่พนักงานที่ทำงานในรูปแบบนี้ให้ได้ดียิ่งขึ้น
การมีปฏิสัมพันธ์พบปะเจอหน้ากันโดยตรงยังคงมีความสำคัญ เพื่อสร้างความรู้สึกของการทำงานร่วมกันเป็นทีม และสานความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า ซึ่งเทคโนโลยีการประชุมด้วยวิดีโอนั้นก็สามารถช่วยเติมเต็มโจทย์นี้ได้ระดับหนึ่ง
การทำความเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นต่อการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของสถานที่ เวลา และวิธีการทำงานของพนักงานนั้นจะเป็นหัวใจสำคัญในการออกแบบพื้นที่ทำงานที่จะช่วยให้พนักงานมีคนวามยืดหยุ่นในการทำงานได้จากทุกที่โดยมีประสบการณ์ในการทำงานที่เหมาะสมกับการทำงานในแต่ละรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป
เลือกใช้โซลูชัน Hybrid Workplace & Collaboration ที่หลากหลายและมั่นคงปลอดภัยจาก Cisco และ NTT
ในการสร้าง Hybrid Workplace และการสร้างประสบการณ์ที่ดีในการทำงานแก่พนักงาน การนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมและตอบโจทย์ต่อการทำงานในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปนั้นก็ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ธุรกิจองค์กรจะละเลยไปไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ เพื่อให้การวางกลยุทธ์ด้าน Hybrid Workplace ของธุรกิจองค์กรเป็นจริงขึ้นมาได้ ทาง NTT จึงได้นำโซลูชันที่หลากหลายจาก Cisco มาให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการในการสื่อสารทำงานในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารระหว่างกันภายในองค์กร การประชุมร่วมกับลูกค้าหรือคู่ค้าขององค์กร การให้บริการลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ไปจนถึงการผสานระบบเพื่อส่งมอบประสบการณ์ในการให้บริการที่ดีผ่าน Application ขององค์กร ดังนี้
1. Cisco Webex Meetings
ระบบ Video Collaboration ที่มีชื่อเสียงยาวนานจาก Cisco ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ที่จะช่วยให้การประชุมสื่อสารงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการใช้งานได้จากทุกอุปกรณ์ ปรับแต่งให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานที่ต้องการได้ โดยสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน
2. Cisco Cloud Connected Audio (CCA)
โซลูชันการประชุมผ่านเสียงบน Cisco Cloud ที่สามารถทำงานร่วมกับ Cisco Webex Meetings และเชื่อมต่อผ่านระบบโทรศัพท์ เพื่อรองรับการเข้าประชุมด้วยเสียง และลดค่าใช้จ่ายในการประชุมข้ามประเทศด้วยระบบเสียงที่มีคุณภาพดีได้ โดยมีบริการจาก NTT เพื่อให้สามารถผสานระบบ CCA เข้ากับระบบโทรศัพท์ในแต่ละประเทศได้อย่างครอบคลุม
3. Cisco Webex Hybrid Services
บริการจาก NTT เพื่อเชื่อมผสานระบบ Cisco Webex แบบ On-Premises เข้ากับ Webex บน Cloud ให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ด้วยประสบการณ์เดียวกัน
4. Cisco Cloud Video Interoperability (CVI) Gateway
บริการจาก NTT เพื่อเชื่อมระบบ Cisco Webex ให้สามารถทำงานร่วมกับ Microsoft Teams และใช้งานผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ตามต้องการ ช่วยให้องค์กรสามารถใช้งานเทคโนโลยีด้านระบบประชุมที่มีอยู่แล้วร่วมกันได้ และเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนให้สูงสุด
5. Flip to Flex with NTT
บริการ Cisco Webex ในรูปแบบ Flex Licensing ที่จะช่วยให้สามารถใช้งานบริการระบบ Cisco Collaboration ที่หลากหลายได้ภายใน Subscription เดียว ครอบคลุมทั้งการใช้งานแบบ Cloud, On-Premises, Hosted และ Hybrid เพื่อตอบสนองต่อทุกความต้องการของภาคธุรกิจได้อย่างอิสระ
6. Cisco Rooms and Devices
ระบบ Cisco Webex Rooms และอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในระบบ Webex เพื่อให้ธุรกิจองค์กรสามารถออกแบบห้องประชุมและพื้นที่ทำงานสำหรับพนักงานได้อย่างเหมาะสม ด้วยอุปกรณ์การประชุมผ่านวิดีโอคุณภาพสูง กระดาน Whiteboard และระบบ AI ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารระหว่างการประชุมให้สูงยิ่งขึ้น
7. Cisco Webex Calling & Cisco UCM Cloud
เชื่อมต่อ Cisco Webex และ Cisco UCM Cloud เข้ากับระบบโทรศัพท์ในแต่ละประเทศเพื่อให้การสื่อสารเป็นไปได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยอัตราค่าโทรศัพท์ในแต่ละประเทศปลายทางเพื่อความคุ้มค่าสูงสุดในทุกการสื่อสาร
จะเห็นได้ว่าโซลูชันจาก Cisco ที่ NTT นำมาให้บริการนี้ ได้มีการเสริมนวัตกรรมแและบริการจากทาง NTT เข้าไปเพื่อให้ตอบโจทย์สำหรับการนำไปใช้งานในภาคธุรกิจองค์กรมากยิ่งขึ้น และสามารถนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางด้าน Hybrid Workplace สำหรับธุรกิจองค์กรได้เป็นอย่างดี
ไม่เพียงแต่ในแง่ของการสื่อสารเท่านั้น แต่ NTT และ Cisco เองก็ยังให้ความสำคัญกับการปกป้องผู้ใช้งานให้มีความมั่นคงปลอดภัยในทุก ๆ การเชื่อมต่อเครือข่ายในการทำงานอีกด้วย จึงได้มีการนำเสนอโซลูชัน Cisco Umbrella ที่เป็นระบบ Cloud-Delivered Security เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานผ่านระบบ Cloud โดยมีการผสมผสานเทคโนโลยีที่หลากหลาย ได้แก่
- Cloud-Delivered Firewall ระบบ Network Firewall บน Cloud ที่สามารถควบคุมการเชื่อมต่อใช้งานระบบต่างๆ ของผู้ใช้งานได้เสมือนใช้งานระบบเครือข่ายภายในองค์กร
- Secure Web Gateway ระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการเข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อไม่ให้ผู้ใช้งานตกเป็นเหยื่อของการโจมตีที่แฝงอยู่ในเว็บไซต์อันตราย
- Cloud Access Security Broker (CASB) ระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการเข้าใช้บริการ SaaS สำหรับการทำงาน ลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุข้อมูลสำคัญทางธุรกิจรั่วไหลในทุกการเชื่อมต่อเพื่อการทำงาน
- DNS-Layer Security ระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยในระดับ DNS ลดความเสี่ยงที่ผู้ใช้งานจะทำการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการที่มีความเสี่ยง และป้องกันอุปกรณ์หรือระบบของผู้ใช้งานไม่ให้ทำการเชื่อมต่อไปยังระบบที่มีความอันตรายสูงโดยไม่รู้ตัว
- Interactive Threat Intelligence ระบบรวบรวมข้อมูลข่าวสารด้านความมั่นคงปลอดภัยเพื่อใช้เฝ้าระวังและแจ้งเตือนด้านภัยคุกคาม เสริมความมั่นคงปลอดภัยและการรับผู้แก่ผู้ดูแลระบบได้เป็นอย่างดี
Cisco Umbrella นี้สามารถใช้งานได้กับธุรกิจองค์กรทุกแห่ง และอุปกรณ์ทุกชนิด พร้อมทำงานร่วมกับโซลูชันอื่น ๆ จาก Cisco ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อปกป้องผู้ใช้งานจากการทำงานในโลกยุค Hybrid Workplace ได้อย่างครอบคลุม และวางรากฐานสำหรับระบบ Secure Access Service Edge (SASE) เพื่อเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานของธุรกิจองค์กรในทุกแง่มุมได้ในระยะยาว
วางกลยุทธ์ Hybrid Workplace และ Collaboration พร้อมดูแลรักษาตลอดการใช้งาน ด้วย NTT Managed Services
ในการวางกลยุทธ์และการลงทุนทางด้าน Hybrid Workplace ที่ดีนั้น ควรจะต้องมีการวางแผนให้ธุรกิจองค์กรมีความยืดหยุ่นในการใช้งานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถเพิ่มลดจำนวนการใช้งานตามจำนวนพนักงานหรือการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ทำงาน และสามารถเพิ่มหรือลดความสามารถที่ต้องการใช้ในการสื่อสารแต่ละส่วนให้สอดคล้องต่อความต้องการทางธุรกิจได้ตามต้องการ
เมื่อโจทย์ของภาคธุรกิจองค์กรนั้นคือความยืดหยุ่นในการใช้งานเทคโนโลยี NTT จึงพร้อมตอบโจทย์นี้ด้วยบริการ NTT Managed Services ที่ไม่เพียงแต่จะครอบคลุมในส่วนของการให้บริการเทคโนโลยีได้อย่างหลากหลายเท่านั้น แต่ยังมีในส่วนของการให้คำปรึกษาและการดูแลรักษาระบบอย่างครบวงจร เพื่อเป็นทางเลือกให้ธุรกิจสามารถสร้าง Hybrid Workplace และปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานในส่วนต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่องตามความต้องการ
บริการของ NTT ที่เกี่ยวข้องกับ Hybrid Workplace ได้แก่
- Workplace Advisory Services บริการให้คำปรึกษาออกแบบวางระบบ Hybrid Workplace ด้วยเทคโนโลยี Cloud Unified Communications (UC) และ Cloud Voice
- Transformation Services บริการสำหรับปรับปรุงและย้ายระบบมาสู่การใช้งาน Cloud Unified Communications (UC) ที่มีความสามารถหลากหลาย พร้อมประยุกต์ใช้งานได้ทันที
- Communications Lifecycle Management บริการรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานระบบสื่อสารภายในและภายนอกองค์กร เพื่อบริหารจัดการและปรับเปลี่ยนการลงทุนให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดได้อย่างต่อเนื่อง
- Managed Collaboration Services บริการระบบ Collaboration ที่ทีมงาน NTT จะนำเทคโนโลยีต่าง ๆ ไปติดตั้งใช้งานให้ภายในองค์กร พร้อมดูแลรักษาตลอด 24 ชั่วโมง โดยคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง
- Cloud Voice บริการระบบสื่อสารทางเสียงผ่าน Cloud เพื่อลดค่าใช้จ่ายสำหรับระบบโทรศัพท์ข้ามประเทศ
- Webex Calling บริการระบบโทรศัพท์บน Cloud จาก Cisco Webex เพื่อให้พนักงานขององค์กรสามารถเชื่อมต่อสื่อสารได้อยู่เสมอ
บริการทั้งหมดเหล่านี้สามารถใช้งานร่วมกับโซลูชัน Cisco Collaboration ได้ทั้งหมด ดังนั้นถ้าหากธุรกิจองค์กรใดที่สนใจใช้งานเทคโนโลยีของ Cisco เพื่อวางรากฐานให้กับ Hybrid Workplace ก็สามารถติดต่อ NTT เพื่อขอคำปรึกษา หรือใช้บริการในส่วนต่าง ๆ ที่ต้องการได้เช่นกัน
สนใจโซลูชันระบบ Hybrid Work และการทำ Security Assessment Report ฟรี ติดต่อทีมงาน NTT ได้ทันที
สำหรับองค์กรที่สนใจรับการประเมินความเสี่ยงด้านภัยคุกคามในการทำ Security Assessment Report ไปจนถึงผู้ที่สนใจโซลูชันระบบอื่น ๆ ของ Cisco Collaboration สำหรับการวางระบบ Hybrid Workplace และระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้าน Cloud-Delivered Security และ NTT Managed Services ในส่วนต่าง ๆ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่นี่ หรือ [email protected] และสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ https://services.global.ntt/