โลกดิจิทัลที่ข้อมูลใหม่เกิดขึ้นอย่างมหาศาลทุกวัน การมองหาเครื่องมือระดับองค์กรเพื่อรวบรวมข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในหลากหลายแห่งและวิเคราะห์หาข้อมูลเชิงลึก (Insights) ได้อย่างรวดเร็วนั้น ถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่ต้องพิจารณาปรับใช้ เพื่อทำให้องค์กรสามารถรับรู้สถานการณ์ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ หรือปัญหาที่พบได้ทันกับสิ่งที่เกิดขึ้น
แม้ว่าเครื่องมือดังกล่าวจะมีอยู่ในตลาดมากมาย แต่มีเครื่องมือระดับองค์กรตัวหนึ่งที่ในไทยอาจจะยังไม่ค่อยมีใครพูดถึงกันมากนัก นั่นคือ “SAP Data Intelligence (SAP DI)” โซลูชันด้านการจัดการข้อมูลจาก SAP ซึ่งล่าสุดทาง “Bluebik” สามารถให้บริการและติดตั้งให้กับ “Central Marketing Group (CMG)” ใช้งานได้สำเร็จเป็นที่แรกของประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
บทความนี้จึงเป็นเรื่องราวความสำเร็จที่ คุณตรีปราง อู่นนทกานต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบัญชีและการเงิน แห่ง Central Marketing Group (CMG) และ คุณวรัทย์ ไล้ทอง ผู้อำนวยการสายงาน ERP Advisory แห่ง Bluebik Group ได้มาแบ่งปันประสบการณ์การทำงานและการประยุกต์ใช้เครื่องมือ “SAP DI” ภายใน CMG จนสามารถเชื่อมโยงข้อมูลขนาดใหญ่ที่กระจัดกระจายอยู่ภายในองค์กรแล้วนำมาสร้างเป็น รายงาน และ Dashboard ที่สามารถใช้งานได้จริงสำเร็จ จนสามารถติดตามสถานะยอดขายจากทุกจุดขายกว่า 3,800 จุดได้ทุกวันแล้ว ณ ตอนนี้
คุณตรีปราง อู่นนทกานต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบัญชีและการเงินแห่ง Central Marketing Group (CMG) และคุณวรัทย์ ไล้ทอง ผู้อำนวยการสายงาน ERP Advisory แห่ง Bluebik Group
CMG ผู้นำตลาด “Lifestyle Retail” กับเป้าหมายการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้
“Central Marketing Group (CMG)” บริษัทสัญชาติไทยภายในเครือ “Central Retail (CRC)” เป็นองค์กรแนวหน้าในแวดวงธุรกิจค้าปลีก (Retail) ผู้แทนจัดจำหน่ายและผู้ดำเนินการชั้นนำให้กับแบรนด์ค้าปลีกชั้นนำทั่วโลกกว่า 40 แบรนด์ในประเทศไทยและเวียดนาม โดยแบรนด์สินค้าที่ CMG ดูแลนั้นจะแบ่งออกเป็น 4 หมวดหมู่หลัก ได้แก่ แฟชั่น (Fashion) ความงาม (Beauty) เทคโนโลยี (Technology) และนาฬิกา (Watches) ซึ่งเป็นสินค้าจำพวกเสื้อผ้า รองเท้า ความงาม เครื่องสำอาง กางเกงยีนส์ หรือสินค้าไลฟ์สไตล์ โดยตัวอย่างแบรนด์ดังระดับโลกที่ CMG ดูแลอยู่ในตอนนี้ เช่น Hermès Beauty, Clarins, Polo Ralph Lauren, Calvin Klein, MLB, CASIO, Fitflop, Skechers, Dyson, Garmin เป็นต้น
แม้ว่าทุกวันนี้ CMG จะเป็นผู้นำตลาด Lifestyle Retail ของไทยอยู่แล้ว แต่วิสัยทัศน์ของ CMG นั้นบอกได้ชัดเจนว่าบริษัทได้ให้ความสำคัญกับเรื่อง “ความยั่งยืน (Sustainability) ขององค์กร” เป็นสำคัญ จึงทำให้มีการพิจารณาลงทุนนำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้ภายในองค์กรอย่างต่อเนื่องทุกปี และเพื่อทำให้ CMG สามารถตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่าที่เคยเป็นมาเสมอ
“To be the best sustainable and admire customer centric omnichannel retailer wherever you operate” คุณตรีปราง กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของ CEO แห่ง Central Group ที่ต้องการผลักดันให้องค์กรในเครือและพนักงานพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง “เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ดังกล่าว CMG จึงจัดสรรงบประมาณที่จะลงทุนในเรื่องเทคโนโลยีทุก ๆ ปี และได้ให้ความสำคัญตามลำดับ ทั้งเรื่องเทคโนโลยีและความต้องการด้านความงามและแฟชั่น เราต้องการเอาเทคโนโลยีมาตอบสนองความต้องการลูกค้าและเพื่อความยั่งยืนขององค์กร”
ความท้าทายในการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ภายใน CMG
หนึ่งในปัญหาหลักยอดนิยมของหลาย ๆ องค์กรธุรกิจ นั่นคือการมีข้อมูลอยู่กระจัดกระจายหลายแหล่ง (Multiple Data Sources) ไม่ว่าจะเป็นระบบ ERP ที่ใช้งาน ระบบการขายตามหน้าร้านสาขา รวมไปถึงไฟล์ข้อมูลที่อยู่ตามแต่ละแผนก อีกทั้งยังมีเรื่องความหลากหลายของรูปแบบ (Format) เช่น บางอย่างจัดเก็บลงฐานข้อมูล หรือเก็บบนระบบ SAP บางส่วนเก็บเป็นไฟล์ Excel หรือบางที่จัดเก็บผ่าน Microsoft 365 เป็นต้น
ปัญหาหลักที่กล่าวมาข้างต้นนี้ คือสิ่งที่ CMG เองก็พบเจอเช่นเดียวกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการใช้งานระบบ SAP เป็น ERP หลักขององค์กรและใช้บริหารจัดการข้อมูลจากจุดขายกว่า 3,800 จุด จึงทำให้มีข้อมูลวิ่งเข้าสู่ระบบ SAP เป็นจำนวนมหาศาลในแต่ละวัน ยกตัวอย่างเช่น เฉพาะข้อมูลด้านบัญชีเพียงอย่างเดียวก็มีปริมาณมากถึงระดับ “พันล้านรายการ (Record)” ไปแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยังมีข้อมูลอื่นๆในระบบ SAP อีกเป็นจำนวนมาก รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ภายนอก SAP ที่ใช้ในอีกหลาย Format ด้วย จึงเรียกว่าเป็นไปได้ยากพอสมควรที่จะนำเอาข้อมูลทั้งหมดที่มี มาใช้ประโยชน์เพื่อตอบสนองความเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ วันหรือต่อยอดเพิ่มเติมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“CMG เราพยายามทำระบบ SAP ที่มีอยู่แล้วให้ตอบสนองกับธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องช่องทาง (Channel) หรือเรื่องการขาย (Sales) ซึ่งการมีข้อมูลอยู่มากมายมหาศาลอยู่แล้วนั้น เราจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้อย่างไร และใช้อะไรประมวลผลได้บ้าง” คุณตรีปราง กล่าวถึงไอเดียที่ริเริ่มขึ้นมา
แน่นอนว่าด้วยปริมาณและความซับซ้อนของระบบ SAP ทำให้การนำข้อมูลมาใช้งานและประมวลผลในหลาย ๆ มิติได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก ซึ่งหากผู้ให้บริการไม่มีความรู้ความเข้าใจในระบบ SAP เป็นอย่างดี จะไม่มีทางนำข้อมูลมาใช้งานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน ซึ่ง “Bluebik” ได้พิสูจน์ให้กับทางคุณตรีปรางและทีมงาน CMG เห็นแล้วว่า ฺBluebik มีความเข้าใจในตัวระบบ SAP เป็นอย่างดี ทั้งในแง่กระบวนการทำงาน โครงสร้างฐานข้อมูล ตลอดจนเทคนิควิธีการเชื่อมต่อเพื่ออ่านข้อมูลจำนวนมหาศาล รวมไปถึงโซลูชันที่นำเสนอนั้น ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการและแก้ไข Pain Point ของ CMG ได้จริง
“คนที่ใช้ SAP จะเข้าใจเรามากที่สุด เพราะฐานข้อมูลของ SAP มีความซับซ้อน และเรามีความต้องการเอาข้อมูลมาประมวลผลในหลาย ๆ มิติ ซึ่งเราพิจารณามาหลายเจ้าแล้ว และ Bluebik คือเจ้าที่ทีมงาน CMG ได้ประเมินและเลือกใช้ เพราะความถนัดและความเชี่ยวชาญใน SAP” คุณตรีปราง กล่าวถึงเหตุผลที่เลือกใช้บริการ Bluebik
Bluebik กับแนวทางการแก้ไข Pain Point ของ CMG
“โจทย์แรกได้รับจากทาง CMG คือการดึงข้อมูลปริมาณมหาศาลจากระบบ SAP ไปจัดเก็บไว้บน Cloud Storage แล้วใช้เครื่องมือ Visualization มาอ่านและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำไปแสดงผลในรูปแบบรายงาน หรือ Dashboard ได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำ” คุณวรัทย์ กล่าวถึงโจทย์แรกที่ได้รับจาก CMG
เรียกได้ว่าเป็นความท้าทายมิใช่น้อยของ Bluebik ที่ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าทีมงานและโซลูชันที่จะนำเสนอให้กับทาง CMG นั้นสามารถใช้งานได้จริงกับข้อมูลปริมาณมหาศาลในระบบ SAP โดยเฉพาะข้อมูลด้านการเงินและการบัญชีที่มีขนาดมากกว่า 1 พันล้านรายการ รวมทั้งต้องสามารถจัดการกับข้อมูลหลาย Format ที่กระจัดกระจายอยู่ในแต่ละภาคส่วนของ CMG เพื่อนำไปสร้างเป็นฐานข้อมูลกลางแบบรวมศูนย์บน Cloud Storage ให้ครบถ้วน ก่อนที่จะนำมาแสดงผลในรูปแบบรายงาน หรือ Dashboard
นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาควบคู่กันไปด้วยคือปริมาณข้อมูลใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยปัจจุบันระบบ SAP ของ CMG มีข้อมูลเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยกว่า 1 ล้านรายการต่อวัน
“การที่จะเสนอโซลูชันอะไรก็ตาม เราต้องคำนึงถึงอัตราเติบโตของปริมาณข้อมูลที่ไม่ใช่แค่เฉพาะในวันนี้เท่านั้น แต่ต้องพิจารณาถึงอนาคต ในอีก 10 ปี หรือ 20 ปีข้างหน้าด้วย” คุณวรัทย์ กล่าวเสริม “ทีม Bluebik จึงเห็นตรงกันว่า คงไม่มีเครื่องมือใดที่เหมาะสมในการดึงข้อมูลจาก SAP ไปมากกว่าเครื่องมือของ SAP เอง ดังนั้น Bluebik จึงเสนอโซลูชัน SAP Data Intelligence ในการจัดการข้อมูลให้กับทาง CMG”
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ Bluebik ตัดสินใจทำ เพื่อให้ CMG มั่นใจในสิ่งที่เราจะนำเสนอ คือการทำ “Proof of Concept (POC)” ให้เห็นภาพจริงว่าเครื่องมือ SAP DI นั้นสามารถรองรับความต้องการของ CMG และจัดการข้อมูลที่มีในปัจจุบัน รวมถึงข้อมูลที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตได้ด้วย โดย Bluebik ได้จำลองสถานการณ์ด้วยการเพิ่มปริมาณการเติบโตของข้อมูลขึ้นไปถึง 500% หรือ 5 เท่าของปริมาณข้อมูลในปัจจุบัน ในขั้นตอนการทำ POC ซึ่งผลที่ออกมาได้แสดงให้เห็นว่าทั้งเครื่องมือและวิธีการของ Bluebik นั้นสามารถรองรับการเติบโตของข้อมูลได้ จึงทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจาก CMG ในการเริ่มต้นเส้นทางการปรับใช้เทคโนโลยีภายใน CMG ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
“ทีม Bluebik ฉลาดที่จะนำเสนอและแนะนำโซลูชัน โดยใช้วิธีการพัฒนา Dashboard ตัวต้นแบบ (Prototype) ที่ได้รับโจทย์จาก CMG เพื่อให้เราเห็นก่อนตัดสินใจ ซึ่งทำให้ CMG สามารถเห็นภาพก่อนว่าผลลัพธ์ที่ได้จริง ๆ จะเป็นอย่างไร จุดนี้เป็นจุดสำคัญที่ทำให้ CMG ตัดสินใจเลือก Bluebik” คุณตรีปราง กล่าวเสริม
อะไรคือ SAP Data Intelligence
“SAP Data Intelligence (SAP DI)” เป็นเครื่องมือที่ทาง SAP พัฒนาต่อยอดมาจากเครื่องมือเดิมที่ชื่อ Data Service โดยจุดเด่นของ SAP DI นั้นคือการเป็น Cloud Solution เต็มรูปแบบที่สามารถทำงานร่วมกับระบบ SAP ทั้งแบบ On-Premise และ On-Cloud ได้ โดยตัว SAP DI นั้นนอกจากจะสามารถช่วยให้องค์กรเชื่อมต่อข้อมูลจากระบบ SAP และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ได้อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพแล้ว ยังสามารถช่วยเรื่องการบริหารจัดการและประมวลผลข้อมูลด้วย ทำให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ค้นหา Actionable Insight เพื่อสร้างความได้เปรียบในการทำธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
SAP DI นั้นมีขีดความสามารถมากมายที่สนับสนุนองค์กรในการบริหารจัดการข้อมูลที่มีปริมาณมากและมีความซับซ้อนสูง ทั้งเรื่อง Format ที่หลากหลายและจัดเก็บไว้อย่างกระจัดกระจายยุ่งเหยิง ให้กลายมาเป็นข้อมูลที่มีระเบียบแบบแผน สามารถนำไปต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตัวอย่างฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ SAP DI นั้นมีดังนี้
- Data Integration นอกจากความเป็นเลิศในด้านการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลขนาดมหาศาลและซับซ้อนของระบบ SAP แล้ว SAP DI ยังสามารถเชื่อมโยงข้อมูลได้จากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่หลากหลาย ทั้งข้อมูลที่มีรูปแบบการจัดเก็บอย่างเป็นแบบแผน (Structured Data) หรือไร้แบบแผน (Unstructured Data) โดยสามารถสร้าง Data Pipeline เพื่อแปลง (Transform) ข้อมูลและจัดเก็บเข้า Data Catalog ได้อย่างรวดเร็ว
- Data Management ความสามารถในการบริหารจัดการข้อมูลอย่างครบถ้วน สามารถตรวจสอบ เพิ่ม ลด แก้ไข และจัดการข้อมูลได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะอยู่บน Cloud หรือว่า On-Premises พร้อม Processing Engine ที่สนับสนุนการบริหารข้อมูลอย่างหลากหลาย
- Data Catalog การจัดการ Data Asset ที่ทำให้ข้อมูลกลายเป็นสินทรัพย์ขององค์กรด้วยความสามารถในการจัดกลุ่มข้อมูลได้อย่างเข้าใจ เสมือนเป็น Glossary ข้อมูลขององค์กร
- Data Processing การประมวลผลข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เพื่อทำให้ข้อมูลอยู่ในรูปแบบที่พร้อมใช้งาน
- Data Enrichment เพิ่มความสมบูรณ์และคุณค่าให้กับข้อมูลด้วยกระบวนการปรับปรุง แก้ไข และ ตรวจสอบ รวมถึงการผสานข้อมูลเดิมที่ขาดความสมบูรณ์เข้ากับข้อมูลประกอบอื่น ๆ เพื่อให้ข้อมูลมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
Dashboard ที่ “ง่ายและใช้งานได้จริง” ครั้งแรกของ CMG
Bluebik คือผู้ให้บริการรายแรกที่ทาง SAP Thailand ไว้วางใจให้นำ SAP DI ไปติดตั้งให้กับลูกค้า เพื่อใช้งานในประเทศไทยเป็นครั้งแรก และด้วยความเข้าใจในกระบวนการทำงานของระบบ SAP เป็นอย่างดี ประกอบกับความเชี่ยวชาญทางเทคนิคขั้นสูงของทีมงาน ทำให้ Bluebik สามารถใช้ SAP DI เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่บนระบบ SAP ของ CMG ได้สำเร็จในเวลาไม่นาน จนนำไปสู่การพัฒนาและส่งมอบ Dashboard แรกที่ “ง่ายและใช้งานได้จริง” ภายในระยะเวลาอันสั้น ด้วยเหตุนี้ จึงถือได้ว่า CMG เป็นองค์กรแรกในประเทศไทยที่นำ SAP DI มาใช้งานภายในองค์กรได้สำเร็จ
“ถือเป็น Dashboard แรกที่สร้างขึ้นมาได้ในเวลาสั้นมาก ประทับใจมาก และหลังจากเริ่มเปิดให้ใช้งาน ตอนนี้ User แฮปปี้มาก เพราะว่า Dashboard ดูง่าย เห็นภาพชัด และเอาไปใช้งานได้เลย” คุณตรีปราง กล่าว “Dashboard สามารถ Monitor ใช้จริงได้รายวัน จนบางตัวสามารถติดตามได้ออนไลน์แบบ Real Time เลยด้วยซ้ำ”
ปัจจุบัน Bluebik ได้พัฒนารายงานและ Dashboard ให้ทาง CMG ใช้งานแล้วมากกว่า 30 ตัว ช่วยให้ทีมงาน CMG สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ จุดขายได้อย่างรวดเร็วและสามารถเจาะลึก (Drill Down) ลงไปในรายละเอียดได้อย่างสะดวก พร้อมทั้งสามารถสร้างรายงานการขายรายวัน รายแบรนด์ รายจุดขายได้ทั้งหมด และที่สำคัญยังเป็นครั้งแรกของทั้งกลุ่ม Central Retail ที่สามารถสร้าง Dashboard ขึ้นมาติดตามทุกจุดขายที่ “ง่าย” ได้สำเร็จอีกด้วย
“นี่ไม่ใช่ Dashboard แรกที่เรา Launch ใช้งานกัน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ Dashboard ดูง่ายขึ้น แล้วก็ซูมดูได้ด้วย Layer ของข้อมูลที่มี” คุณตรีปราง กล่าวเน้นย้ำ “หลายปีก่อนเราเคยทำ Dashboard ขึ้นมาแล้ว แต่ดูได้ยากมาก แล้วใช้เวลาในการประมวลผลนาน แต่ตอนนี้เราสามารถทำเป็น Layer ของข้อมูลและนำเสนอเฉพาะสิ่งที่สนใจได้ ซึ่งเราจะทำ Dashboard ให้หลากหลายขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ”
“ภายในกลุ่มเริ่มมีการศึกษา Success Case ที่เกิดขึ้นนี้แล้ว เพื่อขยายผลภายในเครือ Central Retail ต่อไป ซึ่ง Business Unit อื่นก็สนใจ และเริ่มขอให้ Demo ให้ดูแล้วด้วย” คุณตรีปราง กล่าวเสริม
3 เหตุผลหลักที่ CMG เลือกใช้ SAP Data Intelligence โดย Bluebik
เชื่อมโยงระบบ SAP ที่ใช้งานได้อย่างไร้รอยต่อ
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ CMG เลือกใช้ SAP DI ก็คือ SAP DI นั้นเป็นเครื่องมือที่พัฒนาโดย SAP ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่มีใครเข้าใจระบบ SAP ERP ไปมากกว่าเจ้าของ Product ซึ่งก็คือ SAP เองอีกแล้ว ทาง CMG เชื่อว่าหากเป็นเครื่องมือที่พัฒนาโดย SAP เอง ย่อมเข้ากันได้ดีกับระบบ SAP ERP ที่ใช้งานอยู่ ทำให้การเชื่อมโยงข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไร้รอยต่อ (Seamless Integration) ลดความผิดพลาดและขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องลงไปได้อย่างมหาศาล ดังนั้นหากองค์กรใดที่ใช้ระบบ SAP เป็น ERP อยู่ ยิ่งเหมาะสมที่จะใช้งาน SAP DI เป็นอย่างมาก
“การตัดสินใจเลือกใช้ SAP DI เนื่องจาก CMG มี SAP เป็น ERP อยู่แล้ว จึงคิดว่าการทำ Seamless Integration ระหว่างระบบนั้นจะทำให้เอาข้อมูลขึ้นได้โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาตรวจสอบความถูกต้อง หรือต้อง Reconcile ด้วยคนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเสียทั้งเวลาและแรงงานคน” คุณตรีปราง กล่าวเสริมในประเด็นนี้
พร้อมต่อยอดในอีกระดับขั้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากสร้าง Dashboard ที่ใช้งานได้ง่ายสำเร็จ CMG นำโดยคุณตรีปราง ก็เริ่มเตรียมการต่อยอดขยายผลไปในส่วนอื่น ๆ ทันที ซึ่งโจทย์ใหม่ที่จะดำเนินการต่อไปหลังจากนี้จะเป็นการยกระดับการทำงานด้านการเงิน เพื่อทำให้บางกระบวนการทำงานที่ “ทำซ้ำ” มาอย่างต่อเนื่องทุกปีนั้น ย่นระยะเวลาในการทำงานลงด้วยการใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) และทำให้พนักงานบัญชีบางส่วนมีเวลาในการทำสิ่งที่ท้าทายมากกว่าเดิมได้ อีกทั้งยังลดความผิดพลาดและส่งผลดีให้กับเรื่องความยั่งยืนขององค์กรในอีกทางหนึ่ง
“พอมีถังข้อมูลที่มีประโยชน์พร้อมใช้แล้ว การนำข้อมูลมาออกเป็น Dashboard เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น” คุณวรัทย์ กล่าว
“เราเชื่อว่ารากฐาน (Foundation) ของข้อมูลที่ถูกต้อง จะนำมาสู่การวิเคราะห์ที่แม่นยำและใช้งานได้จริง ซึ่งตรงนั้นจะขึ้นอยู่กับฝีมือของทีมงานว่าจะเอาข้อมูลมาประมวลได้เร็วและแม่นยำแค่ไหน” คุณตรีปราง เผย “เรามองว่างานบางอย่างที่ทำซ้ำเกิน 3 ปี มันไม่ใช่แล้ว และเราเชื่อว่าการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับใช้ในงานทางบัญชีเป็นเรื่องที่ไม่ยากและควรจะทำกันมานานแล้ว”
การสนับสนุน CMG อย่างยืดหยุ่นของ Bluebik
ความยืดหยุ่น (Flexible) ของทีมงาน Bluebik และความใส่ใจในรายละเอียดความต้องการของ CMG คือส่วนสำคัญอย่างมากในการทำให้มี Dashboard ที่ใช้งานได้จริง เพราะถ้าหาก Dashboard ที่สร้างขึ้นมานั้นไม่ตอบโจทย์การใช้งาน ไม่ว่าจะเรื่องความเร็ว ความถูกต้อง หรือความสะดวกสบายในการวิเคราะห์เชิงลึก ก็คงจะไม่เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง
“เราเป็นนักพัฒนาระบบ (Developer) เวลาเขียนโปรแกรมยังมีบั๊ก (Bug) เลย ดังนั้นผู้ใช้งานก็เช่นกัน เวลาให้ความต้องการ (Requirement) ก็มีโอกาสที่ Requirement จะตกหล่นไปบ้าง มีหลายกรณีที่ซับซ้อนมากจนไม่มีทางจะพบความตกหล่นถ้าไม่ได้ทดสอบกับข้อมูลจริง เรื่องนี้เราเข้าใจผู้ใช้งานและยินดีที่จะปรับแก้เพิ่มเติมให้ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด” คุณวรัทย์ กล่าว
“ความ Flexible ที่ Bluebik ออกแบบ Dashboard มาให้นั้นช่วย CMG ได้เยอะ” คุณตรีปราง กล่าวเสริม “ไม่ได้หมายความว่าเราให้สเปคคุณแค่นี้ แล้วจบแค่นี้ บางทีเรามีมิติอื่นที่อยากให้คุณดู ช่วยเพิ่มเติมให้หน่อยได้ไหม ซึ่ง Bluebik เติมให้เราได้ จึงทำให้ Bluebik กลายเป็นเหมือนพาร์ตเนอร์ที่ดี เพราะเขาเติมให้เราตรงนี้ได้”
สนใจใช้งาน SAP DI ติดต่อ Bluebik ได้ทันที
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวความสำเร็จ ประสบการณ์ และการปรับใช้เครื่องมือ SAP Data Intelligence ของทาง CMG และ Bluebik ที่สามารถจัดการกับข้อมูลปริมาณมหาศาลที่มีความซับซ้อนสูงได้ จนสามารถนำไปสร้าง รายงานและ Dashboard ที่ดูง่ายและใช้งานได้จริงสำเร็จเป็นครั้งแรกของกลุ่ม Central Retail และถือเป็นองค์กรแรกในประเทศไทย ที่ใช้งานเครื่องมือ SAP Data Intelligence สำเร็จอีกด้วย
แต่สิ่งนี้ยังถือเป็นแค่การเริ่มต้นของเส้นทางในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ CMG มีเพียงเท่านั้น ซึ่งการต่อยอดของ CMG ในอนาคตที่จะใช้ AI เพื่อลดการทำงานซ้ำ ช่วยประหยัดเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพนั้น เชื่อว่าคงจะได้เห็นผลลัพธ์ที่จะยกระดับองค์กร CMG ไปอีกขั้นในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งทาง CMG และ Bluebik คงจะได้มาบอกเล่าถึงความสำเร็จในโอกาสถัดไป
หากองค์กรสนใจอยากจะนำข้อมูลที่มีอยู่ภายในองค์กรไปต่อยอดในทำนองเดียวกันนี้ ไม่ว่าข้อมูลจะมีปริมาณมหาศาลเพียงใด กระจัดกระจายแค่ไหน หลาย Format หรือ Business Process ซับซ้อนอย่างไร เชื่อว่าทีมงาน Bluebik จะสามารถสนับสนุนความต้องการ พร้อมเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ให้กับองค์กรท่านได้อย่างแน่นอน โดยสามารถติดต่อ Bluebik ได้ผ่านทางอีเมล [email protected] หรือโทร 0-2636-7011 รวมทั้งสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับ SAP Data Intelligence เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://bluebik.com/th/insights/6876