ตู้จำหน่ายสินค้าอัจฉริยะด้วย Machine Learning และ Facial Recognition

0
https://venturebeat.com/wp-content/uploads/2015/10/coca-cola-vending-machine.jpg?fit=578%2C303&strip=all

ในยุคที่เทคโนโลยีอยู่รอบตัวเรา อะไรๆ ก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็วจนแทบจะตามไม่ทัน แต่คงมีน้อยคนนักที่จะนึกถึงเครื่องจำหน่ายสินค้าอย่างตู้จำหน่ายน้ำอัดลมว่าจะพัฒนาต่างไปจากเดิมอย่างไร จากที่เคยเป็นนวัตกรรมในช่วงสมัย ค.ศ. 1880 และกำลังจะเปลี่ยนรูปแบบไปอีกครั้งด้วยเทคโนโลยี Machine Learning


สำหรับตู้จำหน่ายสินค้ายุคใหม่นั้น ความอัจฉริยะของมันอยู่ที่การใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนและจัดสินค้าได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ผนวกกับเทคโนโลยี Machine Learning และอัลกอริทึม บางเครื่องยังแนะนำสินค้าได้ตามความชอบของผู้ซื้อ คล้ายๆ กับที่ Netflix แนะนำภาพยนตร์นั่นเอง

ยกตัวอย่าง เช่น ตู้จำหน่ายน้ำอัดลมของ Coca Cola ที่เปิดตัวสร้างกระแสในประเทศนิวซีแลนด์และสหรัฐอเมริกา โดยตัวเครื่องจะเชื่อมต่อกับ Cloud ซึ่งทำให้ผู้ซื้อสามารถสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์แล้วค่อยแวะรับสินค้าทีหลัง อีกทั้งได้พ่วงกับโปรแกรม Chatbot ที่สามารถโต้ตอบกับผู้บริโภคได้อีกด้วย

อีกตัวอย่างหนึ่ง คือ เครื่องจำหน่ายสินค้า VICKI  ที่ผู้ใช้สามารถล็อกอินผ่านทางโซเชียลมีเดีย สแกนลายนิ้วมือหรือม่านตา พร้อมทั้งให้รายละเอียดสินค้า แสดงโฆษณา และแนะนำสินค้าตามประวัติที่เคยซื้อได้

อีกบริษัทหนึ่งที่เป็นผู้นำนวัตกรรมชิ้นนี้คือ บริษัทยักษ์ใหญ่ Intel ผู้ผลิตเครื่องจำหน่ายสินค้าที่แสดงภาพกราฟิกมัลติมีเดียคมชัดบนหน้าจอทัชสกรีนความละเอียดสูง พร้อมทั้งสามารถใช้กลิ่นและท่าทางในการสั่งงานได้ ทำให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ใหม่จากการซื้อสินค้าโดยไม่ต้องใช้เงินสดอีกด้วย

หากคุณยังไม่เคยเห็นเครื่องจำหน่ายสินค้าอัจฉริยะประเภทนี้ คุณจะได้ใช้งานเร็วๆ นี้แน่นอน ซึ่งตามผลสำรวจของ US-based Grand View Research ในเดือนมีนาคม 2017 คาดการณ์ว่ายอดขายจะพุ่งสูงถึง 11.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 ส่วนทางบริษัทวิจัยชั้นนำระดับโลกอย่าง Berg Insight ก็เผยว่าภายในปี 2020 จะมีจำนวนเครื่องจำหน่ายสินค้าอัจฉริยะทั้งสิ้น 3.6 ล้านเครื่อง

อเมริกาเองนับว่าเป็นตลาดใหญ่ที่สุดที่รองรับเทคโนโลยีนี้ แต่หากเราย้อนดูทางญี่ปุ่นบ้าง จะพบว่ามีจำนวนเครื่องจำหน่ายสินค้าหนึ่งเครื่องต่อ 23 คน และขายทุกอย่างตั้งแต่ซุปปลายันลูกหมา

ด้วยประโยชน์ของการใช้ AI ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภค ช่วยลดขยะและต้นทุน และยังช่วยประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งพร้อมให้กำไรแก่ผู้ขายมากขึ้น แน่นอนว่าอาจนำไปสู่การตกงานของคนได้ บ้างก็กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว อย่างไรก็ดี ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตู้จำหน่ายสินค้านี้อาจไม่เจ๋งเท่าหุ่นโดรนหรือสมาร์ทโฟนที่เป็นกระแสหลักในปัจจุบัน

Source : https://venturebeat.com/2017/10/21/vending-machines-are-getting-smarter-with-machine-learning-and-facial-recognition/