Waymo เริ่มให้บริการเรียกรถไร้คนขับในเมืองสองแห่ง คือ ฟีนิกซ์ซึ่งมีทั้งลูกค้าที่จ่ายเงินใช้บริการและที่นั่งฟรี กับอีกที่หนึ่งคือ ซานฟรานซิสโกและเมืองรอบๆ ซึ่งมีเฉพาะพนักงานเป็นผู้โดยสาร จากข้อมูลภายในของ The Information ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ให้การตอบรับเป็นอย่างดีเกี่ยวกับประสบการณ์การนั่งรถไร้คนขับ แต่ก็ยังมีข้อติอยู่บ้าง
ข้อมูลสำรวจมาจากการเดินทาง 10,500 ครั้งที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคมโดยผู้โดยสารไม่เปิดเผยชื่อได้แสดงความคิดเห็นผ่านแอปของ Waymo การเดินทางส่วนใหญ่ราว 6,100 ครั้งเกิดขึ้นย่านชานเมืองฟีนิกซ์ ส่วนที่เหลือเกิดขึ้นย่าน Bay Area จากการเดินทางทั้ง 10,500 ครั้งนั้น มีการให้เรตติ้ง 5 ดาวถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 30 เปอร์เซ็นต์ได้เรตติ้ง 4 ดาว หรือน้อยกว่านั้น (สำหรับ Waymo แล้ว หากน้อยกว่า 5 ดาว ถือว่าเป็นความเห็น “เชิงลบ” ทั้งหมด) ซึ่งลดมาจากการเก็บช้อมูลครั้งก่อนที่มี 40 เปอร์เซ็นต์ได้รับเรตติ้งตั้งแต่ 4 ดาวลงไป
ผู้โดยสารตำหนิเรื่องการจอดส่งผู้โดยสารแบบแปลกๆ เส้นทางการขับที่อ้อมไปอ้อมมา และการสั่นสะเทือน ส่วนผู้ใช้งานรายอื่นต่างชื่นชมเรื่องการนำทางในสถานการณ์การจราจรที่ยุ่งยาก การเดินทางส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยมีพนักงานอยู่หลังพวงมาลัยเพื่อความปลอดภัยซึ่งเขาวางมือไว้บนหน้าตักในขณะที่รถขับเคลื่อนอยู่ Waymo ยังได้ให้บริการรถขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบโดยปราศจากพนักงานหลังพวงมาลัยในบางพื้นที่อีกด้วย
อัตราการแสดงความเห็นเชิงลบช่วงสองเดือนนี้ในซานฟรานซิสโกมีถึง 47 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าข้อมูลการแสดงความเห็นเชิงลบทั้งหมด อาจเป็นเพราะ Waymo ต้องการให้พนักงานแสดงความเห็นอย่างจริงจังและเข้มข้นเมื่อใช้บริการแท็กซี่ไร้คนขับนี้ อีกประการหนึ่งคือ สภาพภูมิประเทศในซานฟรานซิสโกนั้นนับว่าโหดกว่าชานเมืองฟีนิกซ์ เพราะมีความหนาแน่นมากกว่า ถนนก็แคบกว่า และมีผู้เดินสัญจรกับคนขี่จักรยานไปมามากกว่า ซึ่งสภาพเหล่านี้ทำให้รถของ Waymo เคลื่อนที่ได้ยากลำบากกว่า
ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นถึงอุปสรรคที่ Waymo จะต้องเผชิญหากต้องให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับแบบเต็มรูปแบบ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า คงต้องใช้เวลาอีกหลายปีก่อนที่รถขับเคลื่อนอัตโนมัติจะแข่งกับบริการเรียกรถที่สะดวกและเชื่อถือได้อย่าง Uber และ Lyft