[Guest Post] นินจาแวนทุ่มสุดตัวกับ Google Cloud เพื่อดำเนินการตามวิสัยทัศน์ในการจัดการโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่มีการปรับใช้เทคโนโลยีสำหรับธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

0

การทำงานร่วมกันในขอบเขตที่กว้างขึ้นจะช่วยสนับสนุนกลยุทธ์ของนินจาแวนในการขยายการให้บริการที่ปลอดภัยและยั่งยืน พร้อมทั้งเพิ่มศักยภาพบุคลากรที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีให้สูงสุด

นินจาแวนซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโลจิสติกส์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะขยายการทำงานร่วมกันกับ Google Cloud ที่มีระยะเวลาหลายปี เพื่อช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดได้รับโอกาสในการเติบโตทางดิจิทัลและแก้ไขข้อขัดข้องของซัพพลายเชน การเรียกใช้แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มในโครงสร้างพื้นฐานแบบโอเพนซอร์สที่ปลอดภัยและรองรับการปรับขนาดของ Google Cloud ช่วยให้นินจาแวนมุ่งเสริมสร้างความเป็นผู้นำด้านบริการขนส่งที่จัดส่งสินค้าจากร้านค้าไปยังผู้บริโภคและขยายธุรกิจขึ้นไปถึงการให้บริการโซลูชันการจัดการซัพพลายเชนด้วย

นินจาแวนดำเนินกิจการในไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซียโดยได้รับการสนับสนุนจาก GeoPost/DPDgroup ที่เป็นเครือข่ายนำส่งพัสดุที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป รวมถึงบริษัทลงทุนระดับโลกอย่าง B Capital ตอนนี้นินจาแวนได้เป็นพาร์ทเนอร์การนำส่งที่เชื่อถือได้สำหรับธุรกิจเกือบ 2 ล้านราย และจัดการพัสดุประมาณ 2 ล้านรายการในแต่ละวันทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อไม่นานมานี้นินจาแวนได้เปิดตัว Ninja Direct ซึ่งเป็นบริการความช่วยเหลือด้านการจัดซื้อที่ให้บริการอย่างการจัดการและการจัดหาซัพพลายเออร์ บริการด้านพิธีการศุลกากร บริการด้านการเงิน และการติดตามการจัดส่ง เพื่อสนับสนุนการผลิตและการกระจายสินค้าทั้งบริเวณชายฝั่งและบนฝั่งสำหรับธุรกิจในภูมิภาค

“ผู้ค้าปลีกหันมาใช้กลยุทธ์อีคอมเมิร์ซแทนการขายผ่านกิจการที่มีหน้าร้านจริง โดยเฉพาะเมื่อช่วงการแพร่ระบาดทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าทางออนไลน์มากกว่าที่เคย กระบวนการจัดการวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูปแบบเดิมที่เปลี่ยนแปลงไปยังทำให้มีความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับซัพพลายเชนขนาดเล็กที่ยืดหยุ่นซึ่งจะทำให้ธุรกิจ “ผลิตสินค้าในจุดที่ขาย” และดำเนินการตามคำสั่งซื้อได้รวดเร็วขึ้น” กล่าวโดย Shaun Chong ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของนินจาแวน “เราเลือก Google Cloud เพราะความสามารถที่ได้รับการพิสูจน์แล้วเพื่อช่วยให้เราปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่นและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับจัดการความต้องการด้านการจัดการโลจิสติกส์แบบครบวงจรของภูมิภาค”

ให้อิสระแก่บุคลากรที่มีความสามารถเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและผลลัพธ์

นินจาแวนทำการประเมินอย่างต่อเนื่องว่าได้ใช้บุคลากรที่มีความสามารถทางเทคนิคอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ซึ่งก็คือการกำหนดวิธีที่ระบบคลาวด์สามารถส่งเสริมวิศวกร นักพัฒนาซอฟต์แวร์ และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล 150 คนให้สร้างผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่าแก่ธุรกิจ แทนที่จะใช้เวลาจัดการโครงสร้างพื้นฐานทางไอทีที่ซับซ้อน

แนวทางระบบคลาวด์แบบเปิดของ Google ช่วยให้ทีมเทคนิคของนินจาแวนมีอิสระในการเลือกเครื่องมือที่ต้องการใช้งานเพื่อเร่งการพัฒนาซอฟต์แวร์และปรับขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งยังลดความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีได้ด้วย ตัวอย่างเช่น เมื่อใช้แพลตฟอร์มการประมวลผลข้อมูลแบบโอเพนซอร์สของ Google Cloud ซึ่งผสานรวมกับเครื่องมือแสดงภาพข้อมูลภายนอกที่ต้องการของนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลอย่างอย่างราบรื่น ทีมงานของนินจาแวนจะสามารถประมวลผลข้อมูลหลายเทราไบต์ในแต่ละวันเพื่อรองรับความต้องการของบริษัทได้อย่างสะดวก

หากต้องการสร้างแชทบ็อต NinjaChat รวมถึงจำลองคุณภาพและความฉับไวของการโต้ตอบด้วยตนเอง นักพัฒนาซอฟต์แวร์ของนินจาแวนได้หันมาใช้ตัวแทนเสมือนแบบโอเพนซอร์สที่สร้างไว้ล่วงหน้าของ Google Cloud เพื่อสร้างฟีเจอร์ให้ใช้ได้จริงใน 1 เดือน แทนที่จะใช้เวลา 3 เดือนในการสร้างเฟรมเวิร์กแมชชีนเลิร์นนิงตั้งแต่ต้น

“ฟีเจอร์ใหม่หลายร้อยรายการที่นินจาแวนเปิดให้ใช้งานในแต่ละวันมีตั้งแต่แชทบ็อตที่ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า ไปจนถึงอัลกอริทึมสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางที่ประหยัดเชื้อเพลิง การปรับการทำให้แอปพลิเคชันใช้งานได้ให้เป็นไปโดยอัตโนมัติและการอัปเกรดโดยใช้ Google Kubernetes Engine (GKE) ช่วยให้ทีมเทคนิคของเราลดเวลาในการกำหนดค่าแบ็กเอนด์ด้วยตนเองและทุ่มเทให้แก่การสร้างนวัตกรรมได้เต็มที่” Chong กล่าว

“เราว่าจ้างบุคลากรเพื่อพัฒนาทีมเทคโนโลยีในภูมิภาคอย่างเต็มที่ เมื่อเรามีบุคลากรที่มีความสามารถอยู่ในบริษัท ก็ไม่จำเป็นต้องให้บุคลากรเหล่านั้นสร้างโค้ดที่มีอยู่แล้วและพร้อมใช้งานอีกครั้ง หรือเลือกเซิร์ฟเวอร์ด้วยตนเองที่มี vCPU ที่เหมาะสมหรือ RAM ที่จะทำให้แต่ละแอปพลิเคชันใช้งานได้ เรายินดีที่ Google Cloud ให้โอเพนซอร์สเป็นจุดศูนย์กลางของโซลูชัน ในขณะที่ GKE ก็มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมในการดำเนินการต่างๆ อย่างอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้เราหลักเลี่ยงการผูกมัด ลดต้นทุน และให้บุคลากรในบริษัทมีส่วนต่อธุรกิจได้อย่างมีความหมายยิ่งขึ้น” Chong กล่าวเสริม

การรักษาความปลอดภัยและการไม่มีช่วงพักเพื่อให้ดำเนินการอยู่ตลอดเวลา

ผลการศึกษาของ Google, Temasek และ Bain & Company แสดงให้เห็นว่ามูลค่าการซื้อขายรวม (GMV) ของอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในปี 2021 ไปเกิน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 2.34 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 เมื่อนินจาแวนช่วยผู้ค้าปลีกให้แข่งขันในตลาดที่เติบโตเร็วนี้และขยายอุตสาหกรรมขั้นต้นด้านบริการ ความน่าเชื่อถือและการคุ้มครองข้อมูลจะยังคงมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ

ความต้องการสำหรับบริการของนินจาแวนเพิ่มขึ้น 3 เท่าในช่วงการแพร่ระบาด ความสามารถการปรับขนาดอัตโนมัติแบบไดนามิกของ Google Cloud ช่วยให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของนินจาแวนรองรับการเข้าชมได้มากกว่าปกติ 10 เท่าโดยผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นไม่ว่าจะเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรมลดราคาออนไลน์ครั้งสำคัญ เช่น วันคนโสด ซึ่งตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากแคมเปญเฉพาะกิจที่ผู้ขายใช้ หรือทำการอัปเกรดซอฟต์แวร์หลายพันรายการในแต่ละปี ก่อนที่จะลดทรัพยากรเพื่อลดต้นทุนเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรการประมวลผลอื่นๆ แล้ว

“ประโยชน์ของโซลูชันการรักษาความปลอดภัยที่ออกแบบมาให้อยู่ในโครงสร้างพื้นฐานของ Google Cloud ตั้งแต่ต้น เช่น การเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทางและการแพตช์อัตโนมัติเพื่อป้องกันช่องโหว่อย่าง Apache Log4j 2 ทำให้ตอนนี้เราร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยของ Google Cloud ในด้านอื่นๆ เพื่อพัฒนาโมเดลการรักษาความปลอดภัยแบบ Zero Trust” Chong กล่าว

“เทคโนโลยีคือพื้นฐานสำคัญของการดำเนินงานตลอดเวลาของนินจาแวน ดังนั้นการไม่มีช่วงพักถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการนำส่งหรืองานที่ยังทำไม่เสร็จ นอกจากนี้ การรักษาความปลอดภัยยังมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ มาโดยตลอด เนื่องจากแบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้นและเราร่วมงานกับบุคคลที่สามเพิ่มขึ้นหลังจากขยายขอบเขตอุตสาหกรรมขั้นต้น เรากำลังทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการเสริมสร้างการป้องการข้อมูลของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการรับประกันการให้บริการอย่างไม่มีสะดุดหรือการรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้า ทีมงานที่ Google Cloud ก็เป็นพาร์ทเนอร์ที่ทุ่มเทแก้ไขปัญหาให้เราเสมอ ความสัมพันธ์ที่เพิ่มมากขึ้นจะช่วยให้นินจาแวนเรียกใช้ภาระงานทั้งหมดใน Google Cloud โดยที่ทีมงานยังมีบทบาทสำคัญในการเติบโตขั้นถัดไป” Chong กล่าวเสริม

“เราภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับนินจาแวนที่เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านการจัดการโลจิสติกส์แบบครบวงจร และหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าสูงซึ่งปรับใช้เทคโนโลยีและได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุด” กล่าวโดย Ruma Balasubramanian กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Google Cloud “การลงทุนกับบุคลากรที่มีความสามารถระดับโลกและนวัตกรรมที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งช่วยให้บริษัทอยู่ในจุดที่มีแนวโน้มสูงว่าจะให้บริการได้ทันท่วงทีและมีความสามารถในการกระจายสินค้าที่ธุรกิจต้องการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันเนื่องจากความเร่งด่วนและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์” Google Cloud จะยังคงรักษามาตรฐานด้านความน่าเชื่อถือ การทำงานร่วมกัน การเปิดกว้าง และการรักษาความปลอดภัยให้สูงต่อไป ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนวิสัยทัศน์ของนินจาแวนที่จะเปิดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าสู่โลกแห่งโอกาสด้านการพาณิชย์”