การฆ่าตัวตายนั้นเป็นสาเหตุการตายอันดับสองของผู้คนในวัย 15-34 ปี และนับเป็นปัญหาหนึ่งที่วงการการแพทย์ในปัจจุบันยังเข้าไปช่วยยับยั้งได้ยาก ด้วยเหตุนี้เหล่าทีมนักวิจัยจึงได้นำเทคโนโลยีทางด้าน AI และ Machine Learning เข้ามาช่วยวิเคราะห์ว่าใครกำลังมีแนวโน้มหรือมีความคิดที่จะฆ่าตัวตายอยู่หรือไม่
แนวคิดของงานวิจัยนี้คือการใช้เครื่องมือ Functional Magnetic Resonance Imaging (fMRI) เข้ามาตรวจจับการตอบสนองของสมองในแต่ละส่วนที่เกิดขึ้นกับการได้เห็นคำทั้งหมดด้วยกัน 30 คำที่แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มของเหล่าผู้ถูกทดสอบ 34 ราย ได้แก่
- คำในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตาย เช่น Death, Distressed, Fatal
- คำในเชิงบวก เช่น Carefree, Kindness, Innocense
- คำในเชิงลบ เช่น Boredom, Evil, Guilty
นอกจากการตรวจสอบการตอบสนองทั่วๆ ไปแล้ว เหล่านักวิจัยยังตรวจหาสัญญาณความรู้สึกของผู้ถูกทดสอบด้วยว่ากำลังเกิดอารมณ์อย่างเช่น ความอาย หรือ ความโกรธ อยู่หรือไม่เพื่อใช้ประกอบในการทดลองครั้งนี้
การตอบสนองต่อคำต่างๆ ของผู้ที่มีความคิดจะฆ่าตัวและไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตายนั้นแตกต่างกันค่อนข้างมาก ตัวอย่างเช่น ผู้ที่มีความคิดจะฆ่าตัวตายนั้นเมื่อได้เห็นคำว่า Death ก็จะแสดงสัญญาณของความละอายขึ้นมาในสมองมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้มีแนวโน้มจะฆ่าตัวตาย ส่วนคำว่า Trouble นั้นจะกระตุ้นให้ผู้ที่มีแนวโน้มจะฆ่าตัวตายแสดงสัญญาณของสมองในส่วนความเศร้าออกมามากกว่า
ผลการทดลองครั้งนี้พบว่า การตอบสนองจากสมอง 5 ส่วน และการตอบสนองต่อคำ 6 คำที่ใช้ในการทดสอบนี้ถือเป็นตัวชี้วัดที่ดีในการจำแนกเหล่าผู้ที่มีแนวโน้มจะฆ่าตัวตายออกจากเหล่าผู้ที่ไม่มีแนวโน้ม โดยในการสร้าง Machine Learning Model สำหรับใช้จำแนกกรณีนี้สามารถทำได้ระดับความแม่นยำ 15 ใน 17 จนถึง 16 ใน 17 เลยทีเดียว ซึ่งถึงแม้จำนวนของผู้ทดสอบในที่นี้จะยังน้อย แต่ก็ถือว่าเป็นแนวทางที่เป็นไปได้ที่จะพัฒนาต่อและนำมาใช้งานได้จริงในอนาคต สำหรับเนื้อหาที่ตีพิมพ์ลงใน Nature Human Behavior นั้นสามารถอ่านได้ที่ https://www.nature.com/articles/s41562-017-0234-y
งานวิจัยนี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ งานวิจัยด้านการผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับวงการจิตวิทยาเท่านั้น ตัวอย่างของงานอื่นๆ เช่นการจำแนกผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิตเวชจากการพบความสูญเสียหรือเหตุการณ์ร้ายแรงจากวิธีการพูด, การวิเคราะห์ประวัติข้อมูลสุขภาพเพื่อหาแนวโน้มที่ผู้ป่วยจะฆ่าตัวตาย หรือแม้แต่ Facebook เองก็ยังมีการใช้ Text Mining เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มที่ผู้ใช้งานจะฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตัวเอง เพื่อแนะนำข้อมูลทางด้านสุขภาพจิตให้ผู้คนเหล่านั้นด้วย