งานวิจัยชิ้นใหม่จาก Strategy Analytics สะท้อนถึงวงการอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนในช่วงนี้ เห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะเบบี้บูมเมอร์ เริ่มชะลอการซื้อสมาร์ทโฟนเป็นระยะเวลา 3 ปีหรือนานกว่านั้น
โดยเฉลี่ยแล้วผู้ใช้งาน iPhone จะใช้งานเป็นระยะเวลา 18 เดือน ในขณะที่ผู้ใช้งาน Samsung ใช้งานเป็นเวลาเฉลี่ยประมาณ 16.5 เดือน ยุคที่ผู้ใช้เปลี่ยนสมาร์ทโฟนรายปีได้สิ้นสุดลงแล้ว จากข้อเท็จจริงที่ยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนได้ลดลงต่อเนื่องทั่วโลกในช่วงปีที่ผ่านมา และนักวิเคราะห์เชื่อว่าอุตสาหกรรมนี้จะลดลงถึงจุดต่ำสุดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
Strategy Analytics สำรวจทางออนไลน์กับผู้ใช้สมาร์ทโฟน 2,500 ราย ช่วงอายุ 18 ถึง 64 ปีในสหรัฐอเมริกา David Kerr รองประธานอาวุโสของบริษัทอธิบายว่า มีหลายเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจของลูกค้าที่ไม่อัปเกรดรุ่นมือถือใหม่เร็วเหมือนแต่ก่อน เหตุผลหนึ่งคือผู้ซื้อรู้สึกว่าโทรศัพท์รุ่นใหม่มีอัปเดตเพียงเล็กน้อยซึ่งไม่คุ้มที่จะต้องซื้อเครื่องใหม่
ราคาที่เพิ่มสูงขึ้นของรุ่นเรือธงก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ลูกค้าพิจารณา Kerr เชื่อว่าราคาของโทรศัพท์ 5G นับเป็นอุปสรรคสำคัญแม้ว่าหลายคนจะเข้าใจถึงความสำคัญของคุณสมบัติดังกล่าว ลูกค้าที่จ่ายเงินซื้อมือถือราคามากกว่า 1,000 ดอลลาร์และมีแนวโน้มจะซื้ออุปกรณ์ 5G เมื่อมีจำหน่ายมีเพียงแค่ 7 เปอร์เซ็นต์จากกลุ่มคนที่บริษัทสำรวจ
หลังจากธุรกิจสมาร์ทโฟนซบเซามาสักพัก บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ก็พยายามหาวิธีเพิ่มรายได้ช่องทางอื่นๆ เช่น เปิดตัว TV และบริการเพลง หาก Samsung และ Apple ออกมือถือรุ่นที่น่าสนใจเพียงพอ ผู้ซื้ออาจยอมซื้อมือถือรุ่นนั้นก่อนเวลาที่วางแผนไว้ โดยจากผลสำรวจพบว่า ผู้ซื้อมีความจงรักภักดีต่อแบรนด์อย่างเหนียวแน่น โดยมีผู้สนใจซื้อซ้ำถึง 70 เปอร์เซ็นต์ มือถือ Samsung เป็นที่นิยมในกลุ่มคน Gen X ส่วนคน Gen Z นิยม Apple มากกว่า