Oracle Cloud Infrastructure (OCI) พร้อมตอบโจทย์การทำงานของลูกค้าทุกที่ด้วย OCI Dedicated Region ผ่าน Entry Point ที่น้อยลง พร้อมบริการ Compute Cloud@Customer ซึ่งช่วยดึงบริการบนคลาวด์สาธารณะมากกว่า 100 รายการผ่าน OCI เข้าสู่ศูนย์ข้อมูลของลูกค้าโดยตรง บริการใหม่นี้จะช่วยให้ลูกค้ามีมาตรฐานระบบสอดคล้องตามข้อกำหนดที่เข้มงวด ทั้งในด้านความหน่วงสัญญาณ ถิ่นที่อยู่ของข้อมูล และอธิปไตยด้านข้อมูล ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการปรับเปลี่ยนระบบไอทีขององค์กรให้ทันสมัย ลูกค้าระดับโลกอย่าง NRI และ Vodafone รวมถึงองค์กรชั้นนำของประเทศไทยอย่าง Forth Smart และธนาคารไทยพาณิชย์ ต่างเลือกใช้ OCI Dedicated Region เพื่อใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์สาธารณะของออราเคิลในตำแหน่งพื้นที่ปฏิบัติงานของพวกเขาได้อย่างเต็มที่
“ระบบ Distributed Cloud คือวิวัฒนาการอีกขั้นของการประมวลผลผ่านเครือข่ายคลาวด์ (Cloud Computing) ซึ่งมอบความยืดหยุ่นและการควบคุมการใช้ทรัพยากรของระบบคลาวด์ที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้า” เดฟ แม็คคาร์ทีย์ รองประธานฝ่านงานวิจัย แผนก Cloud and Edge Infrastructure Services แห่ง IDC กล่าว “วันนี้ ลูกค้าจะไม่ถูกจำกัดด้วยตัวเลือกด้านตำแหน่งพื้นที่ใช้งาน ข้อกำหนดด้านอธิปไตยข้อมูล ถิ่นที่อยู่ของข้อมูล หรือความหน่วงสัญญาณ เพราะบริการ Distributed Cloud ของ OCI จะมอบขีดความสามารถที่เหนือกว่าผู้ให้บริการรายอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม และทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ของระบบคลาวด์สาธารณะโดยตรงจากภายในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง โดยที่ยังคงสามารถบริหารจัดการแบบทางไกลได้ด้วย OCI”
บริการ OCI รูปแบบใหม่มอบความยืดหยุ่นและการควบคุมที่เหนือกว่าให้กับองค์กร
ลูกค้าออราเคิลทั่วโลกในหลายอุตสาหกรรมทั้งบริการทางการเงิน บริการสาธารณะ เฮลธ์แคร์ และการขนส่งสินค้า ต่างเลือกใช้ OCI เพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนการทำงานเป็นระบบคลาวด์โดยไม่ต้องลดทอนคุณภาพทั้งในด้านขนาดการใช้งาน อธิปไตยข้อมูล ความมั่นคงปลอดภัย และการควบคุมที่เคยมีในอดีต โดยบริการใหม่ของ OCI มีดังนี้
- OCI Dedicated Region ใช้ Entry Point น้อยลง: OCI Dedicated Region รูปแบบใหม่ใช้พื้นที่และพลังงานของศูนย์ข้อมูลน้อยลงเฉลี่ย 60-70% ด้วยราคาเริ่มต้นใช้งานที่ต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัดที่ประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ต่อปีสำหรับลูกค้าทั่วไป วันนี้ ลูกค้าจำนวนมากขึ้นจะได้สัมผัสกับความคล่องตัว ความคุ้มค่า และประโยชน์ของการใช้งานปริมาณสูงจากคลาวด์สาธารณะได้จากภายในศูนย์ข้อมูลของตนเอง โดย OCI Dedicated Region จะมอบพื้นที่เก็บข้อมูลคลาวด์ (Region) ที่สมบูรณ์ภายในศูนย์ข้อมูลของลูกค้า รวมถึงประโยชน์จากคุณสมบัติคลาวด์สาธารณะของ OCI ด้วย ลูกค้าทั้งเชิงพาณิชย์และภาครัฐต่างเลือกใช้ OCI Dedicated Region เป็นที่จัดเก็บ ตลอดจนใช้งานแอปพลิเคชันและข้อมูลที่ต้องมีมาตรฐานระบบสอดคล้องตามข้อกำหนดเรื่องถิ่นที่อยู่ของข้อมูล การควบคุม และความมั่นคงปลอดภัยที่เข้มงวด หรือต้องการตำแหน่งพื้นที่ใช้งานเดิมเพื่อการเชื่อมต่อที่มีความหน่วงสัญญาณต่ำและการประมวลผลข้อมูลที่เข้มข้น นอกจากนี้ Dedicated Regions ยังสามารถขยาย (เหมือนพื้นที่เก็บข้อมูลคลาวด์สาธารณะของออราเคิล) ในรูปแบบสถาปัตยกรรมไฮบริดด้วยการใช้ Roving Edge Infrastructure
- OCI Compute Cloud@Customer preview: วันนี้ เรากำลังทำการตรวจสอบผล OCI Compute Cloud@Customer ซึ่งเป็นโซลูชั่นแบบข้ามแพลตฟอร์มสำหรับสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีขนาดเล็กกว่า OCI Dedicated Region โดย Compute Cloud@Customer จะช่วยให้องค์กรสามารถใช้งานแอปพลิเคชันบนหน่วยประมวลผล พื้นที่จัดเก็บ และเครือข่ายที่ใช้ร่วมกับ OCI ได้ภายในศูนย์ข้อมูลของตนเอง จึงสามารถบริหารจัดการได้อย่างสมบูรณเสมือนเป็นบริการหนึ่งของ OCI Region และยังสามารถใช้ระบบการทำงานที่คุ้มค่าของ OCI ในการปรับรูปแบบการดำเนินงานให้เป็นแบบเดียวกันเพื่อช่วยลดต้นทุน ด้วยการใช้ OCI Dedicated Region , Exadata Cloud@Customer, และ Compute Cloud@Customer ทำให้องค์กรสามารถใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เดิมของศูนย์ข้อมูลของตนเองร่วมกับ OCI Regions สำหรับนักพัฒนาแอปและผู้จัดการฝ่ายไอทีก็จะสามารถใช้ APIs และเครื่องมือการบริหารจัดการเดิมเพื่อมอบประสบการณ์ผู้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะให้บริการจากที่ใดก็ตาม องค์กรยังสามารถพัฒนา ใช้งาน เสริมสร้างความมั่นคง และบริหารจัดการชุดซอฟต์แวร์เดิมได้ในสภาพแวดล้อมของ Distributed Cloud ที่ครอบคลุมมากกว่า
“ลูกค้าต่างบอกว่าพวกเขาต้องการคลาวด์ที่ต้องมีความรัดกุมในเรื่องความเป็นส่วนตัว ความมั่นคงปลอดภัย ถิ่นที่อยู่ของข้อมูล และอธิปไตยข้อมูล โซลูชั่นในปัจจุบันยังตอบสนองความต้องการได้เพียงบางข้อเท่านั้น เช่น มอบขีดความสามารถคลาวด์ที่จำกัดหรือให้พื้นที่ใช้งานคลาวด์สาธารณะได้เพียงเล็กน้อย” เคลย์ มากัวเยิร์ก รองประธานกรรมการบริหาร Oracle Cloud Infrastructure กล่าว “การใช้ Distributed Cloud ของออราเคิลช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทั้งหมด ด้วยโมเดลการพัฒนาที่หลากหลายนับตั้งแต่คลาวด์สาธารณะไปจนถึงคลาวด์ในสถานที่ปฏิบัติงานเต็มรูปแบบ”
นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย กล่าวว่า “ออราเคิลไม่เคยหยุดยั้งการพัฒนาโซลูชั่นด้านไอทีเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และระบบคลาวด์คือเทคโนโลยีพลิกเกมแห่งยุคที่แท้จริง การนำเสนอ OCI Dedicated Region คืออีกหนึ่งการพัฒนาครั้งสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าออราเคิลที่มีศูนย์ข้อมูลระดับวิสาหกิจ ซึ่งแต่เดิมมีการใช้งานที่จำกัด ให้สามารถใช้ประโยชน์จากฟังก์ชั่นที่มีอยู่ในคลาวด์สาธารณะได้อย่างเต็มที่ พร้อมกับการรักษาระดับการควบคุมและการบริหารจัดการข้อมูลได้โดยสมบูรณ์ ในยุคที่มีการลงทุนด้านระบบคลาวด์เพิ่มสูงขึ้นในเมืองไทย นับเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องนำเสนอบริการคลาวด์ที่ทำงานได้เต็มรูปแบบให้แก่ลูกค้าในประเทศ ซึ่งตอบสนองความต้องการทั้งการใช้งานในสถานที่ปฏิบัติงาน ใช้ผ่านคลาวด์สาธารณะ หรือใช้งานผสมกันทั้งสองแบบ โดยยังคงมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมไม่แตกต่างกันในทุกรูปแบบการใช้งาน”
กลยุทธ์ OCI’s Distributed Cloud นำเสนอบริการต่าง ๆ ที่ลูกค้าจำเป็นได้ทันที
OCI Region มีการดำเนินงานในรูปแบบคลาวด์เชิงพาณิชย์และคลาวด์ของรัฐบาลใน 38 เขต ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับคลาวด์อื่น ๆ ที่มีโครงสร้างแตกต่างกัน หรือใช้เป็นส่วนควบคุมของการทำงานคลาวด์แบบไฮบริด โดย OCI Region ยังสามารถถูกพัฒนาขึ้นในรูปแบบคลาวด์สำหรับผู้เช่ารายเดียวที่ทำซ้ำได้ภายในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง ตัวเลือกการใช้งาน OCI นั้นมีทั้งแบบรวมบริการมากกว่า 100 รายการหรือเลือกใช้งานบางส่วน โดยมีตัวเลือกทั้งหมวดตำแหน่งพื้นที่ใช้งาน ประสิทธิภาพ ความมั่นคงปลอดภัย ความสอดคล้องตามข้อกำหนด และรูปแบบการปฏิบัติงานที่จำเป็น โดยทุกตัวเลือกการใช้งานเหล่านี้จะมี Distributed Cloud ของ OCI รวมอยู่ด้วย
ตัวอย่างลูกค้าองค์กรชั้นนำของออราเคิลในประเทศไทย
ธนาคารไทยพาณิชย์ยกระดับประสิทธิภาพการบริหารข้อมูลด้วย Oracle Exadata Cloud@Customer
ธนาคารไทยพาณิชย์ นับเป็นธนาคารไทยแห่งแรกซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยพระบรมราชานุญาตและดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องกว่า 100 ปี มีบทบาทสำคัญในธุรกิจบริการทางการเงินของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน แต่ธนาคารต้องประสบปัญหาด้านการบริหารจัดการข้อมูล เนื่องจากระบบประมวลผลเดิมไม่สามารถรับมือกับข้อมูลปริมาณมหาศาลในปัจจุบันได้
ในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้มาอย่างยาวนาน ธนาคารฯ จึงเลือกใช้ Exadata Cloud@Customer ของออราเคิล เพื่อย้ายฐานข้อมูลสำคัญไปไว้ในคลาวด์ ทำให้สามารถผสานรูปแบบของฐานข้อมูล Financial Services Analytical Applications ที่ทำงานอยู่บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้เป็นรูปแบบเดียวกันบน Exadata Cloud@Customer การย้ายภาระงานหลักไปยัง Exadata Cloud@Customer ยังช่วยเร่งการประมวลผลแบตช์ของ Oracle Financial Services Analytical Applications ให้เร็วขึ้นถึงขึ้น 5.5 เท่า ช่วยลดเวลาจาก 9 ชั่วโมงเหลือเพียง 1.5 ชั่วโมงเท่านั้น ถือเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการฐานข้อมูลที่เคยกินเวลานาน ซึ่งทำให้ในปัจจุบันธนาคารฯ สามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่สอดคล้องกับความต้องการ ตรงเวลา ถูกต้องแม่นยำ และขับเคลื่อนด้วยข้อมูลให้แก่ผู้บริหารระดับสูงเพื่อการตัดสินใจที่รวดเร็ว
นอกจากนี้ การย้ายภาระงานหลักไปยัง Exadata Cloud@Customer ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชันของธนาคารฯ ทั้ง Payment Hub, SCB Easy, SCB Mobile Banking, OFSAA และบริการระบบดิจิทัลอื่น ๆ และเอื้อให้ธนาคารฯ สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดได้เร็วยิ่งขึ้น