AS-A-SERVICE: โมเดลเทรนด์ใหม่ ต่อยอดธุรกิจยุคอุตสาหกรรม 4.0

0

เมื่อโลกก้าวเข้าสู่การปฏิบัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Industry 4.0 เทคโนโลยีเกิดใหม่ก็เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจแบบดั้งเดิม จนเกิดเป็นเทรนด์โมเดลใหม่ที่มีชื่อต่อท้ายว่า “as-a-service”

โมเดล “as-a-service” คืออะไร? ทำไมโมเดลนี้ถึงเป็นเทรนด์ใหม่ยอดนิยม และต่างจากโมเดลการทำธุรกิจแบบเดิมอย่างไร? มีตัวอย่างธุรกิจอะไรบ้างที่มีนามสกุล as-a-service พ่วงท้าย? พบคำตอบเหล่านี้ได้ในบทความนี้

โมเดล as-a-service คืออะไร? ต่างจากการทำธุรกิจดั้งเดิมอย่างไร?

หากย้อนกลับไปสมัยก่อนที่จะมีโมเดล as-a-service เกิดขึ้น เวลาเราซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์อะไรบางอย่าง เช่น ซอฟต์แวร์โปรแกรมต่าง ๆ มักเป็นการซื้อขายทันทีเฉพาะตัวสินค้า ซึ่งหากต้องการบำรุงรักษา อัปเกรดหรือขอบริการสนับสนุนต่าง ๆ ลูกค้าต้องชำระเงินซื้อบริการนั้นเป็นครั้ง ๆ ไป ซึ่งกลายเป็นว่า ลูกค้าต้องแบกรับความเสี่ยงในเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจตามมาในภายหลัง รวมไปถึงความล่าช้าในการดำเนินงานที่ต้องสะดุดเพราะปัญหาของผลิตภัณฑ์ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจของลูกค้าต่อไปอีกหลายทอด

แต่ด้วยโมเดล as-a-service ที่เกิดใหม่ขึ้นมานี้ ได้มอบความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจมากยิ่งขึ้น เพราะลูกค้าเพียงแค่สมัครสมาชิกชำระรายเดือนหรือรายปีเพื่อใช้สินค้าบริการนั้น ๆ ก็สามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้อย่างไร้กังวล โดยไม่ต้องผูกมัดระยะยาวหรือลงทุนไปกับโครงสร้างพื้นฐาน

ดังนั้น โมเดล as-a-service จึงเปรียบเสมือนกับชิ้นส่วนเลโก้สำหรับธุรกิจ ที่ลูกค้าสามารถ Mix and Match บริการและโซลูชันให้เหมาะสมกับความต้องการได้อย่างดีเยี่ยมที่สุด อีกทั้งยังเลือกปรับเปลี่ยน เสริมบริการเพิ่มเติมได้ตามขนาดของธุรกิจ ยิ่งในช่วงสภาวะเงินเฟ้อที่ร้อนระอุ งบประมาณด้านไอทีที่ต้องรัดเข็มขัด และการขาดแคลนแรงงาน ยิ่งทำให้โมเดล as-a-service ได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าเคย

อะไรเป็น as-a-service ได้บ้าง?

หลาย ๆ ท่านคงคุ้นเคยกับ SaaS ที่มาจากคำว่า Software-as-a-service ซึ่งถือว่าเป็นส่วนตลาดที่มีขนาดใหญ่และเติบโตเร็วที่สุด แต่โมเดล as-a-service ไม่ได้จำกัดแค่ผู้เล่นฝั่งซอฟต์แวร์เท่านั้น แต่ยังขยายไปในหลากหลายวงการ ตั้งแต่ Fintech อุตสาหกรรมการผลิต ไปจนถึงโลจิสติกส์ การดูแลสุขภาพ และอื่น ๆ โดยมีตัวอย่างกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ดังนี้

  • Fintech-as-a-service

Fintech หรือเทคโนโลยีด้านการเงิน ได้เข้ามาพลิกโฉมการธนาคารด้วยการนำโมเดล as-a-service เข้ามาใช้ ไม่ว่าจะเป็นบริการให้กู้ยืมออนไลน์ไปจนถึงบล็อกเชนและการชำระเงินรูปแบบดิจิทัล บริษัทฟินเทคเหล่านี้ก็มีวิธีใหม่ ๆ เพื่อให้บริการลูกค้าได้ดีกว่าเดิม จนถึงขั้นดึงส่วนแบ่งตลาดจากธนาคารทั่วไปได้

ลองดูกรณีการออกบัตรโดยบริษัทเจ้าใหญ่ ๆ อย่าง Amazon, Delta, Apple และแม้แต่ Shell และ ExxonMobil ที่ต่างก็ออกบัตรชำระเงินแบรนด์ของตัวเองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมุ่งมั่นมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดีเยี่ยม แบรนด์เหล่านี้จึงมอบฟีเจอร์และข้อเสนอผลประโยชน์ที่ธนาคารทั่วไปไม่อาจตอบโจทย์ได้

Fintech-as-a-service ถึงขั้นเป็นข่าวใหญ่เมื่อ Solid ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และบริการพัฒนาแอปพลิเคชันทางการเงิน ได้ระดมทุนใน Series B ได้สูงถึง 63 ล้านดอลลาร์ ด้วยข้อเสนอบริการในด้านการธนาคาร การชำระเงิน บัตรต่าง ๆ และคริปโต ก็ทำให้ Solid ถือว่าเป็นตัวอย่างแพลตฟอร์ม Fintech-as-a-service ที่ประสบความสำเร็จเจ้าหนึ่ง

  • Security-as-a-service

ช่วงนี้มักมีข่าวเรื่องการโจมตีทางไซเบอร์หรือการละเมิดข้อมูลไม่เว้นในแต่ละวัน เมื่อธุรกิจต่างพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้นกว่าที่เคย ก็ยิ่งเสี่ยงต่อการถูกโจมตีโจรกรรมข้อมูลมากกว่าเดิม ดังนั้น โซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยที่ครอบคลุมแบบ end-to-end และพัฒนาได้รวดเร็วให้เท่าทันกับภัยคุกคามก็เป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับองค์กร

เมื่อการลงทุนพัฒนาโซลูชันความมั่นคงปลอดภัยตั้งแต่เริ่มต้นย่อมมีต้นทุนราคาสูง องค์กรจึงหันมาเลือกใช้ผู้ให้บริการ Security-as-a-service เพื่อให้ความคุ้มครองปกป้องข้อมูลจากการสูญหายและการตั้งค่า Firewall เพื่อการจัดการตัวตนและการเข้าถึงข้อมูลแก่องค์กร เมื่อรวมบริการหลาย ๆ สิ่งเข้าด้วย ธุรกิจก็จะได้รับการปกป้องที่ต้องการในราคาที่เอื้อมถึง

ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างของบริษัท Dedrone ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการ Security-as-a-service ก็ได้ระดมทุน 30 ล้านดอลลาร์สำหรับแพลตฟอร์มป้องกันโดรน โดยใช้เซ็นเซอร์ AI และระบบเรียนรู้ในการติดตาม ตรวจจับและป้องกันโดรนที่เข้ามาในเขตสงวน เสมือนเป็นการลงทุนจ้างหน่วยรักษาความปลอดภัย แต่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย

  • Hardware-as-a-service

ฮาร์ดแวร์คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณอาจจะนึกว่าจะต่อท้ายด้วย as-a-service ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ Hardware-as-a-service (HaaS) เป็นส่วนสำคัญของยุคอุตสาหกรรม 4.0 ไปเสียแล้ว 

แทนที่ธุรกิจจะต้องลงทุนอย่างหนักไปกับฮาร์ดแวร์ ไม่ว่าจะเป็นเซิร์ฟเวอร์ พีซี หรืออุปกรณ์ผลิตต่าง ๆ แต่ปัจจุบันนี้ ธุรกิจสามารถสมัครสมาชิกเลือกใช้บริการ Hardware-as-a-service เพื่อเข้าถึงอุปกรณ์คุณภาพเยี่ยมรุ่นใหม่ล่าสุดได้โดยไม่ต้องสูญเงินมหาศาล

ยกตัวอย่างเช่น Topi บริษัทสตาร์ตอัปสัญชาติเยอรมัน พึ่งได้ระดมทุนมูลค่า 45 ล้านดอลลาร์ เพื่อเปิดให้ผู้ค้าได้เช้าอุปกรณ์อย่างสมาร์ตโฟน ปรินท์เตอร์ และแขนจักรกล ซึ่งแพลตฟอร์ม HaaS ของบริษัทได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยธุรกิจจัดการความจำเป็นในการใช้ฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยราคาที่สมเหตุสมผล

  • EV-as-a-service

สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าแล้ว การเป็นผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าอาจไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของเสมอไป เพราะตอนนี้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเลือกสมัครสมาชิกใช้บริการรายเดือนได้เช่นเดียวกับบริการอื่น ๆ ซึ่งถือว่าเป็นกลยุทธ์ของฝั่งผู้ให้บริการรถ EV ที่ต้องการให้ยานยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงการยอมรับของตลาดในวงกว้างมากขึ้น

Electric-vehicle-as-a-service (EVaaS) กลายเป็นธุรกิจหมวดใหม่ที่ได้รับความสนใจจากทั้งผู้บริโภคและธุรกิจต่าง ๆ ดังที่บริษัท Onto ได้ระดมทุนถึง 60 ล้านดอลลาร์ เพื่อเปิดบริการสมัครใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งบริษัทไม่ได้ให้บริการแค่ตัวรถไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังให้บริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การให้บริการชาร์จในที่สาธารณะ ประกันและคุ้มครองความเสียหาย ซึ่งในแพ็กเกจสมาชิกก็มีระยะวิ่งได้ไกลถึง 750 ไมล์ต่อเดือน

  • Entertainment-as-a-service

อุตสาหกรรม 4.0 ได้นำแอปพลิเคชัน SaaS ใหม่ ๆ มาสู่กลุ่มผู้บริโภคด้วยเช่นกัน เพราะผู้บริโภคสมัยใหม่มักใช้เวลาส่วนใหญ่บนโลกออนไลน์ จนถึงขั้นที่เราน่าจะได้เห็นการประยุกต์ใช้ Metaverse ในรูปแบบใหม่ ๆ ด้วย

บริษัทที่ให้บริการ Entertainment-as-a-service อย่าง Yepp ได้นำระบบเรียนรู้ (Machine Learning) มาใช้สร้างเม็ดเงินจากเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตที่กำลังเติบโต จนล่าสุดโซเชียลแพลตฟอร์มเจ้านี้ก็มีผู้ใช้งานกว่า 100,000 ราย ที่เข้ามาใช้ฟีเจอร์สร้างมีมด้วยอัลกอริธึม Face Swap ระบบแนะนำอัตโนมัติ และความสามารถในการปรับแต่งข้อความหรือฟอนต์ในภาพได้

จะเห็นว่าธุรกิจหลาย ๆ ราย เลือกใช้มีมเพื่อเข้าถึงลูกค้ากันมากขึ้นเรื่อย ๆ และการใช้เทคโนโลยียุคอุตสาหกรรม 4.0 อย่างระบบเรียนรู้ก็ยิ่งเร่งขับเคลื่อนเทรนด์นี้ไปด้วย

จากตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า โมเดล “as-a-service” ได้สร้างธุรกิจเกิดใหม่ขึ้นมาได้ในทุกอุตสาหกรรมที่เป็นไปได้ เพราะโมเดลดังกล่าวได้นำเสนอคุณประโยชน์ต่าง ๆ มากมายเหนือกว่าวิธีการแบบดั้งเดิม ตั้งแต่การลดต้นทุนไปจนถึงความยืดหยุ่นที่เพิ่มมากขึ้น และนับว่าเป็นอีกแนวคิดชั้นเยี่ยมที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันเหนือคู่ค้ารายอื่น ๆ อีกด้วย