ความท้าทายของธุรกิจขนาดใหญ่หลายแห่งประการหนึ่งที่ถือว่าเอาชนะได้ยากนั้น ก็คือการบริหารจัดการรายการสินค้าที่มีจำนวนมหาศาล, มีรูปแบบการขายที่ซับซ้อน และต้นทุนสินค้ามีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา ทำให้ระบบ ERP ทั่วๆ ไปนั้นไม่สามารถตอบโจทย์นี้ได้
ในครั้งนี้ คุณฐาณิชา ธนนิลกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.อาร์.เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ได้ให้เกียรติสละเวลามาร่วมสัมภาษณ์แบ่งปันถึงการก้าวข้ามความท้าทายข้างต้นนี้ ด้วยการใช้ SAP Business One on HANA บริหารจัดการการขายและคลังสินค้าในศูนย์กระจายสินค้า 9 แห่งทั่วประเทศไทย ที่มีสินค้าเกินกว่า 20,000 SKU กับยอดขายกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งทีมงาน TechTalkThai ขอสรุปประเด็นที่น่าสนใจเอาไว้ดังนี้ครับ
N.R. Engineering ผู้นำทางด้านการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้านานาชนิดที่พร้อมตอบสนองลูกค้าทั้งในภาคเอกชนและอุตสาหกรรมที่มีประสบการณ์กว่า 38 ปีในประเทศไทย
บริษัท เอ็น.อาร์.เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (N.R. Engineering) เป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้านานาชนิด สำหรับงานก่อสร้างคอนโด บ้านจัดสรร ห้างสรรพสินค้า และโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ (MEGAPROJECT) ภายในประเทศไทย ครอบคลุมทั้งตลาดภาครัฐและเอกชน รวมถึงยังเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการเบื้องหลังในโครงการรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดิน สนามบิน โรงพยาบาล ภาคอุตสาหกรรม โรงงาน โรงไฟฟ้า และอื่นๆ อีกมากมาย
ธุรกิจของ N.R. Engineering ดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 38 ปี โดยมีทั้งสินค้าและบริการมากมาย ดังนี้
สินค้าของ N.R. Engineering
- สายไฟ สายทนไฟ สายโทรศัพท์
- ท่อเหล็กร้อยสายไฟ ท่ออ่อนเหล็ก ท่ออ่อนกันน้ำ ท่อ HDPE
- อุปกรณ์สำหรับท่อ (ฟิตติ้ง)
- สวิตช์ไฟ เต้ารับ เบรคเกอร์ไฟฟ้า ตู้โหลดเซนเตอร์ ตู้คอนซูเมอร์ยูนิต
- เทปพันสายไฟ และอุปกรณ์เชื่อมต่อสายไฟ
- ตู้ไฟ รางไฟ เคเบิ้ลเทรย์ เคเบิ้ลแลดเดอร์
- ระบบสายดิน อุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่า
- มิเตอร์ไฟฟ้า
- บัสบาร์สำเร็จรูป
บริการของ N.R. Engineering
- บริการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า
- บริการออกแบบและผลิตตู้ควบคุมไฟฟ้า
- บริการตัดสายไฟฟ้าและเคเบิ้ล
จะเห็นได้ว่าธุรกิจของ N.R. Engineering มีความหลากหลาย เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน โดยปัจจุบัน N.R. Engineering มีสาขาด้วยกัน 9 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย เพื่อให้สามารถจัดส่งสินค้าและให้บริการเข้าถึงได้ทุกพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีธุรกิจในส่วนที่เป็นการส่งออกสินค้าไปยังอีก 6 ประเทศ อันได้แก่ ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม บังคลาเทศ และสิงคโปร์อีกด้วย
ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ N.R. Engineering ได้ที่ http://www.nre.co.th/
ธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการปรับปรุงการบริหารจัดการให้เป็นแบบรวมศูนย์กลาง ย่อมต้องเผชิญความท้าทายที่ซับซ้อนหลายประการ
คุณฐาณิชาได้เริ่มต้นเล่าถึงโจทย์สำคัญที่ทำให้ธุรกิจของ N.R. Engineering ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ก็คือการผนวกรวมบริษัทในเครือจำนวนมากเข้าเป็นบริษัทเดียว เพื่อให้การบริหารจัดการเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพจากศูนย์กลางนั่นเอง
เดิมทีธุรกิจของ N.R. Engineering นั้นมีการจดทะเบียนแยกกันแต่ละสาขาเพื่อให้มีระบบบัญชีที่แยกขาดจากกัน และวิเคราะห์ติดตามประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจของแต่ละสาขาแยกจากกันได้ง่าย แต่เมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อนหน้านี้ ทางบริษัทได้มีแผนในการควบรวมกิจการทั้งหมดในเครือเข้าด้วยกัน และมีสำนักงานใหญ่กับฝ่ายบัญชีคอยบริหารจัดการตัวเลขทางธุรกิจทั้งหมด เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และแบ่งปันทรัพยากรสำคัญร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงาน
อย่างไรก็ดี โจทย์นี้ถือว่าไม่ง่ายนัก เพราะด้วยความที่ธุรกิจของ N.R. Engineering นั้นดำเนินมายาวนานมากกว่า 30 ปี ทำให้มีสินค้าใหม่ๆ เข้ามาขายในธุรกิจเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา และเกิดเป็นความซับซ้อนของการบริหารจัดการคลังสินค้าและการขายหลายประการ เช่น
- มีสินค้ามากกว่า 20,000 SKU กระจายอยู่ในคลังสินค้าหลายแห่ง จะบริหารจัดการอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด?
- สินค้าบางชนิดมีวิธีการนับหน่วยได้หลากหลาย เช่น สายไฟ อาจจะสามารถเป็นได้ทั้งแบบล้อ, เป็นเมตร, เป็นขด หรือตัดขาย จะบริหารจัดการคลังสินค้าที่มีความยืดหยุ่นแบบนี้ได้อย่างไร?
- สินค้าบางชนิดมีส่วนประกอบที่มีราคาในตลาดผันผวนตลอดเวลา เช่น ทองแดง อีกทั้งหากเป็นสินค้าที่มีการนำเข้าส่งออก ก็ต้องมีการคิดในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนด้วย ดังนั้นการคิดประเมินต้นทุนและราคาขายก็ต้องคำนึงถึงประเด็นนี้ด้วย การคิดคำนวณที่มีความซับซ้อนระดับนี้ควรจะต้องจัดการอย่างไร?
- การวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจจากข้อมูลดิบที่มีความซับซ้อนสูงเช่นนี้ จะต้องทำอย่างไร?
- ยอดซื้อ ยอดขาย และการจัดการทางบัญชี ที่มี transaction เป็นหมื่นๆรายการ ต้องทำอย่างไร?
ด้วยความซับซ้อนระดับนี้ การมองหาระบบ ERP ที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์นี้ได้ และมี Implementer ที่มีความเชี่ยวชาญเพียงพอนั้นจึงถือเป็นหัวใจสำคัญในการควบรวมบริษัทครั้งนี้ของ N.R. Engineering เลยก็ว่าได้
ปรับจากระบบ ERP เดิมสู่ SAP Business One on HANA โดยทีม ISS Consulting ตอบโจทย์ระบบการบริหารจัดการคลังสินค้าและการขายที่ซับซ้อน
ก่อนหน้านี้ N.R. Engineering ใช้ระบบ ERP จากผู้พัฒนาชาวไทยในส่วนของสำนักงานใหญ่เท่านั้น แต่เนื่องจากระบบดังกล่าวรองรับเฉพาะการบริหารจัดการธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่ซับซ้อนมาก และไม่ได้มีหลายสาขา การใช้งานจริงจึงเกิดความติดขัดในหลายส่วน ด้วยปริมาณข้อมูลที่มากขึ้นและวิสัยทัศน์ใหม่ในการวางระบบคำนวณต้นทุนเพื่อรองรับความผันผวนของราคาวัตถุดิบได้ และนี่เองก็เป็นที่มาของโครงการระบบ ERP ใหม่ในครั้งนี้
ในการคัดเลือกระบบ ERP ใหม่ ทาง N.R. Engineering ได้พิจารณาคัดเลือกระบบจากผู้จำหน่ายหลายค่าย จนในที่สุดก็ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้งาน SAP Business One on HANA เพื่อรองรับการประมวลผลข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงได้มากขึ้น และมี Business Dashboard ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยมีทีมงานของ ISS Consulting คอยให้บริการในการให้คำปรึกษา ติดตั้งใช้งาน และดูแลรักษาระบบอย่างครบวงจร จนระบบสามารถรองรับการขายสินค้าที่มีความซับซ้อนตามโจทย์ของ N.R. Engineering ได้ ครอบคลุมทั้งระบบ Sale, Purchase, Finance, Inventory, MRP และ Production
ความยืดหยุ่นในการทำงานนั้นก็เป็นอีกจุดแข็งสำคัญของ ISS Consulting ที่มีความเข้าใจใน N.R. Engineering ถึงประเด็นเรื่องรอบการปิดบัญชีก่อนที่จะทำการ Go Live ระบบใหม่ได้อย่างเต็มตัว ซึ่งทาง ISS Consulting ก็สามารถวางแผนการดำเนินโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการของ N.R. Engineering ได้เป็นอย่างดี
ประเด็นด้านพนักงานเองก็สำคัญ การขึ้นระบบ ERP ใหม่นี้ย่อมกระทบต่อการทำงานของพนักงานอยู่แล้ว แต่ที่ N.R. Engineering ก็สามารถผ่านพ้นประเด็นนี้มาได้เป็นอย่างดีด้วยการให้เวลาพนักงานในการปรับตัวทำความเข้าใจกับระบบใหม่ๆ รวมถึงจัดให้มีการฝึกอบรมให้มากที่สุด และแสดงให้เห็นถึงข้อดีของโปรแกรม ในการช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานมากขึ้น แต่จุดที่ถือว่าน่าสนใจมากก็คือการที่ภายในธุรกิจนั้นมีพนักงานที่เป็นคนรุ่นใหม่ซึ่งคุ้นเคยกับเทคโนโลยี ทำหน้าที่เป็น Influencer คอยช่วยเหลือพนักงานคนอื่นๆ ที่ไม่ถนัดในส่วนนี้ ทั้งการอธิบายความจำเป็นของระบบและวิธีการใช้งาน ทำให้ท้ายที่สุดแล้วเมื่อทุกคนเข้าใจถึงข้อดีของระบบ ERP ใหม่ที่จะมาช่วยให้การทำงานดีขึ้นได้นั้น การยอมรับในสิ่งใหม่ๆ ก็กลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้จริง
คุณฐาณิชา ระบุว่าในการเปลี่ยนมาใช้งาน SAP Business One on HANA ครั้งนี้ มีส่วนที่ประทับใจในความสามารถของระบบด้วยกันหลายประการ เช่น
- Changelog เนื่องจากระบบ ERP มีขนาดใหญ่และมีผู้ใช้งานจำนวนมาก การที่ผู้ใช้งานแต่ละคนเข้าไปเปลี่ยนแปลงสิ่งใดๆ ในระบบก็อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานได้ ดังนั้นการมี Changelog ให้สามารถติดตามตรวจสอบแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้ดี
- Authorization ระบบสามารถกำหนดสิทธิ์ของพนักงานแต่ละคนและแต่ละแผนกแยกขาดจากกันได้ ทำให้สามารถแบ่งการทำงานและแบ่งสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลได้ในเชิงลึก
- Approval มี Template ออกแบบ Workflow การอนุมัติได้อย่างละเอียด สามารถกำหนดได้ว่าในกระบวนการใดจะต้องมีคนอนุมัติหรือรับทราบมากน้อยแตกต่างกันได้ตามความเหมาะสม
- Stock สามารถตรวจสอบข้อมูลได้แบบ Real-Time ช่วยให้การบริหารจัดการและการตัดสินใจแก้ไขปัญหาเป็นไปได้อย่างทันที และสามารถกำหนด safety stock min max ในแต่ละสินค้าได้อย่างละเอียด
ทั้งนี้ทาง N.R. Engineering ก็ยังมีแผนต่อยอดในอนาคตสำหรับระบบ ERP อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการมองหาโอกาสในการย้ายระบบขึ้นสู่ Cloud เพื่อให้ระบบสามารถรองรับประสิทธิภาพการประมวลผลได้สูงยิ่งขึ้น หรือการเฟ้นหาระบบ Warehouse Management Systems ที่รองรับการบริหารจัดการคลังสินค้าที่มีความซับซ้อนสูงยิ่งขึ้นไปอีกได้ในอนาคต โดยระบบดังกล่าวต้องสามารถเชื่อมต่อกับ SAP ที่ใช้งานอยู่ได้ รวมถึงยังอาจมีการต่อยอดธุรกิจให้เข้าถึงตลาดที่กว้างขวางยิ่งขึ้นกว่าเดิม และแน่นอนว่าการต่อยอดธุรกิจนี้ก็ย่อมหมายถึงการที่ต้องพัฒนาระบบ ERP ต่อเนื่องควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากหัวใจสำคัญของธุรกิจนี้ คือการบริการ และย่อมต้องแข่งขันกับเวลาด้วยเช่นกัน
การบริหารจัดการที่ดี และการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง ทำให้ N.R. Engineering ดำเนินกิจการท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้อย่างเข้มแข็ง
คุณฐาณิชาได้เล่าถึงกรณีของ N.R. Engineering ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 นี้ ว่าการบริหารจัดการธุรกิจอย่างเป็นระบบ, การปรับตัวธุรกิจตามสถานการณ์ มีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ต่างๆตลอดเวลา และการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ N.R. Engineering สามารถผ่านปี 2020 มาได้โดยที่ไม่กระทบกับพนักงานปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี ด้วยสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจที่คาดเดาได้ยากว่าจะกลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่เมื่อไหร่ คุณฐาณิชาก็ได้ให้ข้อคิดไว้แก่เหล่าผู้บริหารว่าแนวทางที่สำคัญคือการดำเนินการธุรกิจอย่างระมัดระวัง พร้อมที่จะปรับตัวอยู่เสมอ ไม่ว่าในช่วงปีที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากภัยโรคระบาดครั้งนี้มากน้อยเพียงใด แต่อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่มีใครล่วงรู้ ธุรกิจที่ไปรอดในช่วงที่ผ่านมา อาจต้องเผชิญปัญหาหลังจากนี้ก็เป็นได้ ดังนั้นทุกๆ ก้าวหลังจากนี้จึงไม่ควรประมาท การปรับกลยุทธ์และกำหนดมาตรการใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องยังเป็นสิ่งที่สำคัญ และทุกการตัดสินใจนั้นล้วนสะท้อนออกมาเป็นค่าใช้จ่ายและผลการดำเนินงานทั้งสิ้น ความละเอียดรอบคอบและระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญในทุกๆ การตัดสินใจ
เกี่ยวกับ ISS Consulting (Thailand) Ltd.
ISS Consulting (Thailand) Ltd. เป็นพาร์ทเนอร์กับ SAP ในระดับ Platinum และ SAP Global Partner ที่สามารถให้บริการด้านการออกแบบ พัฒนา และติดตั้งโซลูชั่นของ SAP อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นระบบ ERP สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก/กลาง/ใหญ่ ในหลากหลายอุตสาหกรรมมาเป็นเวลากว่า 21 ปี โดยปัจจุบันนี้มีลูกค้าธุรกิจและองค์กรทั่วประเทศไทยรวมมากกว่า 250 ราย พร้อมให้บริการทั่วประเทศไทยโดยทีมงานกว่า 300 คน
จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้ ISS Consulting สามารถคว้ารางวัลยอดเยี่ยมแห่งปีจาก SAP ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำ ในระดับ Platinum Partner พาร์ทเนอร์ระดับสูงสุดของ SAP มีทั้งหมด 4 รางวัล ได้แก่
- รางวัล SAP Partner of The Year 2020 – Indochina รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลสูงสุดที่ไอเอสเอสคอนซัลติ้งได้รับจาก SAP ซอฟแวร์ระดับโลก เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน (2018-2020)
- รางวัล General Business Partner of The Year 2020 – Indochina
- รางวัล SAP S/4HANA Partner of The Year 2020 – Indochina
- รางวัล DRS Partner of The Year 2020 – Indochina
นอกจากนั้นแล้วในปีนี้ ISS Consulting (Thailand) Ltd. เป็นบริษัทในกลุ่ม NTT DATA และ itelligence ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบ SAP และ Data Center ระดับโลก ทำให้บริษัท มีความสามารถในการนำเสนอ SAP Solution และ IT Solution อื่น ๆ ให้กับลูกค้าในประเทศไทยในขอบเขตที่กว้างยิ่งขึ้นและครบวงจรมากยิ่งขึ้น ทางด้าน SAP Partner นั้น ISS Consulting (Thailand) Ltd. ยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่ม SAP Global Partner ทำให้บริษัทมีศักยภาพมากขึ้นในการนำเสนอSAPโซลูชั่นธุรกิจระดับโลก
ผู้ที่ต้องการปรึกษาเกี่ยวกับเรื่อง SAP เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรให้ดีขึ้น ISS Consulting พร้อมให้คำปรึกษาในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ ติดต่อได้ที่ โทร 02 237 05553 หรือติดตาม ISS Consulting (Thailand) ได้ที่ Link ด้านล่างนี้
- Website: bit.ly/ISSConsultinbwebsite
- Facebook: bit.ly/issconsultingfb
- Instagram: bit.ly/ISSInstagram
- YouTube: bit.ly/issconsulting