หากใครติดตามความก้าวหน้าของ AWS อยู่แล้ว จะทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าเมื่อ 19 ธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา AWS ได้เปิด “Local Zones ที่กรุงเทพมหานคร” ที่สามารถให้บริการด้วยความหน่วง (Latency) ที่ต่ำระดับหลักหน่วยมิลลิวินาที ซึ่งพร้อมให้ใช้งานได้แล้วในวันนี้
ปัจจุบัน AWS ได้มีให้บริการใน 30 ภูมิภาคและมี 96 Availability Zones (AZs) หากแต่ในหลาย ๆ งานหรือ Workload นั้นจำเป็นต้องใช้ความหน่วง (Latency) ที่น้อยมาก ๆ ซึ่งการใช้งาน AWS ในแบบทั่วไปนั้นอาจไม่ตอบโจทย์ จึงทำให้ AWS มีบริการ “Local Zones” ที่ทำให้มี Latency ที่ต่ำในระดับหลักหน่วยมิลลิวินาที (Single Digit Millisecond) ซึ่งปัจจุบัน AWS มีเปิด Local Zone อยู่ถึง 29 แห่งแล้วทั่วโลก
โดยทาง AWS ได้ออกแบบ AWS Local Zones ให้บริการผู้ใช้งานเพื่อตอบโจทย์ 3 เรื่อง ได้แก่
- Low Latency สำหรับ Workload ใด ๆ ที่ต้องการความหน่วงต่ำ ๆ ในระดับ Single Digit Millisecond
- Redundancy ผ่านเครือข่ายความเร็วสูงระดับ 100 GbE
- Low Data Package Lost ลดการสูญเสียข้อมูลที่ใช้ในการสื่อสารให้ต่ำลงไป
สำหรับ AWS Local Zones ในกรุงเทพมหานครนั้น AWS ได้มีบริการ (Service) ที่พร้อมให้ใช้งานได้แล้วมากมาย อาทิ EC2, EBS, EKS หรือ VPC (ตามภาพด้านล่างในวงกลมสีส้ม) ทั้งนี้ในบริการอื่น ๆ จะมีการขยายเพิ่มเติมต่อไปหากมีการใช้งานมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ Use Case ที่มักจะมีการใช้งาน Local Zones ที่ AWS ได้หยิบยกขึ้นมานั้น มักจะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะด้วยกันได้แก่
- Latency-based Workload ที่จำเป็นต้องใช้งาน Latency ที่ต่ำ ๆ เช่น แพลตฟอร์มเกม มีเดีย สตรีมมิ่ง เป็นต้น
- Location-based Workload ที่มีความจำเป็นในเชิงพื้นที่ เช่น Data Residency ที่ต้องอยู่ภายในประเทศเท่านั้นอันเนื่องจากข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน
ทั้งนี้ ถ้าหากว่าใครยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ใน AWS มาก่อน สามารถเข้าไปเรียนรู้ได้ฟรีที่ AWS Skill Builder หรือ AWS Educate หรือ AWS Academy ซึ่งภายใน AWS Skill Builder นั้นมีคอร์สเรียนมากกว่า 500 คอร์สและมีที่สอนเป็นภาษาไทยอยู่ 62 คอร์สแล้ว โดยจะเป็นการเรียนแบบ On Demand ที่สามารถบริหารจัดการเวลาเรียนได้เองตามที่ต้องการอีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจใช้งานบริการ AWS Local Zones และต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ AWS Thai Blog นี้ได้เลย