วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยกับ Apple Vision Pro ซึ่งหลาย ๆ ท่านคงได้รับชมรีวิวการใช้งานอุปกรณ์กันไปบ้างแล้ว
ล่าสุด Nikkei Asia ร่วมกับ Fomalhaut Techno Solutions บริษัทวิจัยจากญี่ปุ่น ได้ถอดชิ้นส่วนประกอบ สำรวจอุปกรณ์แต่ละชิ้นว่า เบื้องหลังของแว่น Vision Pro รุ่นนี้ทำมาจากอะไรและมีเทคโนโลยีอะไรอยู่เบื้องหลังบ้าง
จากการตรวจสอบอุปกรณ์พบว่า เบื้องหลังของแว่น Apple Vision Pro ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนราว 300 ชิ้น โดยชิ้นส่วน 42% ของ Vision Pro มาจากซัพพลายเออร์บริษัทญี่ปุ่น อย่างเช่น หน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงและเซนเซอร์จาก Sony Group หรืออุปกรณ์หน่วยความจำจาก Kioxia
ถ้าเทียบกับชิ้นส่วนจากการผลิต iPhone15 Pro Max แล้ว ถือว่ารอบนี้ Apple ใช้ชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นมากที่สุด รองลงมาคือ เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน อเมริกา และแหล่งอื่น ๆ
ในขณะที่การผลิต iPhone15 Pro Max นั้น Apple เลือกใช้อุปกรณ์ชิ้นส่วนในอเมริกามากที่สุด แต่ใช้ชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นเพียง 10% เท่านั้น

ด้วยเทคโนโลยีเบื้องหลังเน้นไปที่การสร้างโลก 3 มิติ เหตุผลหลักที่ Apple เลือกใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์จากญี่ปุ่นเป็นเพราะบริษัทญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยีออปติกส์ มีจุดแข็งเรื่องกล้องและเลนส์ โดดเด่นกว่าผู้ผลิตจากประเทศอื่น
ทีนี้ลองมาดูชิ้นส่วนของ Vision Pro แต่ละส่วนกัน
EyeSight Display
หน้าจอ OLED แสดงตาของผู้ใช้แบบ 3 มิติ ทำให้คู่สนทนายังคงมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานได้แม้สวมแว่นอยู่ ประเมินราคาอยู่ที่ 120 ดอลลาร์




เซนเซอร์และกล้อง
ส่วนหน้าของอุปกรณ์ประกอบไปด้วยกล้องและเซนเซอร์จำนวนมากที่คอยบันทึกภาพบริเวณรอบ ๆ ซึ่งมีทั้งกล้อง 3 มิติ ที่วัดความลึก เซนเซอร์ตรงกลางที่วัดระยะและโฟกัส อีกทั้งยังมีกล้องอีก 6 ตัว ที่ให้มุมมองแบบ 360 พร้อมตรวจจับการเคลื่อนไหวของมือด้วย
กล้องและเซนเซอร์ที่ใส่มาในชุดอุปกรณ์ Vision Pro ก็เป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ใน iPhone X, 11 และ 12 ซึ่งจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ Apple คือ การประมวลผลจากหลาย ๆ กล้องและเซนเซอร์ได้แบบเรียลไทม์ ราบรื่น และไม่ดีเลย์


แผงวงจรหลัก
เมื่อแกะเครื่องไปถึงแผงวงจร ก็จะพบกับเซมิคอนดักเตอร์ 2 ตัว ที่ Apple เป็นผู้ออกแบบเอง
- ชิป M2 รุ่นเดียวกับที่ใช้ใน MacBook และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Apple สำหรับใช้รันซอฟต์แวร์และประมวลผลต่าง ๆ
- ชิป R1 ออกแบบมาเฉพาะ Vision Pro สำหรับแสดงภาพสมจริง
ส่วนอื่น ๆ ประกอบด้วยหน่วยความจำเก็บข้อมูล NAND จาก Kioxia ประเทศญี่ปุ่น และ DRAM จาก SK Hynix ประเทศเกาหลีใต้




กลไกเลนส์แว่น
ภายในตัวแว่นจะมีกลไกแกนนอนที่ปรับระยะห่างระหว่างคู่สายตา เพราะใบหน้าของผู้ใช้แต่ละคนมีระยะห่างของตาซ้ายกับตาขวาแตกต่างกันไป กลไกส่วนนี้เองที่จะปรับเลนส์ภายในตามใบหน้าของแต่ละผู้ใช้งาน อีกทั้งยังมีกลไกจับการเคลื่อนไหวของลูกตาเพื่อจับโฟกัสว่าเรากำลังมองไปที่จุดไหนและทำให้ภาพส่วนนั้นชัดเจนขึ้น



หน้าจอแสดงภาพในแว่น
ภายในเลนส์แว่นแต่ละข้างจะมีหน้าจอแสดงภาพความละเอียดสูง OLED ของ Sony ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่มอบประสบการณ์การใช้งานแว่น Vision Pro ระดับคุณภาพ เปล่งแสงได้ขนาด 11.5 ล้านพิกเซล ในขนาดหน้าจอเพียง 3 ซม. เท่านั้น สำหรับหน้าจอแสดงผลทั้ง 2 ข้าง ประเมินราคาอยู่ที่ 460 ดอลลาร์

เมื่อเทียบกับกล้อง VR จากค่ายอื่นอย่างรุ่น Quest 3 ของ Meta และ PlayStation VR2 แล้ว ความคมชัดของ Vision Pro ถือว่ากินขาด ภาพที่เห็นผ่านแว่น Vision Pro มีความคมชัดระดับ 2900 พิกเซลต่อนิ้ว ซึ่งก็ชัดกว่าหน้าจอ LCD ของ Quest 3 ถึง 2.6 เท่า

ภายในยังมีเทคโนโลยีติดตามการเคลื่อนไหวของลูกตา รูม่านตา เซนเซอร์อื่น ๆ เช่น Accelerometer และ Gyroscope ที่ดูการเคลื่อนไหวของใบหน้าด้วย
พัดลมระบายความร้อน
แน่นอนว่า หากใช้งานอุปกรณ์อยู่ อาจจะเกิดความร้อนภายในจากการประมวลผลของอุปกรณ์ใกล้ตัวแผงวงจร Apple จึงใส่พัดลมระบายความร้อนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 ซม. 2 ตัว เข้ามา พัฒนาโดย Nidec ซึ่งโดยปกติเราจะไม่ค่อยเห็นโลโก้ของซัพพลายเออร์บนผลิตภัณฑ์ของ Apple เท่าใดนัก



ไมค์และลำโพง
ในแว่น Vision Pro มีการติดตั้งลำโพงไว้ข้างหูแต่ละข้าง พร้อมกับไมค์ที่ช่วงล่างของแว่นใกล้ตาแต่ละข้าง พร้อมกับฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน เช่น เสียงพัดลมระบายอากาศหมุน

แบตเตอรี
แบตเตอรีภายนอกมีความทนทานสูง ตัวเคสทำมาจากอลูมิเนียม มีแบตเตอรีขนาด 5 x 10 ซม. 3 ชิ้น ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นแบตเตอรีประเภทเดียวกับที่ใช้บน iPhone ด้วยน้ำหนัก 350 กรัม แต่แบตก็ลดฮวบเร็วและใช้งานได้เพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น

หากประเมินราคาชิ้นส่วนหลักของ Vision Pro แล้ว สนนราคาอยู่ที่ 1,200 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของราคาจำหน่ายที่ 3,499 ดอลลาร์
รับชม Infographics แกะชิ้นส่วน Apple Vision Pro แบบเห็นภาพชัด ๆ ทีละขั้นตอนได้ที่นี่