AI ในขวดแชมพู! Prose ออกไอเดียใช้ AI ช่วย hyper-customize แชมพูที่เหมาะกับสภาพผม

0

กลายเป็นความคุ้นชินไปเสียแล้วที่มนุษย์เรามีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์คอยช่วยเหลืออย่างหลากหลายในชีวิตประจำวัน พวกมันแฝงตัวอยู่ในสมาร์ทโฟน แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือแม้แต่ในระบบบริการลูกค้าของธุรกิจต่างๆ ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม และตีสนิทกับมนุษย์ได้อย่างสนิทใจ ดังนั้นจะแปลกอะไรถ้าที่ผลงานล่าสุดของมันคือ…ในขวดแชมพู

สตาร์ทอัพ Prose จากมหานครนิวยอร์กที่เพิ่งจัดตั้งในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเผยไอเดียสุดเจ๋งในการขายแชมพูที่ถูกปรับปรุงสูตรให้เหมาะกับผู้ใช้อย่างเต็มที่ในระดับ hyper-customization โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยในการปรับปรุงสูตรให้ตรงกับความต้องการของสภาพเส้นผมและการดำเนินชีวิตประจำวันของลูกค้า สตาร์ทอัพดังกล่าวร่วมมือกับซาลอนชื่อดัง 16 แห่งในนิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก และลอสแอนเจลิส เพื่อช่วยลูกค้าเส้นผมของลูกค้าด้วยแชมพูสุดพรีเมี่ยมฝีมือ AI นี้ เป็นต้นว่าหากลูกค้าที่เป็น vegan ผู้พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีหมอกควันมาก อยากได้แชมพูที่ใช้ส่วนผสมอย่างเป็นธรรมชาติทั้งหมดสำหรับผมทำสี Prose ก็สามารถจัดให้ได้ตามที่ร้องขอ

ระบบของ Prose นั้นผสานประสบการณ์ของช่างทำผมมืออาชีพเข้ากับการวิเคราะห์อัตโนมัติที่สามารถขยายขนาดได้ของปัญญาประดิษฐ์ ช่างทำผมผู้เชี่ยวชาญจะช่วยลูกค้าซาลอนตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับสภาพเส้นผมและชีวิตประจำวัน เพื่อกลั่นออกมาเป็นข้อมูล 85 data points ที่จะถูกนำไปประมวลผลโดยระบบ AI ซึ่งจะทำการคัดเลือกส่วนผสมจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด 76 ชนิด ออกมาเป็นแชมพูสุดหรูที่ขายอยู่ในช่วงราคา 28 ถึง 58 ดอลล่าร์สหรัฐฯ

ช่างทำผมที่คอยช่วยเหลือลูกค้าในการตอบแบบสอบถามของ Prose นี้จะได้รับค่าตอบแทนจากราคาขายอยู่ที่ร้อยละ 25 โดยพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องมีผลิตภัณฑ์ตั้งวางที่หน้าร้านแต่อย่างใด การทำงานทั้งหมดใช้เพียงแค่แอปพลิเคชันเท่านั้น

Prose กล่าวว่าพวกเขาเชื่อว่าการเสริมสวยที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามบุคคลนั้นเป็นประสบการณ์เสริมความงามที่ดีที่สุดที่พวกเขาสามารถมอบให้กับลูกค้าได้ ระบบของ Prose นั้นทำให้มีความเป็นไปได้ของการจับคู่ส่วนผสมกว่า 50 ล้านแบบ ทว่าแชมพูที่ทาง Prose วางจำหน่ายนั้น เป็นสูตรที่ได้รับการดีไซน์มาแล้วซึ่งมีอยู่ถึง 1,000 สูตร

ในอนาคต Prose กล่าวว่าพวกเขาจะมุ่งหน้าพัฒนาระบบตรวจสภาพเส้นผมโดยคอมพิวเตอร์เพื่อวางใช้ในซาลอน และล่าสุดพวกเขาก็ได้ระดมทุนจากนักลงทุนไปที่มูลค่า 7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งพวกเขาจะใช้เงินทุนก้อนนี้ในการพัฒนาฝ่าย R&D ที่มีทีม data scientist อยู่ในนั้นต่อไป

อย่างไรก็ตาม ตลาดความสวยความงามนั้นเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงที่มีแบรนด์เกิดและดับอยู่ตลอดเวลา และแม้จะมีผู้ช่วยเป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ล้ำสมัย ความสำเร็จของ Prose ก็ยังคงขึ้นอยู่กับความท้าทายเดียวกับแบรนด์อื่นๆ นั่นก็คือการเอาชนะใจผู้บริโภค(และช่างทำผมในซาลอน)นั่นเอง