เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์นั้นเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางในปี 2018 ทั้งในเรื่องราวของความก้าวหน้า ความสำเร็จ ปัญหา ปรัชญา และอื่นๆที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ได้รับความสนใจอยู่เสมอ ADPT ชวนคุณมาย้อนมองกันดูว่ามีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้างเกี่ยวกับเจ้าเทคโนโลยี AI ในรอบปีที่ผ่านมา
Harder Better Faster Stronger
AI นั้นถูกพัฒนาให้เก่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2018 พวกมันสามารถทำงานที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม Dota2 หรือการประกอบเฟอร์นิเจอร์จาก IKEA ที่มนุษย์บางคนยังต้องจอด สิ่งเหล่านี้คือผลลัพธ์จากพลังประมวลผลที่เพิ่มขึ้น อัลกอริทึมที่ฉลาดขึ้น และชุดข้อมูลที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ
- Nvidia, Qualcomm, และ Huawei ต่างก็ออกชิปที่มีส่วนสำหรับประมวลผล AI โดยเฉพาะ, Graphcore ก็เป็นอีกหนึ่งสตาร์ทอัพชิป AI น่าจับตามอง
- AlphaZero ร่างพัฒนาจาก AlphaGo เล่นทั้งหมากล้อม หมากรุก และ Shogi ได้เก่งกว่าเดิมด้วยการคิดน้อยครั้งกว่า และล่าสุดนอกจากจะเล่นหมากรุกเก่งแล้ว ยังเล่นได้อย่างมีลูกล่อลูกชน มีการหยอกล้อคล้ายผู้เล่นมนุษย์เข้าไปทุกที
- งานวิจัยจาก MIT เสนอแนวทางประมวลผลภาพถ่ายทางการแพทย์ได้เร็วกว่าเดิม 1,000 เท่า
- นักวิจัยพบว่า AI สามารถค้นพบวัสดุชนิดใหม่ได้เร็วกว่าเดิม 200 เท่า
- OpenAI Five เข้าร่วมแข่งขัน Dota2 ในทัวร์นาเมนท์ The International
- ทีมนักวิจัยจาก Google คิดค้นโมเดลใหม่สำหรับงานประมวลผลภาษาธรรมชาติซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิมใน 11 แง่มุม เช่น การตอบคำถาม การอนุมาน การเข้าใจเนื้อหาที่อ่าน เป็นต้น
ใครๆก็(อยาก)ใช้ AI
ผู้ให้บริการต่างก็แข่งขันกันมอบความสามารถด้าน AI ให้กับธุรกิจ ซึ่งก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ในปัจจุบัน เป็นที่ยอมรับกันว่าโอกาสทางธุรกิจของ AI นั้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ได้แก่ ระบบ Automation, ระบบ Analytics, และการเสริมสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้แก่ลูกค้า
- มีเครื่องมือ AI ให้เลือกใช้กันมากมายสำหรับงานทุกประเภททุกอุตสาหกรรม ทั้งจากเวนเดอร์เจ้าใหญ่อย่าง Amazon, Google, Microsoft และสตาร์ทอัพรายย่อย
- SAP ประกาศลงทุนเพิ่มในเทคโนโลยี Robotic Process Automation และเพิ่มเครื่องมือ AI ใหม่ๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีใหม่แกะกล่องอย่าง SAP Conversational AI ที่ช่วยให้ธุรกิจสร้าง Chatbot ได้อย่างรวดเร็ว หรือการนำ Machine Learning เข้าไปเพิ่มความสามารถในโซลูชันเดิมที่มีอยู่
- Microsoft ทยอยนำ AI มาช่วยให้ Microsoft Office ทำงานได้ฉลาดยิ่งขึ้น
- จากการสำรวจองค์กร 1,100 รายโดย Deloitte พบว่ากว่าร้อยละ 88 มีแผนที่จะเพิ่มเงินลงทุนใน AI และร้อยละ 79 เชื่อว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้ดีขึ้น
- LinkedIn รายงานว่าปัจจุบันในสหรัฐกำลังขาดแคลน Data Scientist อย่างรุนแรง
ปัญญาประดิษฐ์กับการแพทย์
AI ได้รับการคาดหวังเป็นอย่างมากว่าจะเข้ามาเป็นตัวเร่งปฏิกริยาการพัฒนาแง่มุมต่างๆของวงการแพทย์ และในปี 2018 เทคโนโลยีดังกล่าวก็ได้แสดงให้เราเห็นถึงศักยภาพมากมายที่รอการขัดเกลาเพื่อเริ่มใช้งานเต็มรูปแบบ
- Image Processing กลายมาเป็นอาวุธหลักในการตรวจจับความผิดปกติและความเสี่ยงในการเกิดโรค ด้วยเทคนิคดังกล่าว AI สามารถช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรค เช่น โรคหัวใจ อัลไซเมอร์ มะเร็ง และเบาหวาน เป็นต้น
- ปัญญาประดิษฐ์สามารถออกแบบตัวยาได้เองตั้งแต่เริ่มแล้ว นับเป็นอีกขั้นของ Drug Discovery AI ที่เริ่มใช้งานกันอย่างแพร่หลายในบริษัทยาใหญ่ๆ
- IBM Research พัฒนา AI วินิจฉัยอาการป่วยทางจิตจากบทสนทนาได้อย่างแม่นยำ และทีมจาก MIT ก็พัฒนาระบบที่ทำงานคล้ายกันในการตรวจอาการซึมเศร้าผ่านการพูดคุย
- AI จาก DeepMind เริ่มสามารถทำนายรูปร่าง 3 มิติของโปรตีนจากการเรียนรู้ข้อมูลลำดับทางพันธุกรรม
- Energias Market Research คาดการณ์ว่าตลาด AI วงการแพทย์จะมีมูลค่า 19,900 ล้านดอลล่าร์ในปี 2024 ซึ่งเป็นการเติบโตที่อัตรา 48.7% ต่อปี
Smart Assistant
ว่ากันว่าการพูดคุยกับคอมพิวเตอร์จะเข้ามาเป็นรูปแบบใหม่ของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และคอมพิวเตอร์ (Human-Computer Interaction) ในปี 2018 ผู้คนพูดคุยกับ Alexa และ Siri อย่างสนิทสนม และการมี Smart Speaker ในบ้านก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อีกต่อไป
- การสำรวจจาก RBC Capital Markets พบว่าร้อยละ 41 ของผู้บริโภคชาวอเมริกันมี Smart Speaker ในครอบครอง และในสหรัฐอเมริกา Amazon ยังคงเป็นผู้นำตลาด ตามมาด้วย Google โดยคาดการณ์ว่า Alexa จะนำรายได้สู่บริษัทสูงถึง 18,000-19,000 ล้านเหรียญในปี 2021
- Google Duplex เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ด้วยตัวอย่างของการโทรศัพท์ไปจองคิวร้านตัดผมได้อย่างไหลลื่นเป็นธรรมชาติ
- ด้าน Alibaba ก็ได้นำ AI บริการลูกค้ามาแสดงในงานสัมมนาวิชาการ โดยกล่าวว่าปัจจุบัน AI นี้ติดต่อพูดคุยกับลูกค้าหลายล้านครั้งในหนึ่งวัน
- Gartner เผยองค์กร 21% มีแผนนำ Conversational Platform เข้ามาใช้งาน
AI กับความคิดสร้างสรรค์
ปัญญาประดิษฐ์ทำได้ดีทีเดียวในปีนี้กับการตอบโต้คำปรามาสของมนุษย์ที่ว่าเครื่องกลนั้นไม่มีทางเข้าใจอะไรที่ละเอียดอ่อนเช่น อารมณ์ ความคิดสร้างสรรค์ หรือศิลปะได้ ในปีที่ผ่านมา พวกมันได้แสดงให้ประจักษ์แล้วว่าหากมีข้อมูลที่ดี และวิธีการที่เหมาะสม AI ก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่แปลกใหม่น่าสนใจออกมาได้
- Zone Out – ภาพยนตร์สั้นไซไฟที่มีผู้กำกับ เขียนบท พากย์เสียง และประพันธ์เพลงเป็น Benjamin – LSTM Recurrent Neural Network ภาพยนตร์ดังกล่าวใช้เวลาผลิต 48 ชั่วโมง และมีมนุษย์เป็นผู้ช่วยในการนำภาพจากข้อมูลหนังเรื่องต่างๆมาตัดต่อรวมกัน
- Portrait of Edmond Belamy ภาพวาดโดย AI ถูกนำขึ้นประมูลทางศิลปะเป็นครั้งแรกโดย Christie’s และปิดการประมูลไปที่ 432,500 เหรียญ (ประมาณ 14 ล้านบาท)
- AI จาก Nvidia สามารถสร้างภาพถ่ายใบหน้ามนุษย์ที่เหมือนจริงจนน่าตกใจด้วยการผสมรวมส่วนต่างๆของใบหน้าจากข้อมูลที่ได้เรียนรู้มา
- AI แต่งเพลงได้เก่งขึ้นเรื่อยๆ บริการแต่งเพลงโดย AI เริ่มเป็นที่แพร่หลายและถูกใช้งานโดยศิลปิน แต่ดูเหมือนว่าจะยังแต่งเนื้อเพลงได้ไม่เก่งนัก
- Lexus ให้ AI เป็นผู้เขียนบทโฆษณารถยนต์รุ่นใหม่ซึ่งดูดีทีเดียว ในขณะที่ Burger King ออกชุดโฆษณาแปลกน่าขนลุกที่เขียนบทโดยอัลกอริทึม Deep Learning
AI? ปัญหา?
มนุษย์เริ่มนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้งานในชีวิตประจำมากขึ้น และ AI ก็ช่วยงานได้ในหลายอย่างที่มันไม่เคยรับผิดชอบมาก่อน ทว่าในปี 2018 นี้ก็มีหลายครั้งที่ AI ถูกตั้งคำถาม โดยมีประเด็นร้อนแรง 3 ข้อ ได้แก่ การนำไปใช้ อคติ และความเป็นส่วนตัว
การนำไปใช้
แม้ AI จะได้รับการยอมรับมากขึ้นจากสังคม แต่ก็ยังมีฝ่ายที่เป็นกังวลถึงศักยภาพในการทำลายของมันหากถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด
- ฝ่ายไม่ไว้วางใจมีแนวหน้าอย่าง Elon Musk ผู้ออกมาเตือนหลายครั้งถึงหายนะที่อาจเกิดขึ้นเพราะปัญญาประดิษฐ์ ฝ่ายนี้มักเสนอให้มีการควบคุมการพัฒนาเทคโนโลยี AI ไปจนถึงการชะลอการพัฒนา โดยเกรงว่าการพัฒนาอย่างเสรีในปัจจุบันจะนำไปสู่กรณีเลวร้าย เช่น สงครามโลกที่มี AI เป็นอาวุธ โดยล่าสุด Sundar Pichai – CEO ของ Google ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เช่นกันว่าความหวาดกลัวที่หลายคนมีต่อการนำ AI ไปใช้ในทางที่ไม่ดีนั้นมีมูลจริง
- ด้านฝ่ายตรงข้าม เช่น Mark Zuckerburg มองว่าศักยภาพของ AI นั้นไม่ควรถูกจำกัดเพียงเพราะความกลัว เพราะในปัจจุบัน AI ได้ช่วยให้มนุษยชาติรุดหน้าไปได้อีกขั้นในวิทยาการด้านต่างๆ รวมไปถึงการแพทย์และการแก้ไขปัญหาใหญ่ๆที่จะช่วยชีวิตผู้คนหลายล้านรายทั่วโลก
- นักวิชาการ AI มากกว่า 50 รายประกาศบอยคอตมหาวิทยาลัย KAIST ของเกาหลีใต้ที่จัดตั้งห้องแลปอาวุธ AI ร่วมกับ Hanwha Systems ซึ่งภายหลังทางม.ได้ออกมาปฏิเสธว่าจะไม่มีการพัฒนาอาวุธอัตโนมัติในห้องแลปนี้
- Google เจอกระแสต่อต้านอย่างหนักเมื่อมีข่าวหลุดออกมาว่ามีโปรเจกต์ร่วมกับกลาโหมสหรัฐภายใต้ชื่อ Project Maven ข่าวนี้นำไปสู่การล่ารายชื่อ ประท้วง และการยกเลิกไม่ต่อสัญญาความร่วมมือ และภายหลัง Google ได้ตีพิมพ์หลักการในการพัฒนา AI และเผยแพร่ขั้นตอนการตรวจสอบภายใน
อคติใน Machine Learning
คอมพิวเตอร์มักได้รับความไว้วางใจว่าปราศจากอคติ แต่ในปัจจุบันอคติไม่ใช่เรื่องที่ถูกจำกัดอยู่ในมนุษย์อีกต่อไป เมื่ออัลกอริทึมเริ่มเรียนรู้จากข้อมูล อคติในชุดข้อมูลก็ตามมาและบ่อยครั้งก็ทำให้โมเดล Machine Learning ทำงานผิดเพี้ยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับข้อมูลที่เกี่ยวกับผู้คน
- งานวิจัยจาก MIT และ Stanford เผยว่า 3 ระบบวิเคราะห์ภาพใบหน้าจากบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ล้วนแล้วแต่มีอคติทางสีผิวและเพศ
- Amazon ยกเลิกระบบการรับสมัครงานอัตโนมัติ หลังพบว่าระบบมักจัดให้ผู้สมัครหญิงอยู่ในระดับต่ำกว่าผู้สมัครชาย เนื่องมาจากชุดข้อมูลที่เรียนรู้มานั้นมีแต่ผู้สมัครชายเป็นส่วนใหญ่
- IBM เผยแพร่ชุดข้อมูลใบหน้า 1,000,000 รายการ เพื่อเพิ่มความครอบคลุมให้โมเดล ML ได้เรียนรู้ และ Kaggle จัดประกวด Inclusive Images Challenge เพื่อพัฒนาอัลกอริทึมระบุประเภทภาพที่ทำงานในแม้ภาพถ่ายมาจากวัฒนธรรมและสถานที่ที่แตกต่างจากชุดข้อมูลในการเทรน
- Google ออกคอร์ส Machine Learning Fairness ความยาว 70 นาทีเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับอคติที่อาจเกิดขึ้นในชุดข้อมูลและระบบ Machine Learning
ความเป็นส่วนตัว
ขึ้นชื่อว่า Machine Learning แล้วก็ย่อมพัฒนาด้วยการเรียนรู้จากข้อมูล และเมื่อข้อมูลต้องมาจากผู้ใช้ เราควรขีดเส้นตรงไหนที่จะทำให้ประโยชน์จาก AI และความเป็นส่วนตัวนั้นสมดุลกัน
- Facebook และ Cambridge Analytica ขึ้นหน้าหนึ่งในปีนี้หลายต่อหลายครั้งหลังถูกเปิดเผยว่า Cambridge Analytica ได้นำข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊คกว่า 87 ล้านรายไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยได้นำไปวิเคราะห์เพื่อสร้างกลยุทธ์โน้มน้าวใจให้กับนักการเมืองผู้ว่าจ้าง ได้แก่ Donald Tump และ Ted Cruz ในการเลือกตั้งสหรัฐช่วงปี 2015-2016, ฝ่าย Leave ในการโหวตออกจาก EU ของสหราชอาณาจักรในปี 2016, และพรรค Institutional Revolutionary Party ในการเลือกตั้งทั่วไปของแม็กซิโกในปี 2018 นี้
- Tim Cook ขึ้นพูดในงานสัมมนาเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวว่า AI ควรถูกพัฒนาขึ้นให้เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
- Google เผชิญหน้ากับข่าวหลุด Project Dragonfly เสิร์ชเอ็นจิ้นเซ็นเซอร์ที่อาจเปิดให้บริการในจีน ซึ่งทำให้หลายฝ่ายเคลือบแคลงในจุดยืนด้านความเป็นส่วนตัวของ Google รวมทั้ง Google+ ที่มีปัญหาข้อมูลผู้ใช้กว่า 52.5 ล้านรายรั่ว จนตัดสินใจปิดตัว
- Amazon เริ่มขายระบบรู้จำใบหน้า Rekognition ให้กับตำรวจ สร้างความไม่พอใจให้กับสาธารณะ องค์กรมนุษยชน และพนักงานภายในบริษัท ทว่า Amazon ก็ยังเชื่อว่าไม่ควรแบนการใช้งานเทคโนโลยีเพียงเพราะอาจมีคนนำไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง
เครื่องกลคิดเป็นไหม? Alan Turing ตั้งคำถามขึ้นในเปเปอร์ซึ่งถูกตีพิมพ์เมื่อปี 1950 ในเวลาถัดมา คำถามนี้กลายมาเป็นสิ่งที่จุดประกายให้เกิดการขบคิดและการพัฒนาทางด้านคอมพิวเตอร์ การประมวลผล และปัญญาประดิษฐ์อย่างมากมาย
ในปี 2018 – 68 ปีให้หลังจากการตีพิมพ์ คอมพิวเตอร์ฉลาดขึ้นอย่างมหาศาลและทำในสิ่งที่หลายคนอาจไม่เคยจินตนาการถึง ทว่าดูเหมือนว่าความสามารถเหล่านี้ก็ยังคงไม่เพียงพอที่จะเรียกเครื่องกลว่าฉลาดได้….