ในวันที่ 23 มีนาคม 2021 ที่ผ่านมา ทาง NTT DATA, QUNIE Consulting, และ ISS Consulting ได้ร่วมกันจัดงานสัมมนา Empowering Intelligent Enterprise for Multinational Companies พูดคุยถึงแนวโน้มล่าสุดของธุรกิจระดับนานาชาติในการปรับตัวอย่างยั่งยืนด้วยการผสานเทคโนโลยีและข้อมูลเข้าด้วยกันในหลากหลายแง่มุม ทางทีมงาน TechTalkThai จึงขอนำสรุปเนื้อหาในงานสัมมนาดังนี้
Transform ธุรกิจอย่างรวดเร็วและคุ้มค่า ด้วย RISE with SAP และ SAP Business Network

ในหัวข้อแรกคุณ นพดล เจริญทอง Head of General Business for Thailand and Emerging; SAP Indochina เล่าถึงแนวทางใหม่ของ SAP ในการทำ Business Transformation as-a-Service จาก SAP ภายใต้ชื่อ RISE with SAP ซึ่งเป็นบริการ Technical Managed Services ร่วมกันระหว่าง SAP และ Partner เพื่อให้ธุรกิจองค์กรนั้นได้รับทั้งเทคโนโลยีของ SAP และเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกไปใช้ได้ในรูปแบบของการคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง

นอกจากนี้ ใน RISE with SAP ก็ยังมีการรวม SAP Business Network ให้ธุรกิจองค์กรได้ใช้ในการติดต่อกับ Supplier หรือคู่ค้ารายใหม่ๆ ภายใน Network ของ SAP ทั่วโลกได้ ทำให้ท่ามกลางภาวะที่ Supply Chain มีความผันผวนสูงนี้ ธุรกิจองค์กรที่ใช้ RISE with SAP ก็จะมีทางเลือกมากขึ้นในการทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้แม้ว่า Supplier รายเดิมจะประสบปัญหาใดๆ ก็ตาม
แนวทางดังกล่าวนี้จะช่วยให้ธุรกิจองค์กรทั่วโลกสามารถเริ่มต้นใช้งาน SAP ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องลงทุนจัดซื้อระบบ SAP ทั้งหมดด้วยตนเอง ในขณะที่ยังมีความยืดหยุ่นสูง สามารถเพิ่มลดการใช้งานหรือบริการต่างๆ ได้ โดยสำหรับในไทยนั้นธุรกิจองค์กรสามารถเลือกใช้ RISE with SAP ในการติดตั้งและเช่าใช้งาน SAP ภายใน Data Center ที่ตนเองต้องการได้ทันที
RISE with SAP นี้รองรับทั้งสำหรับธุรกิจองค์กรที่เคยใช้ SAP ECC อยู่และต้องการจะอัปเกรดมายัง SAP S/4HANA และธุรกิจองค์กรที่ยังไม่เคยใช้ SAP มาก่อน และต้องการเริ่มต้นใช้ SAP S/4HANA ทันที
แนวโน้มการทำ Digitization สำหรับตอบโจทย์การทำ Business Process Improvement ของธุรกิจทั่วโลก

ถัดมา คุณชำนาญ โพธิ์สุวรรณ Senior Consulting Manager; QUNIE Consulting สรุปถึงแนวโน้มในการทำ Digitization ของธุรกิจองค์กรทั่วโลกในส่วนของการทำ Business Process Improvement (BPI) ว่ามีเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องและน่าจับตามอง ดังนี้
- RPA หรือ Robotic Process Automation ที่ใช้ในการสร้าง Bot ขึ้นมาทำงานต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติและแม่นยำ ทำให้พนักงานสามารถปลดล๊อคจากการทำงานซ้ำๆ ได้
- Web Portal ใช้ RPA เข้าไปจัดการทำงานต่างๆ ใน Web Portal ให้เป็นอัตโนมัติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดึงข้อมูล หรือการป้อนข้อมูลก็ตาม
- Workflow ระบบจัดการเอกสาร Digital ที่ปัจจุบันนี้มีความต้องการที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และมีการเปลี่ยนเอกสารกระดาษมาสู่รูปแบบ Digital และใช้งานบน Workflow ทำระบบ Paperless กันมากขึ้นเรื่อยๆ
- ERP Enhancement ปรับปรุงระบบ ERP ให้รองรับความสามารถใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งอาจไม่เคยคาดถึงหรือไม่เคยต้องการมาก่อนในอดีต
- Interfacing เชื่อมต่อ ERP เข้ากับระบบ Business Application หรือ Business Database อื่นๆ เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้ และนำข้อมูลมาผสานรวมกันได้
- DMS & e-Tax Solution ธุรกิจไทยให้ความสำคัญกับโครงการนี้มาก โดยหลายแห่งเริ่มศึกษาแล้ว และหลายแห่งก็เริ่มทำไปแล้ว เพื่อเปลี่ยนเอกสารและขั้นตอนทางด้านภาษีให้อยู่ในรูป Digital ให้มากที่สุด
- BI พัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูลและออกรายงานทางธุรกิจด้วย BI ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป
- Business Planning เป็นโครงการที่ได้รับความนิยมในไทยมากท่ามกลางช่วง COVID-19 เพราะธุรกิจต้องทำการปรับตัว ลดค่าใช้จ่าย วางแผน และเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด รวมถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการวางแผนนี้ต้องสะท้อนถึงรายรับหรือกำไรที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้สามารถทำ Simulation ได้อย่างแม่นยำ
6 โครงการด้าน Data, IoT, Machine Learning และ AI ที่ถูกใช้งานจริงในธุรกิจองค์กร

ในประเด็นต่อมา คุณ วีระพล ไพศาลศุภนิมิต Executive Vice President ; NTT DATA ได้มาเล่าถึงภาพของการนำเทคโนโลยีอย่าง Data ,IoT, Machine Learning และ AI มาใช้งานในธุรกิจทั่วโลกที่เกิดขึ้นจริงหลากหลายกรณี ได้แก่
- Quality Management Dashboard ระบบวิเคราะห์ข้อมูลและแสดงผลด้านคุณภาพในแบบ Near Real-Time ในสายการผลิต ช่วยลดเวลาการออกรายงานด้านคุณภาพจากหลายชั่วโมงมาเป็นการแสดงผลแบบแทบจะทันทีแทน และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการผลิตลงไปพร้อมกับเพิ่มคุณภาพการผลิตให้สูงขึ้นได้
- Predictive Maintenance ในธุรกิจโรงงาน โดยมีการรวบรวมข้อมูลจาก IoT Sensor ที่ติดตั้งเข้ากับเครื่องจักรมาทำการวิเคราะห์ทุกๆ 1-4 วินาที พร้อมมีการสร้างระบบ Cloud Data Lake และ Cloud Data Warehouse สำหรับนำมาใช้ร่วมกับการทำ Data Analytics และ Machine Learning ในการทำนายแนวโน้มของปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องจักร และจัดการกับประเด็นนั้นๆ ก่อนที่จะเกิดความเสียหายขึ้นจริง
- AI Marketing สำหรับธุรกิจยานยนต์ในไทย เพื่อทำความเข้าใจว่าใครมีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าบ้างจากพฤติกรรมการเข้าชมเว็บไซต์, การทำนายว่าลูกค้ารายเดิมคนใดมีแนวโน้มจะซื้อรถใหม่บ้าง และระบบสำหรับฝ่ายบริการหลังการขายเพื่อทำนายว่าลูกค้ารายใดบ้างที่มีแนวโน้มจะหันไปหาแบรนด์อื่น

- Self-Service Data Analytics เพิ่มยอดขายสำหรับธุรกิจโทรคมนาคมญี่ปุ่น รวบรวมข้อมูลจาก Call Center และหน้าร้านทั่วประเทศมาจัดเก็บใน SAP HANA ขนาด 18TB และใช้เวลาเพียง 0.13 วินาทีในการวิเคราะห์ข้อมูล 700 ล้านบรรทัด เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าเพิ่ม โดยการเปิดให้ฝ่ายขายและฝ่ายการตลาดทำงานได้โดยมีข้อมูลสนับสนุนอยู่ตลอด
- GPS & Sensor Data Analytics วิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องจักรของเรือทั่วโลก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการของท่าเรือ โดยมีข้อมูลมากกว่า 1,500 ล้านบรรทัดในแบบ Time-Series สำหรับทำการวิเคราะห์ด้วย Spark
- Customer Data Collection & Analytics วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าจากกล้องวงจรปิดในประเทศจีน เพื่อส่งข้อมูลที่ช่วยให้เซลส์สามารถปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการแนะนำรถรุ่นที่เหมาะกับลูกค้ามากที่สุด และส่งข้อมูลที่ลูกค้าต้องการทราบให้โดยอัตโนมัติ พร้อมคำนวนแผนเงินกู้ให้กับลูกค้าโดยอัตโนมัติ ทำให้สามารถปิดการขายรถยนต์ได้มากขึ้นอย่างเห็นผลได้ชัด
อัปเดตระบบสู่ SAP Digital Core อย่างเต็มตัว เปลี่ยนระบบ ERP สู่ SAP S/4HANA

หัวข้อถัดมา คุณสุภาษิต ยังโหมด Project Director : Digital Core; ISS Consulting ได้มาถ่ายทอดถึงแนวทางการเลือกใช้ SAP S/4HANA ที่มีหลากหลายแนวทางด้วยกัน ในเชิงของเทคโนโลยี ธุรกิจองค์กรสามารถเลือกใช้ SAP S/4HANA ได้ทั้งแบบ Public Cloud, Private Cloud และ On-Premises ตามความต้องการ โดยมีทั้งการจัดซื้อแบบซื้อขาด (Perpetual) และการคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง (Subscription) ทำให้ธุรกิจมีทางเลือกในการลงทุนให้เหมาะสมกับกลยุทธ์ของตนเอง ส่วนในเชิงของกระบวนการ ธุรกิจองค์กรสามารถเลือกได้ดังนี้
- System Conversion อัปเกรดระบบจาก SAP ECC มาเป็น SAP S/4HANA จากนั้นจึงค่อยๆ เปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานหรือการจัดเก็บข้อมูลในภายหลังต่อไป
- New Implementation ติดตั้ง SAP S/4HANA ใหม่แทนระบบ SAP ECC หรือ ERP อื่นที่มีอยู่เดิม บังคับให้ใช้กระบวนการที่เป็น Best Practice ทันที เป็นการเปลี่ยนแปลงธุรกิจอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าแต่ละวิธีการนั้นก็ย่อมมีขั้นตอนและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งทีมงาน ISS Consulting ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและช่วยวิเคราะห์หาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดให้กับธุรกิจที่ต้องการก้าวมาสู่การใช้ SAP S/4HANA
สร้างวัฒนธรรมองค์กรสำหรับบริษัทข้ามชาติให้เข้มแข็ง ด้วยการบริหารจัดการประสบการณ์ของพนักงาน

คุณ อนุพงศ์ บูรณะเชษฐกุล Project Director : Employee Experience; ISS Consulting เล่าถึงหนึ่งในความท้าทายสำคัญของธุรกิจข้ามชาติ ซึ่งก็คือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรร่วมกันให้กับพนักงานที่ทำงานจากคนละสถานที่ และรักษาพนักงานคนสำคัญเหล่านี้เอาไว้ให้ได้นั่นเอง
ทางออกหนึ่งที่เหมาะสมสำหรับปัญหานี้ก็คือการสื่อสารกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ใช่เพียงแค่เปิดให้มีการพูดคุย แต่สิ่งที่ธุรกิจองค์กรต้องทำนั้นคือการทำความเข้าใจว่าพนักงานนั้นคิดเห็นอย่างไรต่องานและต่อองค์กร ซึ่งตรงนี้แนวคิดของการทำ Experience Management หรือ XM จะเข้ามามีบทบาทค่อนข้างมากจากการรวิเคราะห์ความคิดเห็นด้านประสบการณ์ของพนักงาน และนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลอื่นๆ ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้เข้าใจในสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน และวางแผนแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อาจทำให้พนักงานมีประสบการณ์ที่ไม่ดีในการทำงานได้ รวมถึงช่วยให้พนักงานแต่ละคนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อีกด้วย
ทั้งนี้ SAP เองก็มีโซลูชันสำหรับ HR อยู่มากมาย ทั้งการจัดการด้านการค้นหาจัดจ้างพนักงานคนใหม่, การบริหารจัดการรายจ่ายที่เกิดขึ้นในองค์กร, การติดตามความพึงพอใจของพนักงาน, ระบบฝึกอบรมถ่ายทอดวัฒนธรรมองค์กรและองค์ความรู้, ระบบวางแผนอนาคตทางการงานของพนักงาน, ระบบตรวจสอบความมีส่วนร่วมของพนักงาน, ระบบวิเคราะห์ผลการฝึกอบรม ไปจนถึงระบบทำนายแนวโน้มว่าพนักงานคนใดอาจจะลาออกในอนาคตอันใกล้
วิเคราะห์ข้อมูลประสบการณ์ เอาชนะใจลูกค้าได้ในตลาดของทุกประเทศ

สำหรับหัวข้อสุดท้าย คุณสมพจน์ สุขกระสานติ Project Director : Customer Experience; ISS ได้มาเล่าถึงพลังของข้อมูลที่เกิดขึ้นจากลูกค้า นั่นก็คือประสบการณ์ของลูกค้าของธุรกิจที่อาจจะกลายเป็นตัวตัดสินอนาคตและทิศทางของธุรกิจได้เลย
5 อันดับแรกของสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังในช่วงที่ผ่านมานั้น ได้แก่ ความชัดเจนของข้อมูลสินค้าและการจัดส่ง, ความน่าเชื่อถือ, การจัดแสดงข้อมูลของสินค้าอย่างชัดเจนบนเว็บไซต์, ภาพประกอบที่ดึงดูด และการสรุปค่าใช้จ่ายโดยรวมในการสั่งซื้อสินค้า ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้แตกต่างจากในอดีตมากนัก
อย่างไรก็ดี ในเชิงพฤติกรรมของลูกค้าเองก็น่าสนใจ เนื่องจากลูกค้าเองนั้นก็มีการบอกเล่าถึงประสบการณ์ของตนเองที่มีต่อแบรนด์ลงบน Social Network ทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ รวมถึงยังมีการแนะนำสินค้าหรือบริการต่อให้คนอื่นๆ หากสิ่งนั้นดี หรือหยุดใช้สินค้าหรือบริการนั้นๆ หากใช้แล้วไม่ประทับใจ โดยมีตัวเลขสถิติผลสำรวจที่น่าสนใจดังนี้
- 80% ระบุว่าประสบการณ์นั้นมีความสำคัญเทียบเท่ากับสินค้าหรือบริการที่ได้รับ
- 95% ระบุว่าพร้อมที่จะมีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ที่ตนเองเชื่อถือ
- 67% ระบุว่าทุกวันนี้มีความคาดหวังต่อประสบการณ์ที่ดีมากกว่าในอดีต
จะเห็นได้ว่าประสบการณ์ของลูกค้านั้นได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้สินค้าหรือบริการต่างๆ ค่อนข้างมาก ดังนั้นการจัดเก็บข้อมูลประสบการณ์ของลูกค้ามาทำการวิเคราะห์ทำความเข้าใจอย่างต่อเนื่องนั้นจึงเป็นอีกสิ่งที่สำคัญต่อธุรกิจ เพราะจะทำให้ธุรกิจเข้าใจความรู้สึกหรือความคาดหวังของลูกค้าได้แม่นยำยิ่งขึ้น และสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการวางแผนออกแบบผลิตภัณฑ์, บริการ และประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าต่อไปได้ จากนั้นจึงส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นนี้สู่ลูกค้าผ่านทุกช่องทางของธุรกิจ และสร้างความภักดีให้กับลูกค้า
ทั้งนี้ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลยนั้นก็คือ Data Privacy หรือความเป็นส่วนตัวของข้อมูล โดยธุรกิจเองก็ต้องเปิดให้ลูกค้ามีทางเลือกในการให้ข้อมูลหรือไม่ให้ข้อมูลกับเรา และเลือกรับประสบการณ์ในช่องทางที่ตนเองต้องการได้อย่างเหมาะสม
เกี่ยวกับ ISS Consulting (Thailand) Ltd.
ISS Consulting (Thailand) Ltd. เป็นพาร์ทเนอร์กับ SAP ในระดับ Platinum และ SAP Global Partner ที่สามารถให้บริการด้านการออกแบบ พัฒนา และติดตั้งโซลูชั่นของ SAP อย่างครบวงจร เป็นเวลากว่า 21 ปี โดยปัจจุบันนี้มีลูกค้าธุรกิจและองค์กรทั่วประเทศไทยรวมมากกว่า 400 ราย พร้อมให้บริการทั่วประเทศไทยด้วยทีมงานกว่า 350 คน
ISS Consulting (Thailand) Ltd. เป็นบริษัทในกลุ่ม NTT DATA ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบ SAP และ Data Center ระดับโลก ทำให้บริษัท มีความสามารถในการนำเสนอ SAP Solution (Digital Core, Employee Experience, Customer Experience, Innovation) และ IT Solution อื่น ๆ ให้กับลูกค้าในประเทศไทยในขอบเขตที่กว้างยิ่งขึ้นและครบวงจรมากยิ่งขึ้น ทางด้าน SAP Partner นั้น ISS Consulting (Thailand) Ltd. ยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่ม SAP Global Partner ทำให้บริษัทมีศักยภาพมากขึ้นในการนำเสนอ SAP โซลูชั่นแก่ธุรกิจระดับโลกด้วยเช่นกัน
สนใจติดต่อ ISS Consulting ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชันของ SAP สำหรับนำไปใช้ในธุรกิจโรงงานและการผลิต สามารถติดต่อทีมงาน ISS Consulting เพื่อขอคำปรึกษาได้ทันทีที่ Email: [email protected]หรือโทร 02-2370553 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่
- Website: bit.ly/33kqepj
- Facebook: bit.ly/2PjcJOw
- Instagram: bit.ly/2Dai5ZS
- YouTube: bit.ly/2PlFytt