ความต้องการใช้งาน AI ที่เพิ่มขึ้นและความขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้าน AI และข้อมูลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นก่อให้เกิดบริการคลาวด์รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Cloud AI Service for Developer ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถสร้าง ปรับแต่ง และใช้งานความสามารถของ AI ได้อย่างรวดเร็วแม้ไม่มีความเชี่ยวชาญ
รายงาน Gartner Magic Quadrant for Cloud AI Developer Services 2022 พาเราไปสำรวจว่าในปี 2022 นี้ ผู้ให้บริการ Cloud AI Service เจ้าไหนที่น่าจับตามอง และแต่ละรายมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง ทีมงานสรุปมาให้อ่านกันแล้วในบทความนี้
Gartner Magic Quadrant คืออะไร
Gartner คือบริษัทที่ปรึกษาและวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยีชื่อดังของโลก ซึ่งเป็นผู้จัดทำรายงาน งานวิจัย และการวิเคราะห์ตลาดเทคโนโลยีออกมาอย่างสม่ำเสมอ Magic Quadrant ของ Gartner ในแต่ละหัวข้อนั้นเกิดมาจากการสำรวจ วิเคราะห์ และจัดอันดับเทคโนโลยีในหมวดหมู่นั้นๆ ตามความสามารถในการให้บริการจริง และวิสัยทัศน์ในการมองเทคโนโลยี โดยจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
- Niche Players – ผู้ให้บริการที่มีเทคโนโลยีหรือมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีเฉพาะกลุ่ม
- Challengers – ผู้ให้บริการเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ใช้งานได้จริง แต่ยังมีข้อจำกัดในการให้บริการบางอย่างเมื่อเทียบกับกลุ่ม Leader
- Visionary – ผู้ให้บริการที่มีความโดดเด่นในด้านวิสัยทัศน์ และการวางแผนอนาคตของการให้บริการ
- Leader – ผู้ให้บริการที่มีพร้อมทั้งวิสัยทัศน์และการให้บริการที่ครอบคลุม
Gartner Magic Quadrant for Cloud AI Developer Services 2022
Cloud AI Developer Service (CAIDS) คือเครื่องมือบนคลาวด์ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาระบบ AI หรือ Machine Learning ได้โดยไม่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญจาก Data Scientist ในปัจจุบันที่บุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลมีความขาดแคลน และมีความต้องการในการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจสูงขึ้น บริการ AI กึ่งสำเร็จรูปที่สามารถปรับแต่งได้ตามการใช้งานเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ
Magic Quadrant สำหรับ Cloud AI Developer Services ประจำปีนี้นั้นถูกเผยแพร่ออกมาในช่วงเดือนพฤษภาคม 2022 ประกอบไปด้วยผู้ให้บริการทั้งหมด 13 ราย โดยในกลุ่ม Leaders มีผู้ให้บริการ 4 ราย ได้แก่ AWS, Google, IBM, และ Microsoft และแต่ละเจ้ามีจุดเด่นดังนี้
AWS
- AWS เป็นผู้นำตลาดในด้านการให้บริการเกี่ยวกับ AI ที่มีกลยุทธ์และความเข้าใจในความต้องการของธุรกิจเป็นอย่างดี พวกเขามี Business Model และการตลาดที่ดึงดูดผู้ใช้งานมาใช้บริการ CAIDS เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บริการด้าน AI ของ AWS เป็นที่รู้จักและยอมรับในแวดวงธุรกิจทั่วโลก
- AWS เปิดให้บริการเกี่ยวกับ AI ในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ครอบคลุมมากที่สุดเมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ และมีการขยายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตั้ง สเกล และใช้งานระบบใน Avaibility Zone ต่างๆได้
- ความสามารถในการรองรับการดำเนินการและการสเกลของ AWS นั้นอยู่ในระดับที่ดีมาก ผู้ใช้งาน Amazon SageMaker สามารถติดตั้งระบบ AI บน Production ผ่านขั้นตอนง่ายๆเพียงคลิกเดียว อีกทั้งยังมีความสามารถในการเชื่อมต่อเพื่อทำงานร่วมกับระบบอื่นๆที่ใช้งานอยู่ นอกจากนี้ AWS ยังมีตัวเลือกในฮาร์ดแวร์การประมวลผล เทคโนโลยีเกี่ยวกับ AI และอื่นๆให้ใช้อย่างหลากหลาย
- บริการด้าน AI และ ML ของ Google นั้นได้รับการยอมรับจากชุมชนนักพัฒนา และมีเครื่องมือและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่พร้อมให้นักพัฒนาและผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลเลือกใช้มากมาย เช่น Vertex AI ที่จะเข้ามาช่วยจัดการขั้นตอนการ Build, Deploy, และดูแลระบบ AI ที่ทำงานอยู่, บริการ BigQuery ML, AutoML และ API สำหรับโมเดล Machine Learning อื่นๆ
- Google มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความรับผิดชอบในการใช้ AI ให้กับธุรกิจ โดยพวกเขามีการวิจัยอย่างต่อเนื่องในด้านนี้ และได้จัดตั้งขั้นตอนที่ชัดเจนในการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับ AI และมีเครื่องมือที่จะช่วยตรวจสอบการทำงานของโมเดล Machine Learning และวัดค่าความยุติธรรม (Fairness) เพื่อลดอคติในโมเดล AI ลง
- บริการด้าน AI ของ Google ตั้งอยู่บนสถาปัตยกรรมของ Vertex AI Pipeline ซึ่งได้รับการยอมรับถึงความสามารถในการจัดการโมเดล AI และมีการพัฒนาโมเดลสำหรับงานด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Computer Vision, Speech, การประมวลผลภาษา หรือโมเดลทั่วไปอื่นๆ สำหรับงานที่เฉพาะเจาะจงมากมาย
IBM
- IBM มีเทคโนโลยีที่โดดเด่นในด้านการประมวลผลภาษา โดยมีโซลูชันอย่าง IBM Watson Assistant, Watson Natural Language Understanding, และ Watson Discovery ที่พร้อมให้นักพัฒนานำมาใช้ต่อยอดได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้การประมวลผลภาพก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ IBM โดยเฉพาะการประมวลผลและวิเคราะห์ภาพวิดีโอ
- เครื่องมือเกี่ยวกับ AI ของ IBM มีให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย และ IBM มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาบริการให้ง่ายต่อการใช้งานและสามารถพัฒนาระบบ AI ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งในรูปแบบของ Low-code และการเขียนโปรแกรมขึ้นเอง
- IBM มีโฟกัสที่เฉพาะเจาะจงในการขยายตลาด ทำให้พวกเขาสามารถเติบโตอย่างแข็งแรง พวกเขามุ่งเน้นไปที่การใช้งาน AI ในรูปแบบของ Hybrid Cloud ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจจำนวนมากในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีความเข้าใจอันดีต่อความต้องการของธุรกิจ ทำให้สามารถพัฒนาโซลูชันและมี Use case ที่น่าสนใจออกมาอย่างหลากหลายและต่อเนื่อง
Microsoft
- Microsoft มีกลุยทธ์ในการสร้างบริการด้าน AI ที่ใช้งานง่ายสำหรับทั้งนักพัฒนาและผู้ใช้งานทั่วไป ทำให้บริการของพวกเขารองรับธุรกิจได้หลากหลาย และยังมีการใช้งาน AI ที่พวกเขาให้บริการเป็นการภายใน ทำให้ Microsoft สามารถพัฒนาบริการของตัวเองและแก้ไขจุดอ่อนได้อย่างต่อเนื่อง
- รูปแบบในการเก็บค่าบริการของ Microsoft นั้นมีความยืดหยุ่น มีการเสนอรูปแบบการเก็บค่าบริการใหม่ๆ เช่น Commitement Tier ที่มีค่าบริการต่อหน่วยต่ำกว่าภายใต้เงื่อนไขว่าธุรกิจต้องมีการใช้งานบริการนั้นๆอย่างต่อเนื่อง ในด้านของการขายและให้คำปรึกษา Microsoft ได้จัดตั้งทีมวิศวกรที่เชี่ยวชาญเพื่อการทำ Proof-of-Concept ในการใช้บริการ AI โดยเฉพาะ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถทดลองและเห็นภาพการใช้งานจริงได้อย่างรวดเร็ว
- Microsoft มีบทบาทในการผลักดันการใช้ AI อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ ด้วยการเข้าร่วมโครงการพัฒนาและวิจัยเกี่ยวกับจริยธรรม AI นอกจากนี้ยังมีการเข้าร่วมในโปรเจค Opensource หลายโปรเจค และส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการพัฒนาระบบ IT ด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจอ่านรายละเอียดของ Magic Quadrant สำหรับ Cloud AI Developer Services ในปี 2022 เพิ่มเติม ซึ่งรวมไปถึงจุดเด่นและข้อควรระวังในการใช้บริการจากผู้ให้บริการ CAIDS ต่างๆ สามารถเข้าไปได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ Gartner