ผสาน Automation และ Intelligence เข้าไปยังความสามารถของงานด้านการผลิต โดย Infor

0

การนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้งานในธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และแต่ละอุตสาหกรรมก็มีความท้าทายเฉพาะตัวที่ต้องเผชิญหน้า ในอุตสาหกรรมการผลิตเองก็เช่นกันที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ความต้องการของลูกค้า Supply Chain และอื่นๆ 

ในเซสชัน “ผสาน Automation และ Intelligence เข้าไปยังความสามารถของงานด้านการผลิต” ในงาน TechTalkThai Virtual Summit 2024 – Enterprise AI & Tech คุณปราโมทย์ สุขศรี Solution Consultant จาก Infor ได้มาเล่าถึงประเด็นนี้อย่างเจาะลึกและแนะนำแนวทางการนำเทคโนโลยี Automation และ AI เข้ามาใช้ในธุรกิจให้เกิดประโยชน์อย่างรวดเร็ว

ในการดำเนินการ Digital Transformation นั้น แต่ละอุตสาหกรรมต่างก็มีปัญหาและความท้าทายที่เผชิญหน้าอย่างแตกต่าง ธุรกิจในอุตสาหกรรมการผลิตในปัจจุบันต้องเผชิญหน้ากับความผันผวน ความไม่แน่นอน ความซับซ้อนของปัญหา และความไม่ชัดเจนที่เกิดขึ้นจากปัจจัยหลายประการ ดังนี้ 

  1. ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป พวกเขาคาดหวังประสบการณ์ในการรับบริการที่ดีขึ้น ทั้งด้านบริการหลังการขาย สินค้าและบริการที่ Personalized กับความต้องการ และความต้องการสินค้าและบริการใหม่ๆตลอดเวลา
  2. Smart Factory – การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานให้เกิดประโยชน์จริง เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการ ลดความเสี่ยงและรับมือกับความไม่แน่นอน
  3. ความยืดหยุ่นของ Supply Chain โดยเป็นประเด็นที่ธุรกิจในภาคการผลิตให้ความสำคัญมากที่สุด ทำอย่างไรจึงจะจัดการ Supply Chain ได้อย่างยืดหยุ่น แก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วเพื่อการดำเนินการที่ไม่สะดุด
  4. ความต้องการบุคลากรที่มีความสามารถในองค์กร ด้วยภาวะตลาดแรงงานด้านการผลิตในปัจจุบันทำให้หลายองค์กรขาดแคลนบุคลากร ส่งผลให้ธุรกิจต้องมองหาเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพทดแทน และสร้างประสบการณ์การทำงานที่ดี พร้อมด้วยเครื่องมือต่างๆ เพื่อดึงดูดให้บุคลากรที่มีความสามารถร่วมงานกับองค์กรต่อไป
  5. ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นที่ทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อลูกค้าและนักลงทุนคำนึงถึงปัจจัยด้านความยั่งยืนมากขึ้น รวมไปถึงการกำกับดูแลของภาครัฐที่ให้น้ำหนักในด้านดังกล่าวมากขึ้น

หลายองค์กรทราบดีถึงความท้าทายเหล่านี้และต้องการที่จะปรับองค์กรให้ดีขึ้น ทว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ง่ายนักด้วยธรรมชาติของธุรกิจการผลิตที่มักจะมีระบบซับซ้อนมากมายยากต่อการอัพเกรด โดยหลายระบบนั้นไม่รองรับการขยายขนาดหรือต่อยอดร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ อีกทั้งการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้นั้นก็ไม่แน่นอนว่าจะประสบผลสำเร็จ ต้องใช้เวลานาน ลงทุนสูง และเทคโนโลยีที่พร้อมใช้งานในตลาดไม่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจการผลิตได้อย่างเต็มที่ 

Infor ให้คำนิยามตัวเองว่าเป็น “Industry Cloud Company” ซึ่งหมายถึงผู้ให้บริการคลาวด์ที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมเฉพาะกลุ่มได้อย่างครอบคลุม โดยมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในอุตสาหกรรมการผลิต ดังที่ได้เห็นจากเสียงโหวตของธุรกิจที่ใช้งานจริงในการสำรวจการใช้งาน Cloud ERP ด้าน Discrete Manufacturing ของ Gartner ซึ่ง Infor ได้รับคะแนนเป็นอันดับ 1 

โซลูชันของ Infor นั้นถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานจริงในอุตสาหกรรม โดยผนวกความรู้และประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมการผลิตมาอย่างยาวนานและเทคโนโลยีสมัยใหม่ขึ้นเพื่อสร้างเครื่องมือที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจการผลิต อีกทั้งในขั้นตอนการออกแบบยังคำนึงถึงปัจจัยความเสี่ยงและความท้าทายที่ธุรกิจการผลิตต้องเผชิญหน้าอยู่ทุกวัน รวมไปถึงการปูทางเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต 

โซลูชันที่ Infor ให้บริการนั้นแบ่งออกเป็น 3 เลเยอร์ ได้แก่

  • Multi-tenant Cloud Infrastructure – โครงสร้างพื้นฐานของระบบที่ตั้งอยู่บนคลาวด์ รองรับการใช้งานร่วมกับผู้ให้บริการคลาวด์ทั่วโลก และการใช้งานแบบ Multi-cloud เพื่อความยืดหยุ่น เช่นนี้ทำให้โซลูชันของ Infor มีการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา รองรับการสเกลระบบและการเชื่อมต่อข้ามคลาวด์ และสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์และนวัตกรรมที่พัฒนาต่อเนื่องได้อย่างเต็มที่
  • Digital Business Platform – แพลตฟอร์มสำหรับระบบงานธุรกิจที่คอยเป็นเบื้องหลังของแอปพลิเคชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการและจัดเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล ระบบ Automation และ AI การรักษาความปลอดภัย การควบคุมการใช้งาน หรือการรองรับแอปพลิเคชันและเทคโนโลยีอื่นๆที่ธุรกิจต้องการนำเข้ามาใช้ ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในแพลตฟอร์มธุรกิจ Infor OS
  • Industry-specific Application – แอปพลิเคชันต่างๆที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานในธุรกิจซึ่งรวมมาอยู่ในระบบ ERP ที่ตอบโจทย์ครบครัน เป็นมิตรกับผู้ใช้ และรองรับการใช้กับ Edge Computing ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่อุตสาหกรรมการผลิตมักจะต้องการใช้งาน

Infor นั้นมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับอุตสาหกรรมแต่ละชนิด ด้วยประสบการณ์และองค์ความรู้ที่สะสมมาอย่างยาวนาน โดยได้พัฒนาโซลูชันที่แยกย่อยออกไปตามธุรกิจการแต่ละประเภท ตั้งแต่ อุตสาหกรรมการบินและการกลาโหม ยานยนต์ การขนส่ง อาหารและเครื่องดื่ม การผลิต ตลอดไปจนถึงเครื่องนุ่งห่ม นอกจากนี้ Infor ยังได้มีการเจาะลึกไปยังสาขาย่อยต่างๆของอุตสาหกรรมมากกว่า 2,000 ประเภท โดยทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกัน คือการให้บริการโซลูชันที่เข้าใจถึงการดำเนินการและช่วยแก้ปัญหาในแต่ละอุตสาหกรรมได้อย่างแท้จริง 

โซลูชันของ Infor ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ ครอบคลุมทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ ได้แก่

  • ผลิตภัณฑ์และวิศวกรรม
  • งานซ่อมบำรุง
  • งานบริการ
  • การจัดการประสิทธิภาพ
  • การเงินและการลงทุน
  • การผลิต
  • การควบคุมคุณภาพ
  • การวางแผน
  • Supply Chain
  • การจัดการโครงการ และ
  • งานขาย

แอปพลิเคชันเหล่านี้ที่ทำงานอยู่บนแพลตฟอร์มธุรกิจ Infor OS ซึ่งวางระบบในการจัดการด้านต่างๆที่จำเป็นสำหรับองค์กร และเป็นรากฐานให้กับเทคโนโลยี Automation และ AI เข้ามาใช้ในขั้นตอนการทำงาน โดยนอกจากนี้ Infor ได้พาร์ทเนอร์กับ AWS ในการให้บริการระบบ ทำให้ธุรกิจมั่นใจได้ถึงความเสถียร ปลอดภัย และประสิทธิภาพของการใช้งาน

Infor Enterprise Automation เป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนการทำงานขององค์กรให้อยู่ในรูปแบบ Hyperautomation กล่าวคือเป็นระบบอัตโนมัติที่ทำงานได้โดยมีมนุษย์เป็นผู้ควบคุมน้อยที่สุด ดังนั้นเทคโนโลยี Automation จึงหยั่งรากลึกไปในขั้นตอนการทำงานที่หลากหลาย เกิดเป็นการทำงานรูปแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้สมาชิกในองค์กรใช้เวลากับขั้นตอนอื่นๆที่สร้างคุณค่ามากกว่าเดิม

Enterprise Automation นั้นแทรกตัวอยู่ในระบบต่างๆในโซลูชันของ Infor แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่

  • Decision Automation – การใช้ AI และ Machine Learning เข้ามาช่วยตัดสินใจในเรื่องต่างๆโดยอัตโนมัติ
  • RPA & IDP – การนำ Robotic Process Automation (RPA) และ Intelligent Document Processing (IDP) มาช่วยในขั้นตอนงาน ลดภาระการทำงานที่ซ้ำซากน่าเบื่อ อีกทั้งยังช่วยให้ดำขั้นตอนทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ลดข้อผิดพลาดในการทำงาน
  • Backend Automation – กลไกเบื้องหลังต่างๆก็มีระบบ Automation อยู่เช่นกัน ทำให้การใช้งานและการเชื่อมต่อกับระบบหรือแอปอื่นๆเป็นไปได้อย่างรวดเร็วไม่มีสะดุด

แน่นอนว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีที่ละเลยไม่ได้เลยคือ AI ซึ่งแพลตฟอร์มของ Infor นั้นก็เปิดกว้างให้ธุรกิจนำ AI เข้ามาใช้งานได้อย่างหลากหลาย เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลในระบบเพื่อทำนายราคาวัตถุดิบ ช่วยในการตัดสินใจเลือก Supplier การทำ Predictive Maintainance เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการตรวจสอบคุณภาพสินค้า เป็นต้น 

นอกจากนี้ Infor ยังมีตัวช่วยที่จะทำให้การใช้งาน AI ในธุรกิจเป็นเรื่องง่ายขึ้น ตั้งแต่ AI Library ที่มีโซลูชันพร้อมใช้งานให้เลือกใช้ เครื่องมือสร้างโมเดล AI แบบ Low-code และระบบจัดการขั้นตอนการนำ AI เข้ามาใช้งาน ช่วยให้นำ AI เข้ามาใช้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว

COMBILIFT เป็นผู้ผลิตรถโฟล์คลิฟท์รายใหญ่ของโลกจากประเทศไอร์แลนด์ที่มีการใช้งานโซลูชันของ Infor CloudSuite Industrial มาอย่างยาวนาน และเมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาได้ต่อยอดเทคโนโลยีโดยการนำ AI เข้ามาใช้มากขึ้น รวมไปถึงเสริมความแข็งแกร่งในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจในด้านต่างๆ

  • ใช้ AI ช่วยสร้างเอกสารสั่งซื้อชิ้นส่วนของรถโฟล์คลิฟท์ให้ตรงตามชิ้นส่วนที่ลูกค้าต้องใช้ในการซ่อมบำรุง เนื่องจากรถแต่ละคันนั้นมีการปรับแต่งที่หลากหลาย และมีรถโฟล์คลิฟท์กว่า 60,000 แบบที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ทำให้การซ่อมบำรุงแต่ละครั้งพนักงานต้องคอยตรวจสอบว่าชิ้นส่วนใดต้องใช้บาง ซึ่งการทำเช่นนี้นั้นต้องอาศัยทั้งเวลาและความรู้เกี่ยวกับชิ้นส่วนเชิงลึก การเข้ามาของ AI จะช่วยสรุปว่าชิ้นส่วนใดที่ต้องจัดหาบ้าง จึงช่วยให้รับงานซ่อมบำรุงได้มากขึ้นและทำงานบริการลูกค้าได้เร็วขึ้น 30%
  • เมื่อมีการสรุปชิ้นส่วนได้อย่างแม่นยำ ลูกค้าก็ไม่ต้องไปหาซื้อชิ้นส่วนจากภายนอกด้วยตัวเอง COMBILIFT สั่งซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 30% จากงานนี้ และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการให้บริการ 40% ด้วย
  • เก็บข้อมูลการทำงานตาม KPI ที่ตั้งไว้ จากเดิมที่ใช้เอกสาร Spreadsheet และการเก็บข้อมูลแบบ Manual ในปัจจุบัน COMBILIFT สามารถเช็ค KPI ได้ตลอดเวลาผ่านหน้าเว็บไซต์ อัพเดทแบบเรียลไทม์ทุก 15 นาที ซึ่งลดเวลาที่ในการรวบรวมข้อมูล 75 นาที และลดภาระของผู้จัดการในการลงไปตรวจสอบหน้างาน 30 นาทีต่อวัน
  • ขั้นตอนทั้งหมดในการติดตั้ง AI เข้ามาใช้นั้นใช้เวลาดำเนินการเพียง 1-2 เดือน จึงเกิดประโยชน์แก่องค์กรอย่างรวดเร็ว

จะเห็นได้ว่าโซลูชันของ Infor นั้นนอกจากจะช่วยให้ธุรกิจมีระบบพื้นฐานที่ดีในการทำงานแล้ว การต่อยอดนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ก็ทำได้โดยสะดวก ใช้เวลาไม่นาน เห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว

จนมาถึงตอนนี้คงจะได้ทราบกันแล้วว่าโซลูชันจาก Infor นั้นมีความโดดเด่นในการออกแบบที่มาจากความรู้และประสบการณ์ในอุตสาหกรรมจริงๆ ทำให้สามารถช่วยธุรกิจได้อย่างตรงจุดและเข้าใจความท้าทายในอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี โดยแพลตฟอร์มของ Infor นั้นมีแนวทางในการติดตั้ง ใช้งาน และต่อยอดที่มุ่งเน้นลดความเสี่ยงให้กับอุตสาหกรรม เกิดประโยชน์อย่างรวดเร็ว และรองรับการนำเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่เข้ามาใช้งานอยู่เรื่อยๆ

หากท่านใดสนใจพูดคุยกับทีมงาน Infor เพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่คุณ Wanichaya Dunllayakup, Business Development Representative จาก Infor ได้ที่อีเมล [email protected] หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.infor.com/th-th

รับชมเซสชัน “ผสาน Automation และ Intelligence เข้าไปยังความสามารถของงานด้านการผลิต” โดยคุณปราโมทย์ สุขศรี Solution Consultant จาก Infor ในงาน TTT Virtual Summit: Enterprise AI & Tech 2024 ได้ที่นี่