แนวคิดการนำเทคโนโลยี Automation เข้ามาใช้ในธุรกิจนั้นได้กลายเป็นแนวทางหลักที่หลายๆ ธุรกิจให้ความสำคัญ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน, ลดความผิดพลาด และทำให้พนักงานนั้นมีเวลาไปทำงานในเชิงสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น Automation Anywhere ผู้นำโซลูชันด้านระบบ Robotic Process Automation เองก็เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาเครื่องมือสำหรับเปลี่ยนให้การจัดการงานทางด้าน Business Application และการจัดการข้อมูลนั้นให้กลายเป็นอัตโนมัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อธุรกิจเติบโต การทำงานซ้ำๆ ก็มีปริมาณเพิ่ม และกลายเป็นงานที่ไม่มีใครอยากทำ
ถึงแม้ปัจจุบันเราจะมี Business Application มากมายที่มาช่วยให้การจัดการกับข้อมูลทางธุรกิจนั้นเป็นไปได้อย่างง่ายดายยิ่งกว่าแต่ก่อน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมื่อธุรกิจเติบโตขึ้น การป้อนข้อมูลปริมาณมหาศาลลงไปยัง Business Application นั้นก็เริ่มกลายเป็นภาระต่อพนักงาน เนื่องจากเป็นงานที่ไม่ได้ใช้ความคิด แต่กลับมีความเครียดเพราะห้ามผิดพลาด และสุดท้ายงานเหล่านี้ก็กลายเป็นงานที่ไม่มีใครอยากทำ
ตัวอย่างของงานประเภทนี้ เช่น การแปลงเอกสารคำสั่งซื้อจากลูกค้าเพื่อป้อนเข้าไปยังระบบบัญชีหรือ ERP, การจัดการกับใบเสร็จต่างๆ ในธุรกิจ, การนำข้อมูลจากไฟล์ Excel ป้อนเข้าไปยังระบบ Business Application ที่ธุรกิจใช้งาน, การป้อนข้อมูลจากใบสมัครของผู้สมัครงานลงไปยังระบบของ HR และอื่นๆ อีกมากมาย จะเห็นได้ว่างานลักษณะนี้มีอยู่ในทุกๆ แผนกของธุรกิจเลย
สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก งานลักษณะนี้อาจมีจำนวนหลักสิบงานต่อวัน แต่สำหรับธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ งานเหล่านี้อาจมีหลายพันจนถึงหลายหมื่นหรือหลายแสนงานต่อวัน การใช้พนักงานจำนวนมากเพื่อรองรับงานลักษณะนี้ก็ถือเป็นการใช้ทรัพยากรบุคคลอย่างไม่คุ้มค่า และนี่เองที่ทำให้เทคโนโลยี Robotic Process Automation ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์โดยเฉพาะ
Robotic Process Automation (RPA) ตอบโจทย์การทำงานซ้ำๆ แบบอัตโนมัติ สร้าง Bot ให้ทำงานซ้ำๆ แทน
แนวคิดของ RPA นั้นก็คือการสร้าง Bot เพื่อมาทำงานซ้ำๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลแทนมนุษย์ เพื่อให้การทำงานลักษณะนี้มีประสิทธิภาพ และลดความผิดพลาดลงได้อย่างมหาศาล ในขณะที่พนักงานเองก็ไม่ต้องทนทำงานที่ซ้ำซากน่าเบื่อ และมีเวลาไปทำงานเพื่อพัฒนาธุรกิจองค์กรให้เติบโตต่อไปในเชิงรุกได้นั่นเอง
ในมุมมองหนึ่ง Bot นั้นก็เปรียบเสมือนกับพนักงานขององค์กรที่ถูกจ้างมาเพื่อทำงานซ้ำๆ โดยเฉพาะ แต่ในแง่ของการลงทุนนั้น องค์กรสามารถสร้าง Bot ขึ้นมาทำงานเดียวพร้อมๆ กันเป็นจำนวนมากก็ได้ หรือจะสร้าง Bot หลายแบบๆ ขึ้นมาช่วยกันทำงานที่แตกต่างกันออกไปก็ได้เช่นกัน ตราบใดที่ทรัพยากรด้านการประมวลผลของระบบ RPA นั้นยังมีเหลืออยู่ ทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่นในการรับ Workload ได้หลากหลายรูปแบบและปรับแต่งได้ตามความจำเป็น เช่น ในฤดูกาลที่ขายสินค้าได้มาก ก็อาจสร้าง Bot ขึ้นมาจัดการกับการป้อนข้อมูลด้านการขายหรือข้อมูลของลูกค้าเพิ่มขึ้นได้ เป็นต้น
โดยทั่วไปเทคโนโลยี RPA นั้นมักมาพร้อมกับเครื่องมือในการสร้าง Bot เพื่อให้ Bot เหล่านั้นสามารถทำหน้าที่ต่างๆ ได้ตามต้องการโดยที่ผู้สร้างอาจไม่ต้องมีความรู้ในเชิงเทคนิคหรือการเขียนโปรแกรม ในขณะที่ผู้ผลิต RPA แต่ละค่ายเองก็จะมีมุมมองในการวางสถาปัตยกรรมของระบบและการรองรับงานที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ระบบ RPA นั้นมีความสามารถแตกต่างกัน
ตัวอย่างของการทำงานของ RPA มีดังนี้
- การนำข้อมูลบางส่วนจาก Excel ไปป้อนเข้ากับระบบ ERP
- การดึงเนื้อหาบางส่วนจากหน้า Website มาบันทึกลงยังระบบฐานข้อมูล
- การตรวจสอบเนื้อหาในเอกสารต่างๆ และทำการปรับแต่งแก้ไข หรือบันทึกข้อมูลส่วนที่มีความสำคัญให้โดยอัตโนมัติ
จะเห็นได้ว่า RPA จะมีบทบาทเป็นอย่างมากในการจัดการข้อมูลธุรกิจ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้ในหลากหลายอุตสาหกรรมและหลากหลายแผนก ซึ่งถึงแม้การทำงานง่ายๆ ซ้ำๆ ได้โดยอัตโนมัตินั้นจะฟังดูไม่หวือหวานัก แต่ก็เป็นเทคโนโลยีที่สร้างคุณค่าให้กับองค์กรได้อย่างมหาศาล
Automation Anywhere ผู้นำเทคโนโลยี RPA ในระดับโลก
Automation Anywhere คือผู้ผลิตเทคโนโลยี RPA ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในระดับองค์กรโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าองค์กรมากกว่า 1,600 แห่งทั่วโลก และมี Bot ถูกใช้งานอยู่มากกว่า 1 ล้านชุด อีกทั้งยังมีการผสานเทคโนโลยีด้าน AI เข้าไปเพื่อช่วยให้ Bot นั้นมีความชาญฉลาดมากยิ่งขึ้นไปอีก และสามารถทำงานด้านการจัดการข้อมูลทดแทนมนุษย์ได้หลากหลายยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ความสามารถที่โดดเด่นของ Automation Anywhere มีดังต่อไปนี้
1. Bot Lifecycle Management (BLM) บริหารจัดการการสร้าง, เรียกใช้งาน และอัปเดตการทำงานของ Bot
ระบบสำหรับการจัดการ Bot โดยเฉพาะที่รวบรวมเอาความสามารถในการสร้าง Bot ขึ้นมาใช้งานอย่างง่ายดาย, ทดสอบการทำงานของ Bot, สั่งเรียกใช้งาน Bot เพื่อให้ทำงานต่างๆ และติดตามการทำงานของ Bot เพื่อให้ทราบถึงสถานะการทำงานแต่ละงานที่เกิดขึ้นในองค์กร
Automation Anywhere นี้ได้นำแนวคิด Software Development Lifecycle (SDLC) มาใช้ในระบบ BLM โดยมอง Bot แต่ละชุดเปรียบเสมือน Software เพื่อให้องค์กรสามารถพัฒนาและปรับแต่ง Bot ของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง และตอบโจทย์การทำ Compliance อย่าง CMMI Level 5 หรือ SOX ได้
2. Dynamic Workload Management เพิ่มลดปริมาณ Bot ที่ทำงานแต่ละงานได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อให้งานเสร็จได้ทันตามกำหนดเวลาที่ต้องการ
เพื่อให้การใช้งานทรัพยากรในระบบ RPA มีความคุ้มค่าสูงสุด Automation Anywhere จึงได้ออกแบบให้การทำงานของ Bot นี้มีลักษณะเป็น Bot Farm ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะเพิ่มหรือลดปริมาณของ Bot ในแต่ละงานให้เหมาะสมกับปริมาณงานและเวลาที่มีอยู่ได้ ดังนั้นการลงทุนหน่วยประมวลผลสำหรับระบบ RPA จึงเป็นไปได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ต้องลงทุน Hardware ปริมาณมากเพื่อรองรับแต่ละงานแยกกัน แต่สามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. Centralized Governance & Control ระบบบริหารจัดการ Bot จากศูนย์กลาง
ระบบหัวใจและมันสมองของ Automation Anywhere ที่ผู้ดูแลระบบจะสามารถกำหนดสิทธิ์ได้ว่าผู้ใช้งานคนใดจะมีสิทธิ์ในการเรียกใช้งาน Bot ตัวไหนด้วยทรัพยากรปริมาณเท่าไหร่ และสามารถติดตามการทำงานของ Bot ที่ตนเองเรียกใช้งานได้ โดยระบบจะทำการจัดการเรื่องการสร้าง Bot ขึ้นมาทำงานและสั่งงานต่างๆ ให้โดยอัตโนมัติทั้งหมด
4. AISense for Citrix Automation รองรับการทำงานอัตโนมัติ แม้เป็น Application แบบ Remote
โดยทั่วไปแล้วระบบ Bot นั้นมักจะสามารถทำงานกับระบบ Local Machine หรือ Virtual Machine (VM) ได้เป็นหลัก แต่ Automation Anywhere เองได้พัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวล้ำไปกว่านั้นด้วยการรองรับระบบ Remote Desktop หรือ Remote Application จาก Citrix, Delphi, Flex และอื่นๆ ด้วย เพื่อให้เหล่าธุรกิจองค์กรที่มีการวางสถาปัตยกรรมสำหรับ Application ในลักษณะนี้ก็ยังสามารถสร้าง Bot ขึ้นมาทำงานทดแทนแบบอัตโนมัติได้
5. Credential Vault with CyberArk ระบบจัดเก็บข้อมูลการยืนยันตัวตนผู้ใช้งานอย่างมั่นคงปลอดภัย
ในการสร้าง Bot ใดๆ นั้น Bot เหล่านั้นจะต้องมี Credential ในการเข้าถึงระบบ IT หรือ Application ต่างๆ ด้วย Automation Anywhere เล็งเห็นว่าประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจองค์กร เพราะ Account ต่างๆ ที่จะสร้างขึ้นมาให้ Bot ใช้นั้น ก็คือ Account ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลธุรกิจขององค์กรได้ ดังนั้นการจัดเก็บข้อมูล Account เหล่านี้ให้มั่นคงปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ และ Automation Anywhere ก็ได้ร่วมมือกับ CyberArk เพื่อจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้อย่างมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่ที่มีการเข้ารหัสเอาไว้เป็นอย่างดี
6. Cognitive Automation ผสานเทคโนโลยี AI สร้าง Bot ที่มีความชาญฉลาดยิ่งขึ้นอีกระดับ
ตามปกติแล้ว Bot นั้นมักจะทำงานซ้ำๆ ที่ไม่ได้มีความซับซ้อนใดๆ ตามการป้อนคำสั่งของผู้สร้าง Bot ซึ่งก็ทำให้ความสามารถของ Bot นั้นมีอย่างจำกัด
Automation Anywhere ได้ทำการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมให้กับ Bot ของตน เพื่อให้ Bot สามารถทำความเข้าใจกับเนื้อหาต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น และทำงานแบบอัตโนมัติในรูปแบบที่มีความหลากหลายได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน Email ของลูกค้าที่ส่งเข้ามาเป็นปริมาณมากเพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาและดึงเนื้อหาส่วนที่มีความสำคัญมาจัดเก็บบันทึกเอาไว้ หรือการอ่านเอกสาร Invoice จากบริษัทของคู่ค้ารายต่างๆ ที่มีการจัดรูปแบบที่แตกต่างกัน เพื่อนำข้อมูลด้านการเงินและตัวเลขอ้างอิงต่างๆ มาบันทึกในระบบได้โดยอัตโนมัติ เป็นต้น
ติดต่อ STelligence ได้ทันที
สำหรับธุรกิจใดที่สนใจนำ RPA ไปใช้งานในธุรกิจ หรือกำลังมองหาเทคโนโลยีด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อมาต่อยอดข้อมูลปริมาณมหาศาลภายในธุรกิจ สามารถติดต่อทีมงาน STelligence เพื่อขอคำแนะนำ, นำเสนอเทคโนโลยี หรือใบเสนอราคาได้ทันทีที่ 02-024-6661 หรือ [email protected] หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ STelligence ได้ที่