ในการซื้อของแต่ละชิ้นนั้น แน่นอนว่าผู้ซื้อย่อมต้องการที่จะเห็นสภาพจริงของสินค้าก่อนที่จะลงมือตัดสินใจในทางใดทางหนึ่ง โดยเฉพาะการซื้อของระหว่างธุรกิจด้วยกันเอง (B2B) ที่เป็นการซื้อจำนวนมากและมูลค่าสูง หลายๆครั้งที่การพูดคุยกันนั้นไม่เพียงพอจนต้องเกิดความผิดหวังเมื่อลูกค้าได้เห็นสินค้าจริงในภายหลัง ทว่าสิ่งนั้นกำลังจะค่อยๆเปลี่ยนไปด้วยเทคโนโลยี 3D และ Augmented Reality (AR)
หนึ่งในการใช้เทคโนโลยี 3D และ AR ในการขายก็คือการสร้างภาพจำลองขึ้นมาให้ลูกค้าสามารถเห็นภาพของสินค้าได้ดียิ่งขึ้น การจำลองภาพนี้สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและปรับเปลี่ยนได้ง่าย จึงเป็นเทคนิคหนึ่งที่น่าสนใจในการป้องกันความเข้าใจผิดในรูปลักษณ์ของสินค้าที่อาจเกิดขึ้นก่อนการซื้อขาย โดยที่ผ่านมาเราอาจไม่ได้สัมผัสกับมันมากนัก เนื่องด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและต้นทุน ทว่าในปัจจุบันนั้นเริ่มมีซอฟต์แวร์และบริการบางตัว เช่น Atlas Software ที่เปิดให้ธุรกิจสามารถใช้ภาพ 3D หรือเทคโนโลยี AR เพื่อประกอบกับการขายกันมากขึ้น
จุดเด่นของ Atlas Software แพลตฟอร์มการขายสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตนั้นอยู่ที่ความสามารถในการปรับแต่งภาพ (visual configuration) ซึ่งจะช่วยให้การปรับแต่งภาพ 3D ของชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ตามที่ลูกค้าต้องการนั้นเป็นไปได้โดยง่าย อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ CAD เพื่อสร้างโมเดล CAD จากภาพ 3 มิติบนแพลตฟอร์มดังกล่าว
นอกจากภาพ 3D แล้ว Atlas Software ยังมีบริการที่เรียกว่า Atlatl AR ที่จะช่วยให้พนักงานขายสามารถนำเสนอสินค้าในรูปแบบของ augmented reality ทำให้ลูกค้าเข้าใจภาพของสินค้าได้ดียิ่งขึ้น การพูดคุยทำข้อตกลงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มความสำเร็จในการปิดการขาย
Atlas Software กล่าวว่าการใช้แพลตฟอร์มที่สามารถปรับแต่งภาพจำลองได้ในตัวเองนั้นช่วยเพิ่มประสิทธิผลในการขายได้ถึงร้อยละ 24 เพิ่ม conversion rate ร้อยละ 10 และลดความยุ่งยากในขั้นตอนการขายได้ราวร้อยละ 30 ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการเพิ่มอีกชั้นหนึ่งจากธุรกิจที่เลือทำการขายผ่านแพลตฟอร์มการขายในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจมีอัตรา lead-conversion สูงขึ้นร้อยละ 19 ได้รับคำขอร้องใบเสนอราคามากขึ้นร้อยละ 34 และมีการทำข้อตกลงในขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่า 105%
Marc Murphy – CEO ของ Atlas Software กล่าวว่าการใช้เทคโนโลยี 3D และ AR เข้ามาช่วยในขั้นตอนการขายนั้นจะเป็นปัจจัยที่เข้ามาเปลี่ยนอุตสาหกรรมการผลิต เพราะพวกมันจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงภาพของสินค้าโดยไม่ใช้เวลาหรือค่าใช้จ่ายสูง โดยเขาเชื่อว่าการเปลี่ยนขั้นตอนการขายนั้นจะมีหน้าที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุค Industry 4.0 ที่ผู้ผลิตทั้งหลายจำเป็นจะต้องถามตัวเองว่าเงินลงทุนนั้นเข้ามาช่วยเปลี่ยนประสบการณ์การซื้อสินค้าของลูกค้าได้อย่างไร