ตลาดสินค้ามูลค่าสูงอย่างไวน์นั้นก็เริ่มมีการนำ Blockchain ไปใช้เพิ่มมูลค่า ด้วยการทำให้ลูกค้ามั่นใจในความเป็นไวน์ของแท้มากขึ้น พร้อมมีข้อมูลเชิงลึกประกอบสำหรับไวน์แต่ละขวด
EY ได้สร้าง Wine Blockchain ขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับประกันและสื่อสารเรื่องราวของคุณภาพการผลิตและแหล่งที่มาให้กับไวน์ในประเทศอิตาลี โดย EY ได้ทำการร่วมมือกับบริษัท Startup ที่มีชื่อว่า EzLab เพื่อสร้างระบบ Blockchain สำหรับติดตามและรับประกันที่มาของไวน์อิตาลีแต่ละขวด โดยมีการจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับที่มา, กลิ่นและรสชาด ไปจนถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเพาะปลูกและกระบวนการการผลิตภายใน Blockchain และติดป้าย QR Code บนไวน์แต่ละขวดเพื่อให้ผู้ซื้อสามารถใช้ Smartphone เพื่อทำการ Scan และอ่านข้อมูลเหล่านี้ได้ เปรียบเสมือนเป็น Digital ID Card นั่นเอง ผลิตภัณฑ์แรกที่เริ่มใช้งาน Wine Blockchain นี้คือ Falanghina ไวน์ที่ผลิตโดย Cantina Volpone ซึ่งอีกไม่นานจะเปิดให้ซื้อได้แบบออนไลน์ด้วย
เบื้องหลังของ Wine Blockchain นี้มีการใช้ Ethereum Blockchain และใช้ความสามารถในการทำ Smart Contract เพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการผลิตไวน์ทุกขั้นตอนสามารถบันทึกข้อมูลต่างๆ ลงไปพร้อมตีตราประทับรับรองซึ่งไม่สามารถปลอมแปลงลงไปได้ ดังนั้นไวน์อิตาลีแต่ละขวดนั้นก็จะถูกรับรองโดยหลายภาคสว่นร่วมกัน
สาเหตุที่ต้องออกมาทำการรับรองไวน์อิตาลีนี้ เพราะมีผู้ผลิตไวน์จำนวนมากที่ทำผลิตภัณฑ์ไวน์อิตาลีแบบไม่แท้ออกมาจำหน่ายและกดราคากันเป็นอย่างมาก เทคโนโลยีและการรับรองนี้จึงสามารถนำมาใช้ตีตราได้ทันทีว่าไวน์ขวดใดเป็นของอิตาลีแท้ๆ และไวน์ใดที่ไม่ใช่ไวน์อิตาลี แต่ใช้ชื่อเพื่อหลอกลวงผู้บริโภค ในขณะเดียวกันการรับรองไวน์อิตาลีในครั้งนี้ก็จะทำให้ชื่อเสียงของไวน์อิตาลีโด่งดังยิ่งขึ้นด้วย
การนำ Blockchain มาใช้ครั้งนี้ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าอย่างชัดเจน เพราะ 74% ของผู้บริโภคไวน์นั้นได้รับอิทธิพลในการตัดสินใจซื้อจากข้อมูลแหล่งที่มาและการผลิต โดย 9 ใน 10 ของผู้บริโภคไวน์นั้นต้องการที่จะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับไวน์อิตาลีมากขึ้น รวมถึงเงื่อนไขต่างๆ ที่ใช้ในการรับรอง และ 70% ของผู้บริโภคเหล่านี้ก็ยินดีที่จะจ่ายเงินราคาแพงขึ้นให้กับไวน์หากมีการรับประกันที่มีความโปร่งใสและพิสูจน์ได้มากเพียงพอ
อ้างอิง https://cointelegraph.com/news/italian-wines-will-be-recorded-on-blockchain-authenticity-guaranteed