IBM จับมือ Maersk เปิดบริษัทด้าน Blockchain แก้ปัญหา Supply Chain ทั่วโลกด้วยกัน

0
Source: Maersk

IBM และ Maersk ได้ประกาศความร่วมมือในการเปิดบริษัทร่วมกันเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีทางด้าน Blockchain สำหรับนำมาใช้ตอบโจทย์ทางด้าน Global Supply Chain ร่วมกันอย่างเป็นทางการ

Source: Maersk

 

ถึงแม้ว่าชื่อบริษัทนี้จะยังไม่ได้ถูกตั้ง แต่ทาง IBM และ Maersk เองก็ตั้งใจจะร่วมทุนกันโดย Maersk ถือหุ้นสัดส่วน 51% และ IBM ถือหุ้นสัดส่วน 49% สำหรับพัฒนา Blockchain สำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการขนส่งสินค้าโดยเฉพาะ ที่จะมีธุรกิจต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องใน Network มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ขนส่ง, ท่าเรือ, ศุลกากร, ธนาคาร และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในภาพของ Global Supply Chain เพื่อให้การติดตามการขนส่งสิ่งต่างๆ ทำได้อย่างง่ายดาย และลดงานปริมาณงานเอกสารด้วยการนำ Blockchain ที่มีความน่าเชื่อถือสูงมาใช้ทดแทน

Michael J. White ซึ่งก็คือบุคคลที่ถูกวางตัวเอาไว้ให้เป็น CEO ของบริษัทใหม่นี้ ได้เล่าว่าความร่วมมือกันระหว่าง IBM และ Maersk ในการทดสอบ Blockchain สำหรับใช้ติดตามการส่ง Container ที่บรรจุดอกไม้ข้ามประเทศกันมาแล้วก่อนหน้าเมื่อปี 2016 และการติดตามขยายผลต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ Maersk มองเห็นศักยภาพของเทคโนโลยี Blockchain ในตลาดนี้ จนได้จับมือกับบริษัทชั้นนำอีกจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Dupont, Dow Chemical, Tetra Pak และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อทดสอบเทคโนโลยีร่วมกัน ส่วน General Motors และ Procter and Gamble เองก็ให้ความสนใจกับเทคโนโลยีนี้ไม่น้อย

การนำ Blockchain มาใช้ในระบบ Supply Chain ระดับโลกนี้ หากแม้จะช่วยให้ประสิทธิภาพของระบบดีขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกลับมาเป็นเม็ดเงินแล้วก็จะมีมูลค่ามหาศาล โครงการนี้จึงถือว่ามีความคุ้มค่าสูงมากในแง่ของการลงทุน และก่อนหน้านี้เมื่อปี 2013 ทาง World Economic Forum ก็เคยออกมาให้ความเห็นว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องความล่าช้าในการจัดการข้อมูลและเอกสารภายในการแลกเปลี่ยนสินค้าข้ามประเทศได้นั้น อาจช่วยเพิ่ม GDP ได้ถึง 5% และช่วยกระตุ้นการค้าได้อีกถึง 15% ซึ่งก็นับเป็นเงินหลายล้านล้านเหรียญเลยทีเดียว

บริษัทใหม่ของ IBM และ Maersk นี้จะใช้ Hyperledger Fabric 1.0 ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Open Source Blockchain ที่ถูกออกแบบมาสำหรับใช้ในเชิงธุรกิจโดยเฉพาะและเริ่มต้นพัฒนาโดย IBM มาเป็นหัวใจสำคัญ

ความร่วมมือลักษณะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของทั้งคู่ โดยก่อนหน้านี้ IBM เองก็เคยจับมือกับ Walmart, Nestle, Unilever และบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกันเพื่อทดสอบ Blockchain สำหรับการติดตามด้านความปลอดภัยของอาหารและ Supply Chain สำหรับอาหารมาแล้ว รวมถึงยังมีโครงการลักษณะนี้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนทางด้าน Maersk เองก็ได้จับมือกับ Microsoft, EY และบริษัทอื่นๆ เพื่อทดสอบ Blockchain สำหรับการนำไปใช้ในธุรกิจประกันเดินเรือมาแล้วเช่นกัน

กรณีนี้ถือว่าน่าติดตามทั้งในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจ IT และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อสร้างเทคโนโลยีที่จะแก้ปัญหาในระดับโลกร่วมกัน และในแง่ของการดำเนินธุรกิจของ IBM ในยุคปัจจุบันที่สลัดภาพจากยักษ์ใหญ่ที่เชื่องช้า ไปสู่การเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีที่มีความคล่องตัวสูงกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก

 

อ้างอิง http://fortune.com/2018/01/16/ibm-blockchain-maersk-company/https://www.maersk.com/stories/maersk-and-ibm-launch-digital-joint-venture